สรุปภาวะตลาด
ตลาดหุ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อจากวันก่อนหน้า แรงขายนำโดยหุ้นกลุ่ม โรงพยาบาล เช่น BDMS BH ส่วนแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL MAKRO โดยตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ในการขับเคลื่อนดัชนี ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,614.95 จุด -5.03 จุด -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 59,154 ลบ.ต่างชาติ -3,324.15 ลบ. TFEX +544 สัญญา ตราสารหนี้ -11,076.84 ลบ.
ปัจจัยบวก +
+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผย ว่าแบบจาลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 4.4% ใน 4Q65 โดยสูงกว่าระดับ 4.0% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้
+ นายกฯ ระบุว่า ผลดีที่ไทยจะได้จากการประชุมเอเปคมีมากมาย สร้างความเชื่อมั่นประเทศของเรา ท้ังในแง่การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวให้ทั่วโลกได้เห็น จนคาดการณ์ได้ว่า อาจส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไทยร่วม 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวไทยทุกคน
+ ที่ประชุมรัฐมนตรีเอเปคมีฉันทามติร่วมกันในการขับเคลื่อน “Bangkok Goals on BCG Model” หรือ เป้าหมายกรุงเทพ เรื่อง BCG พร้อมหนุนจัดตั้ง FTA เอเปค
+ กกท.เผยไทยบรรลุข้อตกลงการซื้อลิขสิทธ์ิถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กับฟีฟ่า ครบ 64 แมตช์ มูลค่า 33 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.2 พันล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่รวมภาษี โดยหากรวมภาษีต่างๆ แล้ว มูลค่าจะอยู่ที่ราว 1,400 ล้านบาท
ปัจจัยลบ –
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 7.51 จุด หรือ -0.02% หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนให้เฟด เดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานของสหรัฐจะยิ่งผลักดันให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.95 ดอลลาร์ -4.6% ปิดที่ 81.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดถูกกดดันจากความกังวลว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน รวมท้ังความกังวลเก่ียวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
– สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 222,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ราย บ่งชี้ถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงานจะย่ิงทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
– Fed Watch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่าขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 19% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนซึ่งอยู่ที่ 15%
– เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปยังน่านน้ำนอกชายฝั่งตะวันออกในวันน้ี ซึ่งเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ออกมาเตือน ว่าจะทำการตอบโต้สหรัฐ หากยังคงดำเนินการฝึกซ้อมทางทหารร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาค
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจากกรณีที่ก.ล.ต.ส่ังระงับการประกอบธุรกิจชั่วคราวของบริษัท หลักทรัพย์รายหน่ึง ส่งผลกระทบต่อความเช่ือมั่นของนักลงทุน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้น กลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,600-1,620 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
1.หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK
2.ลุ้นเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5-มาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว เข้าครม. 28 พ.ย. : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA AAV BA AOT
3.ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
4.MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย. :
– MSCI Global Standard หุ้นเข้า : – , หุ้นออก : BAM
– MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX
หุ้นรายงานพิเศษ
SPVI (3Q65 กำไร +102%YoY, +8%QoQ) Bloomberg Consensus 5.90 บาท
- รายได้รวม 3Q65 เท่ากับ 1,320 ลบ. +32%YoY, -5%QoQ และกำไร 29 ลบ. +102%YoY, +8%QoQ เนื่องจากประเทศไทยได้รับการเลื่อนการจัดจำหน่ายจาก Tier 2 สู่ Tier 1 ทำให้จำหน่ายพร้อมกับประเทศช้ันนำ เช่น สหรัฐและญี่ปุ่น โดยสามารถจำหน่าย iPhone 14 เร็วขึ้นราว 3 สัปดาห์ จึงส่งผลให้ยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้น
- ผบห. มองรายได้ 4Q65 แม้เข้าสู่ช่วง High Season คาดกระแสตอบรับของ iPhone 14 และ Apple Watch Ultra ดีต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันนโยบาย Zero Covid ของจีนส่งกระทบ เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นของจีนส่ังปิดโรงงานผลิต iPhone ส่งผลให้ iPhone 14 เกิดการขาดแคลนทั่วโลก อาจทำให้ผลประกอบเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อนหน้าที่ 2,005 ลบ.
- ฝ่ายวิจัยประเมินว่ามีมุมมองเป็นกลาง แม้ระยะเวลาการจำหน่ายเร็วขึ้น แต่ปัญหาด้านการขาดแคลนสินค้า อาจส่งผลให้รายได้ยังทรงตัว ท้ังนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 128 ล้านบาท +2%YoY โดย 9M65 มีกำไร 84 ลบ.+29%YoY สามารถทำได้ 66% จากประมาณการ consensus ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา -21%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P /E 16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 62 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”
หุ้นมีข่าว
(+) DMT (Bloomberg Consensus – บาท) ร่วมทุน “HEX” ญี่ปุ่น ต่อยอดทางธุรกิจในการซ่อมบำรุง คาดเริ่มสร้างรายได้ปีหน้า เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการทางพิเศษ สายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต มูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท โครงการทางหลวงพิเศษ M8 และ M82 ต่อยอดการเติบโต เผยผู้โดยสารกลับมาปกติเฉลี่ยวันละ 1 แสนคันต่อวัน เดินหน้าในเรื่องคาร์บอน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) AS (Bloomberg Consensus 19.85 บาท) เดินหน้าเปิดเกมใหม่ปี 66 ราว 12 เกม เน้นโมบายหวังผลักดันรายได้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นแตะ 30-40% จากปัจจุบันราว 20% มองอุตสาหกรรมเกมเติบโตดี ผู้เล่นเพิ่มขึ้น เผยอยู่ระหว่างทำแผนการเติบโตปีหน้า แต่คาดเติบโตไม่ต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่คาดเติบโต 3-4% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ASIAN (Bloomberg consensus 21.80 บาท) อัพเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 2565 เป็น 1.16 หมื่นล้านบาท จากเดิม 1.12 หมื่นล้านบาท หลังแนวโน้มยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงและทูน่าเติบโตดีเกินกว่าคาด มั่นใจรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นยืนเหนือ 18-19% จ่อบุ๊กกำไรจากการขายหุ้น AAI บางส่วนเข้ามาในไตรมาส 4/2565 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ACG (Bloomberg consensus – บาท) ชูธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์พุ่งแรง กำไรโต 57.55% บอสใหญ่ “ภานุมาศ รังคกูลนุวัฒน์” มองแนวโน้มดีหลังปัญหาชิปคลี่คลาย ดันการผลิตกลับมาปกติ ส่วนธุรกิจออโตคลิกสาขาแรกส่อแววมีกำไร ต้ังเป้าขยายสาขาอีก 10 แห่ง ดีเดย์สาขาที่ 11 บิ๊กซี รามอินทรา 9 ธันวาคมนี้ ชี้อัตรากำไรสูง หนุนมาร์จิ้นในอนาคตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 18-19 พ.ย. ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ปี 2565 (APEC 2022)
- สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-น่าเข้า
- 21 พ.ย. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP 3Q65
- สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
- 25 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์รายงานดุลการค้า
- 30 พ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 6 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
- 6 ธ.ค. ก.พาณิชย์รายงานตัวเลข CPI เดือนต.ค.
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 18 พ.ย. สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านมือสอง เดือนต.ค. ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board
- 21 พ.ย. ธนาคารกลางจีนประกาศอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR)
- สหรัฐ รายงานดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศ เดือนต.ค.จากเฟดชิคาโก
- 22 พ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีการผลิตเดือนพ.ย. จากเฟดริชมอนด์
- 23 พ.ย. อียู รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย. จากเอสแอนด์พี โกลบอล
- สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน รายสัปดาห์ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.