Our View? “ไหวไหมบอกมา”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,610 / 1,597 และแนวต้านที่บริเวณ 1,620 /1,625 คาดตลาดจะได้รับ Sentiment เชิงลบจากทิศทางตลาดต่างประเทศ จากความกังวลการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในจีนที่ยังคงเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง และการประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุม COVID-19 ของทางการจีนเริ่มขยายตัวออกไปในหลายเมือง อาทิ เซี่ยงไฮ้ กรุงปักกิ่ง เมือง อู่ฮั่น เฉิงตู ซีอาน และนานกิง คาดจะส่งผลกระทบถึงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) จากการที่จีนเป็นผู้ผลิตสินค้าให้กับหลายบริษัททั่วโลก และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจจีน-โลก เป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัวลงได้

อีกทั้งเมื่อคืนนี้เมื่อคืนนี้ดอลลาร์สหรัฐเริ่มกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง โดย Dollar Index ฟื้นตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 106.7+/- ตามความกังวลทิศทางเศรษฐกิจจีน-โลก รวมทั้งได้รับแรงหนุนจากการที่เจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายท่านยังคงสนับสนุนให้ FED เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง คาดจะกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้เพิ่มเติม ขณะที่เราคาดว่าคืนนี้ตลาดจะติดตามท่าทีของนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED กล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลังที่สถาบันบรู้กกิงส์ คาดจะส่งผลให้ตลาดแกว่งตัวประเมินท่าทีดังกล่าวได้บ้างเล็กน้อย โดยเรายังคงมุมมองว่า FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่เดือน ธ.ค. นี้ที่ระดับ 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% และจะขึ้นอีก 2 ครั้งในปี’66 อีกที่ระดับ 0.50% และ 0.25% ตามลำดับ ทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 5.00-5.25% สะท้อนอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปัจจุบันเริ่มเข้าใกล้จุดสูงสุดแล้ว

ทางด้านสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ม.ค. ปรับตัวลงท่าจุดต่ำสุดใหม่ก่อนสามารถรีบาวด์กลับขึ้นได้ ปิดที่ระดับ 77.24 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.96 ดอลลาร์ (+1.26%) โดยได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ OPEC+ อาจปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงในการประชุม OPEC+ วันที่ 4 ธ.ค. หลังอุปสงค์นํ้ามันดิบในจีนอ่อนแอลงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขณะที่สหภาพยุโรป (EU) ยังไม่สามารถบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวได้ คาดจะส่งผลให้ทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานผันผวนได้บ้างในระยะสั้น

สําหรับปัจจัยในประเทศเรามีมุมองเชิงลบต่อการรายงานตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค. ออกมา –4.4% YOY สวนทางกับที่ตลาดคาด +5.5-6.0% YoY จากความต้องการสินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมของกลุ่มประเทศคู่ค้าสําคัญชะลอตัว มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อภาพรวมในกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ในสัปดาห์นี้เรายังคงแนะนำติดตามการประชุม ครม. คาดอาจมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) ปรับตัวขึ้นได้ต่อ รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่มโฆษณา (PLANB และ VGI) ที่คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ช่วง 3Q65 คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ และหุ้นในกลุ่มบริการสถานีน้ำมัน (BCP, OR และ PTG) คาดจะสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นได้อีกครั้ง ตามการเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ หนุนการเดินทางมากขึ้น เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางหุ้นในกลุ่มดังกล่าว อีกทั้งแนะนำ ติดตามการประชุม กนง. ของไทยในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) คาดมีโอกาสที่คณะกรรมการจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งที่ระดับ 0.25% ขึ้นสู่ระดับ 1.25% มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, BBL และ SCB) ปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “BCP”

กลยุทธ์ แนวรับ 31.25 / 30.75 Target 33.75 / 34.50 Stop <30.50

- Advertisement -