บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Pruksa Holding (PSH.BK/PSH TB)*

ผลประกอบการ 3Q65: กำไรต่ำกว่าที่คาดไว้ 16%

Event

ผลประกอบการ3Q65 และปรับประมาณการปี 2565-2566F

Impact

กำไรปกติดีดตัวขึ้น 86% YoY และ 45% QoQ

PSH รายงานกำไรปกติใน 3Q65 ที่ 613 ล้านบาท (+86% YoY และ +45% QoQ) ต่ำกว่าคาด 16% จาก ยอดโอนแนวราบ และ SG&A แย่กว่าคาด โดยภาพรวมโมเมนตัมของกำไรสุทธิใน 3Q65 ยังคงฟื้นตัวแข็งแกร่งทั้ง YoY และ QoQ ผลักดันจาก i) การเริ่มโอนคอนโดมิเนียม 3 โครงการ และ ii) ผลการดำเนินงานธุรกิจโรงพยาบาลดีขึ้น โดยรวม 9M65 กำไรปกติฟื้นตัวที่ 1.5 พันล้านบาท (+ 21% YoY) จากฐานต่ำ คิดเป็น 62% ของประมาณการเราปี 2565F

ทางด้านยอดโอนที่อยู่อาศัย 3Q22 อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท (+6% YoY และ +24% QoQ) แบ่งเป็น i) ยอดโอนโครงการแนวราบอ่อนแอที่ 3.8 พันล้านบาท (-15% YoY และ +1% QoQ) และ ii) ยอดโอนคอนโดมิเนียมแข็งแกร่งที่ 2.6 พันล้านบาท (+68% YoY และ +87% QoQ) ทั้งนี้ยอดโอนโครงการแนวราบแย่ลงจากการเปิดตัวโครงการน้อยในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งมีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อ (rejection rate) สูงในกลุ่มราคาที่อยู่อาศัยราคาระดับล่าง สวนทางกับยอดโอนคอนโดมิเนียม 3Q65 ที่แข็งแกร่งจากเริ่มมีการโอนคอนโดมิเนียม 3 โครงการ  เช่น Chapter เจริญนคร-ริเวอร์ไซด์ (มูลค่าโครงการ 5.2 พันล้านบาท) สำหรับความสามารถในการทำกำไร อัตราการทำกำไรขั้นต้นชะลอลง 0.4ppts QoQ อยู่ที่ 32.0% ส่วนหนึ่งถูกกดดันจากการรับรู้รายได้จากการขายที่ดินที่มี margin น้อยกว่าค่าเฉลี่ย

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566F ลง 17% / 14%

จากผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดใน 3Q65 และการเปิดโครงการใหม่น้อยกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้านี้ เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2565-2566F ลง 17% / 14% ปัจจัยเสี่ยงที่น่าติดตาม คือ การลงทุนของ PSH ที่อนุรักษ์นิยม อาจส่งผลต่อแนวโน้มยอดโอนในอีก 2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตาม มองในแง่บวกเราคาดว่าธุรกิจโรงพยาบาลอาจพลิกเป็นกำไรใน 2H65F ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนการขายสต็อกแนวราบของ PSH ในปี 2566F

Valuation & action

สำหรับระยะถัดไป เราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรสุทธิใน 4Q65F จะเป็นจุดสูงสุดในปี 2565F เนื่องจากมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่พร้อมโอนอีก 4 โครงการ ทั้งนี้ จากราคาหุ้นที่ไม่แพง (ซื้อขายอยู่ที่ 0.6x P/BV ปี 2566F) ในขณะที่คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2565-2566F จะอยู่ราว 8% เราจึงยังคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 14.20 บาท (จากเดิมที่ 16.00 บาท) อิงจาก PE ปี 2566F ที่ 9.5x หรือเทียบเท่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 5 ปี

Risks

ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง

- Advertisement -