บล.ทิสโก้:
บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ (PIMO TB) รายได้และอัตรากำไรฟื้นตัวช้ากว่าคาด
กําไรสุทธิลดลงเล็กน้อย YoY และ QoQ
PIMO รายงานกำไรสุทธิช่วง 3Q22 ที่ 29 ล้านบาท ลดลง 5.7% YoY และ 5.5% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ 36 ล้านบาท แต่ดีกว่าที่ Consensus คาด โดยมีสาเหตุหลักมาจากยอดขายที่ลดลงในกลุ่มเครื่องปรับอากาศ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด แต่ยังคงสามารถควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายรายการอื่นๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตรากำไรสุทธิออกยังทรงตัว QoQ ได้ ยังคงแนะนำ ซื้อ ด้วยมูลค่าเหมาะสมที่ 5.1 บาท จากแนวโน้มมอเตอร์ปั๊มน้ำ, สระและสปา ที่ยังได้ BLDC ช่วยหนุนการเติบโต และอัพไซด์จากมอเตอร์รถมอเตอร์ไซค์ EV ที่คาดจะเริ่มเห็นใน 2023F
ยอดขายออกมาต่ำกว่าคาด
ยอดขายในช่วง 3Q22 อยู่ที่ 292 ล้านบาท (+16% YoY, -5.4% QoQ) ต่ำกว่าที่เราคาด แม้จะเป็นช่วง High season ของ PIMO ก็ตาม โดยมียอดขายมอเตอร์เครื่องปรับอากาศ 70 ล้านบาท (จากที่คาดไว้ที่ 113 ล้านบาท) ซึ่งคาดมาจากการเลื่อนคำสั่งซื้อของลูกค้า และสัดส่วนการส่งออกสู่ประเทศคู่ค้าต่างๆ (อาจส่งออกให้ออสเตรเลียลดลง ส่วนทางตัวเลขยอดส่งออกของไทยสู่ออสเตรเลียใน 3Q22 ที่เติบโตดีต่อเนื่อง 16% MoM) ส่วนมอเตอร์เครื่องปรับอากาศและปั๊มน้ำยังคงเติบโตได้ 10% QoQ ต่ำกว่าที่เราคาด 4% โดยคาดได้รับปัจจัยบวกจากน้ำท่วม และการส่งออกมอเตอร์ปั๊มสระ สปา สู่สหรัฐฯ และออสเตรเลีย
กำไรขั้นต้นยังคงถูกกดดัน
อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.1% ใน 3Q22 เทียบกับ 15.9% ใน 2Q22 และ 20.6% ใน 3Q21 โดย YoY ลดลงเนื่องจากต้นทุนทองแดงและอะลูมิเนียมที่สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วน QoQ คาดเกิดจาก Product mix และราคาเหล็กซิลิคอนที่ยังคงสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี มีรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น (9M22 เพิ่มขึ้นราว 16.3 ล้านบาท YoY จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนและการขายซาก) รวมทั้งเห็น SG&A to sales และภาษีเงินได้ที่ลดลง ส่งผลให้สามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิได้เหมือนเดิมที่ 9.9% เท่าเดิม
ปรับประมาณการ ยังแนะนำ ซื้อ
แม้ไตรมาสที่ 3 อาจไม่สดใส แต่เรายังคงมองเห็นถึงทิศทางการดำเนินงานโดยรวมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยกำไรสุทธิ 9M22 ที่ 92 ล้านบาท ยังคงเติบโตดีขึ้น 22.7% YoY สำหรับไตรมาส 4 เราคาดเห็นยอดขายถูกกดดันต่อจากปัจจัยด้านฤดูกาล เราปรับประมาณการรายได้ลงจากดีลจากออสเตรเลียที่คาดเลื่อนออกไปเป็นปี 2023F จากการส่งมอบเครื่องจักรที่ล่าช้า และลด GPM ปีนี้ลงเหลือ 16% และมีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท แต่ยังคงประมาณการปี 23-24F รอติดตามแนวทางผู้บริหารในงาน Opportunity Day วันที่ 14 พ.ย. นี้
