KS Daily View 24.11.2022 > รอดูการประชุม EU Energy minister  เน้นลงทุนหุ้น Defensive และกลุ่มที่มีปัจจัยบวก SET วันนี้คาดแกว่ง 1615-1630 จุด หุ้นแนะนำ  GPSC, CK

ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวาน :  Fed Minutes เมื่อคืนเผยคณะกรรมการมีความเห็นคือ  เงินเฟ้อสหรัฐจะยังไม่ถูกดลงเร็ว แต่ Fed มองตรงกันว่าจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้เพราะผลกระทบการขึ้นดอกเบี้ยทีผ่านมามีผลต่อเศรษฐกิจ โดยรวมส่งผลให้ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงมาที่ 105.7 จุดและราคาสินทรัพย์ภาพรวมฟื้นตัว   2.)ตลาดหุ้นโลกแกว่งตัวขึ้นตาม Fed Minutes เห็นจากตลาดหุ้นสหรัฐ อิง ดัชนี Dow Jones 0.2%, S&P500 +0.59%, NASDAQ 0.99% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับขึ้นเกือบทุกกลุ่มหลักๆหนุนจาก Consumer Discretionary+1.33%, Communication Services +1.21%, Utilities+1.04% ฯลฯ กลุ่มที่ปรับลงมีเพียงกลุ่ม Energy -1.16% สอดคล้องกับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานแกว่งตัวขึ้นโดย SET Index เมื่อวานปิดที่ 1624.40 จุด (+0.56%DoD) ไม่ได้มีปัจจัยอะไรใหม่ โดยหุ้นทีปรับลงและกดดัชนีหลักๆ  คือ BJC -2.2%, AWC -1.56% ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้นแรงนำโดยกลุ่มพลังงาน อาทิ  PTTEP +4.6%, PTT+1.5% ตามราคาน้ำมัน,กลุ่มค้าปลีก  MAKRO+3.97%  ส่วนประเด็นสำคัญอื่นๆเมื่อวานคือ ราคาหุ้น Credit Suisse ปรับตัวลง -6.1% ทำจุดต่ำสุดในรอบ 30 ปีหลังธนาคารแถลงว่าจะขาดทุนอีกราว 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯใน 4Q22 จากที่ขาดทุนกว่า 4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯใน 3Q22 หลังลูกค้าถอนการลงทุนออกกว่า 10% ของ NAV นับแต่เดือน ต.ค. ถึง 11 พ.ย. แม้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติเพิ่มทุนจำนวน SFr4bn เมื่อคืนที่ผ่านมา  เป็นประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด

ประเด็นที่มีผลต่อการลงทุนและ Sector ที่คาดที่น่าสนใจในช่วงนี้

1.) กลุ่มโรงแรมที่ทำธุรกิจในยุโรป อาทิ  MINT(ราคาพื้นฐาน 34.2 บาท), SHR(ราคาพื้นฐาน 4.66 บาท) รวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กฯ อย่าง KCE(ราคาพื้นฐาน 46.0 บาท) คาดได้กระแสบวกช่วงนี้ให้ติดตามวันนี้การประชุม EU Energy ministerจะมีการหารือเรื่องมาตรการในการควบคุมราคาก๊าซในยุโรป โดยอาจใช้ EU’s joint purchasing power ในการต่อรองกับ global gas suppliers ซึ่งหากราคาก๊าซในยุโรปผันผวนน้อยลง และไม่สูงเกินไป จะทำให้คาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจยุโรปอาจไม่ได้ถดถอยรุนแรงเหมือนที่คาด จะบวกต่อบริษัทจดทะเบียนที่ลิ้งกับยุโรป  MINT SHR KCE

2.) กลุ่ม Anticommodity  และกลุ่มสายการบินคาดจะได้ปัจจัยบวกในวันนี้หลังราคาน้ำมันดิบโลกปรับลง 3.3%ปิดที่ 85.41 ดอลลาร์/บาร์เรล จากข่าวเมื่อคืนกลุ่มประเทศ G7 เตรียมกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียไม่ให้เกิน 70 ดอลลาร์/บาร์เรล และ  Covid ในจีนที่สูงขึ้น เรามองบวกต่อ PTG, OR ,EPG, DCC, AAV, BA

3.) หุ้น MAKRO(ราคาพื้นฐาน 38.8 บาท) เราคาดยังมีโมเมนตัมเชิงบวกหนุนราคาหุ้นต่อหลังเมื่อวาน SET รายงานรายการ Big Lot ของ MAKRO จำนวน 160 ล. หุ้น ที่ราคา 37.75 บาทต่อหุ้น ณ วันที่ 23 พ.ย. 65 จะทำให้ Free Float ของ MAKRO เพิ่มเป็น 15% จากเดิม ที่ 13.53% เป็นไปตามเงื่อนไข % Free float ขั้นต่ำของ SET เป็นบวก sentiment ต่อราคาหุ้น MAKRO อาจเห็นกระแสเก็งกำไรระยะสั้น   แต่อย่างไรก็ตามมุมมมอง KS ประเมินอาจยังไม่เพียงพอสำหรับการเข้า SET 50 ซึ่งมีการกำหนด Free float ที่ 20% และเรามองว่าราคาปัจจุบันได้สะท้อนการฟื้นตัวของกำไรปีหน้าไปพอสมควร โดยราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 39.25 บาท เทียบเท่า PER ที่ 35.4x ของ EPS ปี 2023 เทียบเท่า +2.4SD สูงกว่าค่าเฉลี่ยของ Forward PER mean คำแนะนำ Neutral

4) กลุ่มโรงไฟฟ้า อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP  อาทิ BGRIM GPSC และ IPP (EGCO, RATCH) ประเมินยังได้ปัจจัยบวกต่อเนื่องจาก ราคาพลังงานที่ปรับลง, เงินบาทแข็งค่า และโอกาสการเกิด Recesion ในฝั่งสหรัฐและยุโรปที่ยังสูง เราแนะนำลงทุน และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน สัปดาห์นี้มีปัจจัยหนุนคือ การยื่นข้อเสนอขายไฟฟ้าพลังงานทดแทน 5,203MW  วันที่ 25 พ.ย.  เรามองต่อ  SSP, GULF, GUNKUL,  EGCO ฯลฯ

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1615-1630 จุด หุ้นแนะนำ GPSC, CK

Top pick :

GPSC (ราคาพื้นฐาน 81.5 บาท)

1.) ราคา Gas pool price แนวโน้มแกว่งตัวลง  และค่าเงินบาทที่แข็งค่าๆ ล่าสุดใกล้แตะ 36.0 บาท บวกต่อ GPSC

2.) คาดกำไรงวด 4Q22 จะเพิ่มขึ้น QoQ จากค่า Ft ที่สูงขึ้น หลังการปรับขึ้นครั้งล่าสุดของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และคาดว่าโรงไฟฟ้าของ GPSC จะไม่มีการหยุดดำเนินงานนอกกำหนด

3.) ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะยาวที่สำคัญ  GPSC ได้แก่ การขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะกับกลุ่ม ปตท. และ ธุรกิจที่ไม่ใช่พลังงาน ได้แก่ การผลิตแบตเตอรี่

CK (ราคาพื้นฐาน 30.87 บาท) เรามีมุมมองเชิงบวกเพิ่มจากเข้าร่วมงาน Analyst meeting เมื่อวาน โดยมี 2 เรื่องคือ

1.) บริษัทมั่นใจจะมีการเซ็นสัญญาใหม่ 2 โครงการใหม่ในช่วงโค้งท้ายของปีนี้คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกวงเงิน  9.6 หมื่นล้านบาท คาดจะหนุนระดับ backlog ทำสถิติสูงสุดใหม่ในสิ้นปีนี้ และ โครงการอ่างเก็บน้ำและโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง มูลค่า 8 หมื่นล้านบาท

2.) การต่อสัญญาของ TTW  ผู้บริหารกำลังดำเนินการต่อสัญญาผลิตน้ำระหว่างบริษัท ประปาปทุมธานี จำกัด และการประปาส่วนภูมิภาค ไปอีก 20 ปี หลังสัญญาปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในเดือนต.ค.2566

ปัจจัยหนุนทางพื้นฐานหนุนราคาหุ้นระยะยาวมาจาก

1) แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่สดใส

2) CK รับงานก่อสร้างโครงการทางพิเศษ 2 ชั้นใหม่จาก BEM

3) CK ส่งต่อเงินปันผลที่สูงขึ้นจากบริษัทที่เกี่ยวข้องกันให้กับผู้ถือหุ้นซึ่งจะทำให้ช่องว่างของ holding discount ลดลง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลข Ifo Business Climate ของเยอรมันเดือน พ.ย. คาด 85 จุด (+0.8% MoM) และการประชุมของ EU Energy minister จะมีหารือเรื่องมาตรการในการควบคุมราคาก๊าซในยุโรป
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Manufacturing Production เดือน ต.ค. คาด +2.8% YoY และตัวเลข GfK Consumer Confidence เดือน ธ.ค. คาด -39.6 จด (ดีขึ้นจาก -41.9 จุดในเดือนก่อน)
- Advertisement -