บล.บัวหลวง:

SC Asset Corporation (SC TB /SC.BK)

SC – กระสุน 4 ดอก ที่เรามองว่า SC จะเติบโตโดดเด่นท่ามกลางแผนธุรกิจ 3 ปี

SC ได้จัดงานประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 24-25 พ.ย. ซึ่งบริษัทได้เปิดแผน 3 ปี โดยเราสรุปออกมา 4 ที่เด็ด: 1) ไตรมาสที่ดีที่สุด 2) ธุรกิจแผน 3) ธุรกิจโรงแรมที่ดีกว่าคาด และ 4) งบดุลที่ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้เราปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ขึ้นจาก 4.20 บาท ไปเป็น 4.50 บาท!

ไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของ SC นับตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด

ปกติกําไรของบริษัทจะสูงสุดในไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งปีนี้ก็จะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/65 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี 2565 โดยหนุนมาจากยอดโอนโครงการแนวราบและโครงการคอนโด ซึ่ง 75% ของประมาณการรายได้ของเราแน่นอนแล้วจากโครงการในมือราว 40% ของรายได้แน่นอนแล้วจากโครงการสโคปหลังสวน (มูลค่า 8.3 พันล้านบาท จองแล้ว 41%) โครงการสโคปพร้อมศรี (1 พันล้านบาท จองแล้ว 43%) และโครงการเครสท์ พาร์ค เรสซิเดนซ์ (3.1 พันล้านบาท จองแล้ว 33%) สําหรับอีก 25% ที่เหลือ SC มีกำหนดการเปิดตัวโครงการในไตรมาส 4/65 ที่เยอะ (มูลค่า 1.9 หมื่นล้านบาท เติบโต 97% QoQ โดยเป็นโครงการแนวราบ 1.6 หมื่นล้านบาทและโครงการคอนโด 2.8 พันล้านบาท)

เปิดแผนธุรกิจที่มากกว่าปีนี้ และเปิดตัวโครงการระดับบนมากขึ้นในปี 2566

SC เปิดตัวโครงการในปี 2565 ที่ 4 หมื่นล้านบาท เติบโต 354% YoY จากฐานที่ต่ำสุดในรอบทศวรรษในปี 2564 ที่ 9.7 พันล้านบาท ทางผู้บริหารคาดมีอัพไซต์ถึง 4.4 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมั่นใจว่ามูลค่าการเปิดตัวโครงการในปี 2566 จะมากกว่าปี 2565 อิงจากแผนเปิดตัวโครงการปี 2566 SC จะโฟกัสไปที่กลุ่มโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลาง-บน เนื่องจากอุปสงค์ในกลุ่มนี้ยังคงแข็งแกร่ง

รายได้ประจําที่ดีกว่าคาด โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม

รายได้ประจำทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับสองในไตรมาส 3/65 และเราคาดจะเห็นสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในไตรมาส 4/65 ปัจจุบัน SC ตั้งเป้า 1,000 ห้อง สําหรับธุรกิจโรงแรมภายในปี 2570 YANH ราชวัตร (78 ห้อง) เป็นโรงแรมแห่งแรก ซึ่งจะดำเนินงานเต็มรูปแบบภายในเดือน มี.ค. 2566 SC เพิ่งซื้อโรงแรมที่สุขุมวิท 29 จากกลุ่ม FJBKK โดยมีจำนวน 323 ห้อง ซึ่งคาดจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2568 นอกจากนี้ผู้บริหารกำลังพิจารณาที่จะเข้าซื้อโรงแรมอีกแห่งในพัทยาที่มีมากกว่า 300 ห้อง (น่าจะเห็นความชัดเจนของดีลในปี 2566) ซึ่งแผนการเข้าซื้อโรงแรมเชิงรุกนี้จะเป็นตัวเร่งการเติบโตของรายได้ในอุตสาหกรรมการบริการ

งบดุลที่เอื้อต่อการลงทุน

เราคาด SC จะรายงานอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 1.6 เท่าสำหรับ สิ้นปี 2565 ขึ้นจาก 1.5 เท่า ณ สิ้นปี 2564 เนื่องจากบริษัทชื่อโรงแรมไปในปี 2565 ซึ่งแผนการลงทุนในปี 2566 ยิ่งมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก เช่นการจ่อซื้อโรงแรมในพัทยาและอาคารอพาร์ทเม้นในสหรัฐ เราคาดอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 1.5 เท่า ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งจะหนุนให้บริษัทยังคงสามารถกู้เงินได้อีก 3-6 พันล้านบาทก่อนที่จะไปเป็น 1.6 เท่า (เกณฑ์สูงสุดอยู่ ที่ 2.5 เท่า)

แผนเชิงรุกของบริษัทหนุนให้เราปรับขึ้น PER ที่เดิมอิง 6 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยยระยะยาว 0.25 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน) ไปเป็น 6.5 เท่า (ค่าเฉลี่ยระยะยาว) เรามองมูลค่าตลาดให้เช่าที่ 1 บาท/หุ้น คิดลด 30% จากมูลค่าที่ประเมิน ดังนั้นราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ของเราจึงขึ้นจาก 4.20 บาทไปเป็น 4.50 บาท

- Advertisement -