รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีฯ ค่อยๆฟื้นต่อ
Market wrap & Outlook
- ศุกร์ที่ผ่านมาดัชนี Sideways down หุ้นกดดันตลาด ได้แก่ PTTEP GULF EA SCGP SCC KCE BDMS ADVANC ส่วนหุ้นบวกสวนตลาด ได้แก่ JTS (บวกชนเพดาน) MAKRO OR BYD FPT AWC SABUY
- วันนี้คาดดัชนีฯ ค่อยๆฟื้นต่อ คาดกรอบล่างในสัปดาห์นี้จะยกสูงขึ้น คาดแนวรับ 1,615 จุด ส่วนปัจจัยมหภาค คาดว่าจะมีอิทธิพล ต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยลดลง ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้…โฟกัสสำคัญจะอยู่ที่ Sector Rotation (การขายกลุ่มหนึ่ง วนเข้าอีกกลุ่ม รวมถึงการ Re-align port) และ หุ้นเด่นที่คาดว่าจะ Outperform จะเน้นลงไปที่ประเด็นหนุนรายตัว เช่น ค้าปลีก (มาตรการกระตุ้นการบริโภค ช้อปช่วยชาติ) โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (PPA โรงไฟฟ้า VSPP) ความคืบหน้าวงโคจรดาวเทียม (INTUCH THCOM) ยานยนต์และสินเชื่อรถใหม่ (งาน Motor Expo) ตลอดจนหุ้นกลางเล็กที่ฝุ่นเริ่มจางจากกรณี หุ้นมอร์…
What to watch
- รมว.คลังเผยอาจมีมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการลดหย่อนภาษีปี 66 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นของขวัญปีใหม่
- กพพ.รับนโยบายจาก กพช.บริหารจัดการก๊าซเพื่อตรึงค่าไฟ งวด มค.ถึง เมย.66 ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย (ที่มา ข่าวสด, แนวหน้า)
- Adobe เผยยอดใช้จ่ายช้อปปิ้งออนไลน์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาของสหรัฐฯพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยแบ่งเป็นวันขอบคุณพระเจ้า 5.29 พันล้านดอลล์ คาด Black Friday 9 พันล้าน ส่วน ไซเบอร์มันเดย์ คาด 1.12 หมื่นล้านดอลล์
- อียู เผย ยังไม่ได้ข้อสรุปต่อประเด็น การกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย หลังการประชุมรอบล่าสุดยังไม่ได้ฉันทามติ
หุ้นแนะนำวันนี้
- CENTEL ERW จับตาการประชุม ครม. มาตรการลดหย่อนภาษีส่งท้ายปี (เช่น ช้อปช่วยชาติ เที่ยวด้วยกัน จัดงานสัมนา เลี้ยงปีใหม่บริษัท ฯลฯ)
Technical Daily (T)
สแกนหุ้นกราฟสวย….โมเมนตัมกำลังมา
แนะนำ ซื้อ
TRUE แนวรับ 4.5 แนวต้าน 4.8-4.9 (Stop loss < 4.4)
ILM แนวรับ 18.5-18.7 แนวต้าน 20 และ 21 (Stop loss < 18.3)
SC แนวรับ 3.8 แนวต้าน 4.0 และ 4.2 (Stop loss < 3.7)
Tactical Strategy – Weekly warm up: บอลรองยังมีพลิกล็อค ทำไมหุ้นตัวรองจะพลิกไม่ได้
แนวโน้มสัปดาห์นี้เรา คงคาดดัชนีฯจะค่อยๆฟื้นตัว กรอบล่างยกสูงขึ้น คาดแนวรับ 1,615 จุด ส่วนปัจจัยมหภาค คาดว่าจะมีอิทธิพล ต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยลดลง ยกตัวอย่างเช่น ตอนช่วง 11 พย.ที่ผ่านมา แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯจะต่ำคาดหนุนตลาดหุ้นสหรัฐฯเดินหน้าบวก และ Sideways up ได้ต่อเนื่อง มาจนถึงตอนนี้ แต่ตลาดหุ้นไทย ไม่ได้แรลรี่ได้อย่างต่อเนื่อง ตามตลาดต่างประเทศ และแม้ในช่วงเวลาดังกล่าวหุ้นไทยก็ไม่ได้บวกแรงตามเช่นกัน
หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์ PTG GUNKUL MAJOR สัปดาห์ที่แล้วผลตอบแทน MAKRO +4.64% TU +1.73% BJC +1.10%
Global Investing Brief : ธนาคารกลางจีนหั่นอัตราเงินสำรองธนาคาร หวังเยียวยาผลกระทบล็อกดาวน์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนวันศุกร์ 3 ดัชนีหลักปิดผสม โดยดัชนี DJIA +0.4%, S&P 500 ปิดทรงตัว ขณะที่ Nasdaq -0.7% โดยหุ้นกลุ่มการแพทย์บวกนำตลาด United Health (UNH) +1.5%, CVS Health (CVS) +1.2% , Pfizer (PFE) +0.7% ด้านประธานาธิบดี โจ ไบเดน เผยว่า สหรัฐฯ และกลุ่ม G7 มีกำหนดเริ่มใช้มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบของรัสเซียที่ส่งออกทางเรือขนส่งน้ำมันในวันที่ 5 ธ.ค. 65 เพื่อช่วยลดปัญหาเงินเฟ้อสูงที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและภาคการบริโภคทั่วโลก
- CNN รายงานว่าเหตุการณ์จลาจลระหว่างพนักงานและเจ้าหน้าที่รัฐที่โรงงาน Foxconn ในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน ซึ่งเป็นโรงงานผลิต iPhone ของ Apple (AAPL) อาจทำให้ Apple ประสบปัญหาขนส่ง iPhone ให้กับศูนย์จำหน่าย iPhone ในเดือน ธ.ค. 65 ลดลงจากปกติถึง 25-30% และกระทบต่อยอดขาย iPhone ในช่วง F1Q66 (ต.ค.-ธ.ค. 65) ราว 5% ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $176.07
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 2.3% พักตัวหลังจากปรับขึ้นติดต่อกัน 2 วัน กดดันโดย Alibaba (9988) -2.2% และ Tencent (0700) -2.6% ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราเงินสำรองธนาคาร (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.25% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. 65 เพื่อกระตุ้นให้สถาบันการเงินให้ความช่วยเหลือธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ และกระตุ้นภาคการบริโภคในประเทศหลังจำนวนการติดเชื้อโควิด-19 สูงขึ้นจนมีการกลับมาล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่อีกครั้ง
- Meituan (3690) เผยงบ 3Q65 รายได้โต 28%YoY แตะ RMB62.6bn และกำไรอยู่ที่ RMB1.2bn พลิกจากขาดทุน RMB10bn ใน 3Q64 ดีกว่าที่ตลาดคาด โดยอัตรากำไรอยู่ที่ 1.2% หนุนจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานท่ามกลางเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจากมาตรการล็อกดาวน์ ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ารายได้ใน 4Q65 โตเด่น 26%YoY พร้อมให้ TP ที่ HKD237.79
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนี VN บวกเด่น 2.5% ต่อเนื่องจากวันพฤหัสบดี และเป็นไปในทิศทางตรงข้ามกับตลาดหุ้นฮ่องกง นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ VIC +6.6%, VHM +4.4%, KDH +6.9% หลังสมาคมอสังหาริมทรัพย์นครโฮจิมินห์ (HoREA) ได้เสนอต่อกระทรวงการคลังเวียดนาม เพื่อขออนุญาตขยายวันครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีก 1 ปี เพื่อลดแรงกดดันและเพิ่มความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นกู้ และบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาริมทรัพย์ อีกทั้งยังเสนอต่อธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ให้มีการขยายอัตราเติบโตสินเชื่อสูงสุดในปีนี้เพิ่มขึ้นอีก 1% เป็น 15%
- VinFast บริษัทรถ EV ในเครือ VIC ที่มีสัดส่วนราว 7% ในดัชนี VN30 ดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 ได้ส่งออกรถยนต์ฟ้าล็อตแรกจำนวน 999 คันสู่สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าในเดือน ธ.ค. 65 โดยเรามองว่าแผนการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าสู่ตลาดสหรัฐฯ และยุโรปในปลายปีนี้จะหนุนรายได้ตั้งแต่ปี 66 ด้านคาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยรายได้รวม VIC ปี 66 โต 30%YoY พร้อมให้ TP ที่ VND99,700
Highlight
- Amazon (AMZN) ประกาศปิดธุรกิจจัดส่งอาหารที่กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบในอินเดีย ต่อเนื่องจากการประกาศปิดแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย และการวางแผนปลดพนักงานกว่า 1 หมื่นตำแหน่งจนถึงต้นปีหน้า โดยบริษัทให้เหตุผลในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในอนาคต อย่างไรก็ดี คาดการณ์ Bloomberg Cons. เผยว่ารายได้รวมปี 66 จะโตต่อที่ 11%YoY
Quantitative Idea: Trading with BLS Momentum-tracker Index
Sector to Play:
เซคเตอร์ที่มี Buy Signal จาก Momentum-tracker Model มี 8/20 กลุ่ม ได้แก่
AUTO: จุดเด่น Momentum-tracker Index เพิ่งเข้าสู่ Strength Zone
BANK: Price Momentum ไม่ร้อนแรงจนเกินไป
COMM: Price Momentum ฟื้นตัวต่อเนื่อง 6 สัปดาห์และยังห่างจาก Overbought Zone
CONMAT: Price Momentum เพิ่งฟื้นจาก Oversold Zone
CONS: : Momentum-tracker Index อยู่ใน Strength Zone
MEDIA: Momentum-tracker Index ฟื้นจาก Weak สู่ Neutral Zone
PETRO: Price Momentum ดีขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 เมื่อเทียบกับ SET
PKG: Volume Index ยังห่างจาก Overbought Zone อยู่มาก
เซคเตอร์ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกใน 1 เดือนที่ผ่านมามีจำนวน 11/20 กลุ่ม ได้แก่ ETRON (+11%), AUTO (+8%), Petro (+7%), COMM (+5%), MEDIA (+4%), PKG (+4%), PROP (+3%), CONMAT (+2%), FIN (+2%), ENERG (+1%), TRANS (+0.3%) เทียบกับ SET ที่ปรับตัวขึ้น +2% สำหรับ Sector Breadth ก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจาก 40% เป็น 55% ซึ่งเป็นสัญญาณชี้ว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดมีการกระจายตัวมากขึ้น
Sentiment Index ตลาดปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ยังคงอยู่ในโซน Bullish (ลดลงจาก 59 เป็น 57 จุด) ขณะที่ความผันผวนลดลงจาก 11.8% เป็น 9.6% และยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ภาพตลาดโดยรวมยังอยู่ในสภาวะที่ลงทุนได้