บล.บัวหลวง: 

BTS Group Holdings (BTS TB/BTS.BK)

BTS – กำไรไตรมาส 2/65 ต่ำกว่าคาด แต่แนวโน้มไตรมาส 3/65 ฟื้นตัว QoQ

กําไรต่ำกว่าคาด

BTS รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/65 (เดือน ก.ค. – ก.ย. 2565) ที่ 474 ล้านบาท ลดลง 18% YoY และ 12% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 28% (ขาดทุนจากบริษัทร่วมทุนและบริษัทย่อยที่มากกว่าคาด) และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 39% หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 363 ล้านบาท ลดลง 4% YoY และ 39% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 45% (ขาดทุนจากบริษัทร่วมทุนและบริษัทย่อย) และต่ำกว่าตลาดคาด 51%

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

BTSGIF รายงานจำนวนผู้โดยสารเดือน ก.ค. – ก.ย. ที่ 40.2 ล้านเที่ยว ปรับตัวขึ้น 278% YoY และ 31% QoQ หนุนมาจากจำนวนการเดินทางที่มากขึ้น เนื่องจากการคลายล็อคดาวน์และข้อจำกัดการเดินทางที่เกี่ยวเนื่องจากโค วิด โดยอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 32.4 บาท/เที่ยว ปรับตัวขึ้น 3.1% YoY (การยกเลิกบัตรรายเดือน) แต่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย QoQ รายได้ของ BTS ลดลง 18% YoY แต่เพิ่มขึ้น 14% QoQ สอดคล้องไปกับทิศทางรายได้จาก ธุรกิจ E&M บนระบบขนส่งมวลชน ค่าใช้จ่ายลดลง 27% YoY แต่เพิ่มขึ้น 18% QoQ สอดคล้องไปกับรายได้ที่เปลี่ยนแปลง

แนวโน้ม

เราคาดว่ากำไรหลักไตรมาส 3/65 (เดือน ต.ค. – ธ.ค. 2565) จะลดลง YoY (รายได้ที่ลดลงของธุรกิจ E&M บนระบบขนส่งมวลชน) แต่เพิ่มขึ้น QoQ (จํานวนผู้โดยสารและเม็ดเงินโฆษณาที่เยอะขึ้น รวมทั้งการขาดทุนของ KEX ที่น้อยลง)

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

หลังจากนําผลการดำเนินงานไตรมาส 2/65 เข้าสู่ประมาณการ เราได้ปรับประมาณการกำไรหลักปี 2555 ลง 16% มาอยู่ที่ 2,144 ล้านบาท (ลดลง 28% YoY) อย่างไรก็ตามราคาเป้าหมายของเรายังคงเดิมที่ 13.60 บาท

คําแนะนํา

รถไฟฟ้าสายสีชมพูและเหลืองจะเริ่มดำเนินงานในปี 2566 ซึ่งค่าใช้จ่ายจากสายดังกล่าวจะกดดันกำไรในปี 2565-66 แต่เครือข่ายรถไฟฟ้าที่ขยายตัว (ทั้งของ BTS และ BEM) และการฟื้นตัวของการใช้ระบบขนส่งมวลชน (เนื่องจากการฟื้นตัวจากโควิด) จะหนุนให้จำนวนผู้โดยสารของ BTS ไปทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งจะบรรเทาผลกระทบของต้นทุนเริ่มต้นสำหรับสายสีชมพูและเหลือง และเราคาดกําไรจะเริ่มขยายตัวอย่างมากในปี 2568 (เม.ย. 2568 – มี.ค. 2569) นอกจากนี้ระบบขนส่งมวลชนของ กทม. จะยังคงขยายตัวต่อไป ดังนั้นแม้จะไม่มีปัจจัยหนุนที่ชัดเจนในระยะสั้น แต่เรามองว่า BTS ยังคงเป็นหุ้นที่ดีต่อการลงทุนในระยะยาว

- Advertisement -