KS Daily View 18.11.2022 > Jame Bullard ส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้น แนะลงทุนกลุ่ม Defensive/ เปิดเมือง/ Anticommodity SET วันนี้คาดแกว่งตัว 1605 -1625 จุด หุ้นแนะนำ  PTG

ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

1.) ตลาดหุ้นย่อตัวเป็นวันที่ 3 หลังกรรมกรรมการ Fed Jame Bullard ส่งสัญญาณ Hawkish คาดว่า Fed ควรขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึง 5-5.25% เป็นอย่างน้อย และยอดค้าปลีกสหรัฐ เดือน ต.ค. รายงานออกมาแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 1.3% สูงกว่าคาด 1%  :  ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนปรับลง  ดัชนี Dow Jones -0.02%, NASDAQ -0.35% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ส่วนใหญ่ปรับลงหลักๆ คือ Utilities -1.79%, Consumer Discretionary -1.27%, Materials -0.95% ส่วนกลุ่มที่ Outperform คือ IT +0.21%, Energy +0.21%  ฝั่งยุโรป ตลาดหุ้นปรับลงเล็กน้อย อาทิ ดัชนี FTSE100 -0.06% ส่วนเอเซียเช้านี้ เปิดบวกเล็กน้อย อาทิ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ +0.5%  ส่วน Bond yields สหรัฐ อายุ 2 ปีและ 10 ปี Rebound ขึ้น 9.7 bps และ 7.5 bpsอยู่ที่ 4.46% และ 3.76% โดยรวมจากประเด็นนี้ KS ประเมินว่ามีผลต่อตลาดหุ้นไทยจำกัด  เราประเมินว่าเป็นปัจจัยกดดันตลาดระยะสั้น เชื่อว่า Fed ยังให้น้ำหนักกับข้อมูล(Data) อาทิ เงินเฟ้อสหรัฐที่เป็น trend ขาลง ฯลฯ  โดยหุ้นกลุ่มที่คาดได้ Sentiment บวกจากประเด็นนี้ระยะสั้นคือ กลุ่มประกันชีวิต อาทิ BLA, TLI เชิงกลยุทธเราแนะนำ เพียง เก็งกำไร รวมถึงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ คาดได้กระแสบวกตาม Top pick กลุ่มเราชื่นชอบ TTB

2.) ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานแกว่งตัวลงต่อ โดย SET Index เมื่อวานปิด 1614.95 จุด(-0.31%DoD) หุ้นที่ปรับขึ้นนำโดยกลุ่มค้าปลีก  MAKRO +2.8%, CPALL +2.46%, INTUCH +2.2% ส่วนหุ้นกลุ่มที่ปรับลงหลักๆคือ BH -6.99%, BDMS -4.13%, PTTGC -2.11%, PTTGC-2.11%

ประเด็นที่มีผลต่อการลงทุน

1.) กลุ่มค้าปลีก และสื่อคาดจะมีโมเมนตัมในการเก็งกำไรต่อจากเมื่อวาน  จากข่าว ความคืบหน้าการเจรจาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดฟุตบอลโลก โดยรัฐบาลให้ความเชื่อมั่นว่ามีโอกาสถ่ายทอดสดได้ , แรงหนุนจากนักท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วง 4Q22 ซึ่งเป็นช่วง High season, มาตรการกระตุ้นของรัฐช่วงปลายปี  เรามองบวกต่อหุ้นค้าปลีก อาทิ CPALL(ราคาพื้นฐาน 71.6 บาท) , BJC(ราคาพื้นฐาน 39.5บาท), CRC(ราคาพื้นฐาน 46.0บาท)  Note* เรียงตาม Upside จากราคาพื้นฐาน   โดยหุ้นค้าปลีกที่กำไรงวด 4Q22 โต YoY และ QoQ และปีหน้ากำไรโตเกิน 15% คือ CRC  เช่นเดียวกับกลุ่มสื่อ เรายังชื่นชอบทั้ง MAJOR(ราคาพื้นฐาน 24.2 บาท) และ PLANB(ราคาพื้นฐาน 8.9  บาท)  โดย PLANB แนวโน้มกำไร 4Q22 แข็งแกร่ง คาดผลประกอบการกลับมาใกล้เคียงกับก่อนเกิด Covid

2.) กลุ่มพลังงาน อาทิ น้ำมัน PTTEP PTT, โรงกลั่น TOP IRPC ฯลฯ วันนี้เราประเมินคาดราคาหุ้นจะถูกกดดันต่อตามราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) –3.3% ปิดที่ 89.78 ดอลลาร์/บาร์เรล จากประเด็น Covid ในจีนที่เพิ่ม และ Dollar ที่แข็งค่า แต่เรามองบวกต่อกลุ่ม Anti commodity อาทิกลุ่มปั้มน้ำมัน PTG และ OR  ได้ประโยชน์ตรงๆจากราคาน้ำมันลง

3.) หุ้นกลุ่มที่ลิ้งกับจีน อาทิ EKH, SCGP, JWD, AAV, PSL ฯลฯ  ระยะสั้นอาจถูกดดันจากผู้ติดเชื้อ Covid ในจีนที่พุ่งขึ้นเฉลี่ย 2 หมื่นรายต่อวันในสัปดาห์นี้ แต่เรามองเป็นจังหวะทยอยสะสมหากราคาหุ้นอ่อนตัว  โดยชืนชอบ EKH, SCGP

มุมมองตลาดหุ้นไทย : KS ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัว โดยยังคงมุมมองกลุ่มที่กดดัชนีจะยังมาจากกลุ่มพลังงาน,  โรงกลั่น  แต่มองว่าการปรับลงแนวรับบริเวณ 1600-1605 จุดคาดจะรับอยู่และเป็นจังหวะทยอยสะสมแนวแรก เพราะ Factor ที่กดดันยังเป็นเรื่องเดิม โดย KS ยังคงมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นไทย หลังกำไรบริษัทจดทะเบียนงวด 3Q22 ออกมาแข็งแกร่ง อยู่ที่ 1.86  แสนลบ. 11%YoY – 38%QoQ และหลาย Sector ออกมาดีกว่าคาด อาทิ กลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงานต้นน้ำ, โรงกลั่น, เรือ  และเศรษฐกิจไทยทิศทางการเติบโตยังแข็งแกร่ง ทั้งนักท่องเที่ยวเข้ามา และไทยโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยต่ำมากอยู่ราว 15% เทียบกับสหรัฐ และยุโรปที่ตลาดคาดโอกาสเกิดเกิน 60%

หุ้นกลุ่มที่แนะนำ

1.) Theme กลุ่ม Defensive อาทิ กลุ่มโรงพยาบาล อาทิ BCH, EKH และกลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ BGRIM GPSC EGCO

2.) Theme กลุ่มเปิดเมือง แนะนำ PLANB, CRC

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1605 -1625 จุด หุ้นแนะนำ PTG

Top pick :  PTG (ราคาพื้นฐานที่ 16.5 บาท) แนะนำเก็งกำไร PTG ตามราคาน้ำมันที่ลดลงแรงเมื่อคืน และเรามอง PTG มีจุดเด่นจากธุรกิจ Non oil คือ การขยายแผนกาแฟพันธ์ไทยที่ Agreesive คาดโต 3 เท่า     และ Valuation ค่อนข้างถูกโดยปัจจุบันหุ้นเทรดที่ 12M forward PE อยู่ที่ 15 เท่าอยู่ในระดับ -1S.D.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเดือน ต.ค. คาด +0.4% MoM และ +3.2% YoY ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษเดือน ต.ค. คาด 0% MoM ตัวเลข Existing Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด -8% MoM เป็น 4.3 ล้านยูนิต และถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde
- Advertisement -