บล.บัวหลวง: 

Jasmine Broadband Internet Infrastructure Fund (JASIF TB/JASIFU.BK)

JASIF – ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนเงื่อนไขสัญญาเช่าหลักหลังสิ้นสุดอายุสัญญา

การเข้ามาของ ADVANC ส่งผลให้เราปรับลดราคาเป้าหมายของเราที่อิงจากวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) เพื่อสะท้อนความเสี่ยงในระยะยาวที่จะเพิ่มขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาเช่าหลักหลังจากสิ้นสุดอายุสัญญาเช่าในเดือนม.ค. 2575 เราปรับลดคำแนะนำลงเหลือแค่ “ถือ” (จากเหตุผลของมูลค่าหุ้นที่เต็มแล้ว) เพื่อรอรับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในระดับสูงในช่วง ปี 2565-74

มติบอร์ดของ ADVANC อนุมัติการเข้าซื้อ TTTBB และ JASIF

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา บอร์ดของ ADVANC ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) (บริษัทย่อยที่ถือโดย ADVANC ทั้งหมด) ให้เข้าซื้อ TTTBB และ JASIF ถึงแม้ว่าเงื่อนไขการยกเลิกสัญญารับประกันการเช่าและการแก้ไขสัญญาเช่าหลักจะไม่ได้รับการอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ก็ตาม และเนื่องจากผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF ปฏิเสธการแก้ไขเงื่อนไขของสัญญาเช่า ADVANC จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเดิมของสัญญาเช่าจนกว่าจะสิ้นสุดสัญญาเช่าในเดือนม.ค. 2575 แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การต่ออายุสัญญาเช่าหลังจากวันสิ้นสุดอายุสัญญาเช่าจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อกําหนดและเงื่อนไขที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อรองรับความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ถ้าเปรียบเทียบกับทางเลือกอื่นๆ ที่เป็นไปได้เพื่อให้มั่นใจว่ามีต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมในระยะยาว ADVANC จะพิจารณาการขายสินทรัพย์โทรคมนาคมพร้อมทางเลือกอื่น เพื่อสนับสนุนให้การใช้ต้นทุนทางการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทคาดว่าการ ชื้อหุ้น TTTBB และลงทุนใน JASIF จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66

ความเสี่ยงสูงของสัญญาเช่าหลักหลังจากหมดอายุลงในเดือนม.ค. 2575

ถึงแม้การเข้ามาของ ADVANC ในฐานะสปอนเซอร์รายใหม่จะหนุนความแข็งแกร่งด้านฐานะทางการเงินและความสามารถในการชำระค่าเช่าให้แก่ JASIF แต่เราเชื่อว่าก็จะตามมาด้วยต้นทุนการระดมเงินทุนที่คาดว่าจะลดลงสําหรับ ADVANC (และผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ลดลงสําหรับผู้ถือหน่วยลงทุนของ JASIF) ในระยะยาว และด้วยข้อแถลงที่ชัดเจนของ ADVANC ข้างต้น จะส่งผลให้เกิดความไม่มั่นใจในระยะยาวสําหรับข้อกาหนดและเงื่อนไขที่มีอยู่ ณ ปัจจุบันสําหรับ (1) ช่วงหลังจากเดือนม.ค. 2575 สําหรับสัญญาเช่าหลักสองสัญญาจํานวน 1.34 ล้านกม.หลัก (ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 ม.ค. 2575) และสัญญาประกันรายได้เพิ่มเติม 0.14 ล้านกม.หลัก (ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 29 ม.ค. 2575) และ (2) ช่วงหลังจากเดือนก.พ. 2569 สําหรับสัญญาประกันรายได้ตัวเดิม 0.196 ล้านกม.หลัก (ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 22 ก.พ. 2569)

เราปรับเปลี่ยนไปใช้เป็นราคาเป้าหมาย DCF ภายใต้สมมติฐานกรณีปกติ

สมมติฐานกรณีปกติของเรา ได้แก่ (1) ADVANC จะขอต่อรองลดค่าเช่าลงอีก 25% หลังจากเดือนก.พ. 2569 (สําหรับสัญญาประกันรายได้ตัวเดิม) เพื่อให้เท่ากับอัตราค่าเช่าของสัญญาเช่าหลัก (453 บาท/กม.หลัก/เดือน) และปรับค่าเช่าลงอีก 43% หลังจากเดือนม.ค. 2575 (สําหรับสัญญาประกันรายได้เพิ่มเติม) เพื่อให้เท่ากับอัตราค่าเช่าของสัญญาเช่าหลัก (339 บาท/กม.หลัก/เดือน) และ 2) การนำเอามูลค่าสุดท้ายในระยะยาวหลังจากปี 2584 ออกไปจากราคาเป้าหมาย DCF เพื่อสะท้อนความไม่แน่นอนในระยะยาว เกี่ยวกับการตัดสินใจของ ADVANC ที่คาดว่ามีแนวโน้มสูงที่จะลงทุนใน OFC เอง ซึ่งค่าใช้จ่ายในการวางลากสาย OFC รวม 1.68 ล้านกม.หลักคิดเป็นอยู่ที่ประมาณ 1.186 หมื่นล้านบาทสำหรับในปี 2575 ซึ่งประเมินโดยบริษัท เอเอ็มอาร์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้วางและติดตั้งระบบชั้นนำของประเทศไทย โดยการวางลากสายติดตั้ง OFC ใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 18-24 เดือน (เทียบกับค่าเช่าทั้งหมดที่จ่ายให้ JASIF ซึ่งอยู่ที่ 1.014 หมื่นล้านบาทในปี 2564) ราคาเป้าหมายใหม่จากวิธี DCF ของเราอยู่ที่ 8.38 บาท ทั้งนี้ถ้าใช้สมมติฐานกรณีที่แย่ที่สุดที่ไม่มีมูลค่าสุดท้ายในระยะยาวหลังจากเดือนม.ค. 2575 และค่าเช่าของสัญญาประกันรายได้ปรับลดลงให้เท่ากับสัญญาเช่าหลัก ราคาเป้าหมาย DCF ของเราจะปรับลดลงเหลือ 5.85 บาท

- Advertisement -