บล.บัวหลวง: 

Aapico Hitech (AH TB/AH.BK)

AH – ไตรมาส 3/65 ดีกว่าคาดมาก!

กําไรหลักสูงกว่าเราคาด 33%

AH รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 601 ล้านบาท เติบโตย่างแข็งแกร่ง 156% YoY และ 47% QoQ หากไม่รวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 175 ล้านบาท กําไรหลักจะอยู่ที่ 426 ล้านบาท เติบโต 236% YoY และ 52% QoQ ซึ่งดีกว่าที่เราคาด 33% และดีกว่าตลาดคาด 30% เนื่องจากรายได้ที่สูงขึ้นจากทั้งธุรกิจ OEM และธุรกิจตัวแทนจําหน่ายรถ

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งหนุนมาจากรายได้ในไตรมาส 3/65 ที่ 7,300 ล้านบาท เติบโต 72% YoY และ 19% QoQ (สูงกว่าที่เราคาด 10% และสูงกว่าตลาดคาด 7%) ฐานที่ต่ำในไตรมาส 3/64 เป็นผลมาจากมาตรการ ควบคุมโควิดในไทยและโปรตุเกส ยอดขาย OEM เติบโต 51% YoY และ 15% QoQ โดยได้รับผลประโยชน์จากคําสั่งซื้อจำานวนมากจากลูกค้าหลัก รถรุ่นใหม่ และสินค้าใหม่ ดังนั้นรายได้ OEM ในไตรมาส 3/65 จึงเติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ในไทย ซึ่งโต 34% YoY และ 27% QoQ รายได้ธุรกิจตัวแทนจําหน่ายรถเติบโต 163% YoY และ 30% QoQ หนุนมาจากโชว์รูมใหม่ๆ รถรุ่นใหม่ของ Ford และโครงการยกเว้นภาษีขายและบริการ (SST) ของมาเลเซีย

อัตรากําไรขั้นต้นอยู่ที่ 11.1% ขึ้นจาก 9.3% ในไตรมาส 3/64 และ 10.1% ในไตรมาส 2/65 ราคาเหล็กไม่เปลี่ยนแปลง QoQ แต่มีการทยอยปรับต้นทุนกับ ลูกค้าในโปรตุเกส

แนวโน้ม

เราคาดกําไรหลักไตรมาส 4/65 ที่ 312 ล้านบาท เติบโต 109% YoY แต่ลดลง 27% QoQ เนื่องจากปกติไตรมาสที่สี่จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นสําหรับยอดขาย OEM ในโปรตุเกส อัตรากำไรอาจจะถูกกดดัน เนื่องจากต้นทุนอัตราค่าไฟที่สูงขึ้น และผลจากอุปสงค์ที่เร่งตัวจากรถรุ่นใหม่น่าจะเริ่มเบาบางลง

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากน่าผลประกอบการไตรมาส 3/65 เข้าสู่ประมาณการ เราได้ปรับขึ้นประมาณการกำไรหลักปี 2565 จาก 1,294 ล้านบาทไปเป็น 1,425 ล้านบาท

คําแนะนํา

เรายังคงคําแนะนํา “ซื้อ” โดยมีราคาป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ที่ 45 บาท โดยเราคาดจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2566 หนุนมาจากคําสั่งชื้อใหม่ๆ ของ Ford ที่เริ่มผลิตในไทยในปี 2565 และในต่างประเทศในปี 2566 นอกจากนี้ BYD จะเริ่มสร้างโรงงานแรกในประเทศไทย AH กล่าวว่าเป็นพันธมิตรกับ BYD ดังนั้นเราคาด AH จะได้รับคําสั่งชื้อจาก BYD เมื่อโรงงานของ BYD เริ่มดำเนินการ

- Advertisement -