สรุปภาวะตลาด

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุด -8 จุด แต่ดัชนีลดช่วงลบลง ประเด็นกดดันมาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในจีนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รัฐบาลยังคงเดินหน้าใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ และล็อกดาวน์เมืองต่างๆ ทำให้ประชาชนออกมาประท้วงในหลายเมือง ประกอบกับ ก.พาณิชย์ เผยส่งออก เดือน ต.ค. หดตัว 4.4% จากตลาดคาดโต 5.5-6% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,616.91 จุด -3.93 จุด -0.24% มูลค่าการซื้อขาย 38,679 ลบ. ต่างชาติ +666.48 ลบ. TFEX +16,950 สัญญา ตราสารหนี้ +1,261.66 ลบ.

ปัจจัยบวก +

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ +1.26% ปิดที่ 77.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากคาดการณ์ว่าโอเปกพลัส จะปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีก ในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค.

+ ทางการจีนได้ผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหวังที่จะลดกระแสความไม่พอใจของประชาชนที่ลุกลามไปทั่วประเทศ

+ DEPA เปิดแผนดันเศรษฐกิจดิจิทัลไทย 5 ปี คาดปีหน้ามูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลโต 9.9 แสนล้าน ปลื้มอุตฯ เกม-ดิจิทัลคอนเทนต์ สตาร์ตอัพ และเปิดประเทศหนุน เร่งออกใบอนุญาตทำงานกระตุ้นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าไทย

ปัจจัยลบ –

– ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วงลง 497.57 จุด หรือ -1.45% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ในเมืองต่างๆ ของจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และจะยิ่งทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานทวีความรุนแรงมากขึ้น

– ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กำลังถูกท้าทายอำนาจ เพียงไม่ถึง 1 เดือนหลังจากที่เขาได้รับการแต่งตั้งเป็น ประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ชาวจีนจำนวนมากลุกฮือ ประท้วงนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาล พร้อมกับเรียกร้องให้ปธน.สี ลาออกจากตำแหน่ง

– รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนต.ค.65 มี มูลค่า 21,772 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.4%YoY โดย เป็นการส่งออกที่ติดลบครั้งแรกในรอบ 20 เดือน 10M65 ส่งออกขยายตัว 9.1% ทำให้การส่งออกทั้งปี 65 น่าจะ เกินเป้า 4%

– EIC เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวชัดเจนในปีนี้ และจะชะลอลงมากในปีหน้า ภายใต้ความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นทั้งจากเงินเฟ้อที่ลดลงช้า วิกฤติพลังงานยืดเยื้อ และนโยบายการเงินเข้มงวดทั่วโลก จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกปี 2565 ลงจาก 3% มาอยู่ที่ 2.9% และปี 66 ลดจาก 2.7% เหลือ 1.8%

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด ขณะที่นัก ลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ในเมืองต่างๆ ของจีน กรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,610-1,620 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ลุ้นมาตรการอุดหนุน EV เข้า ครม. เดือน พ.ย. นี้ : EA NEX BYD GPSC
  • MSCI Rebalancing มีผล 30 พ.ย. :
    • MSCI Global Standard หุ้นเข้า : -, หุ้นออก : BAM
    • MSCI Global Small Cap หุ้นเข้า: BAM, ERW, JWD, NEX, RAM หุ้นออก: PSG, SYNEX
  • FTSE : Mid Cap หุ้นเข้า TLI
  • ลุ้นช็อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
  • จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเร่งตัวขึ้น : BCH CHG EKH THG WPH
  • สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่ยังเติบโตได้ดี : TEAM HANA KCE SMT

หุ้นรายงานพิเศษ

AURA (SET/ CONSUMP/ FASHION) ราคา IPO 10.90 บาท ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 13.02-13.89 บาท

  • บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณเครื่องประดับเพชรและอัญมณี ภายใต้ 5 แบรนด์ ได้แก่ AURORA, เซ่งเฮง, ทองมาเงินไป, ของขวัญ by AURORA และ AURORA Diamond โดยประกอบธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจค้าปลีกทองรูปพรรณ (2) ธุรกิจขายฝากทองรูปพรรณ และเครื่องประดับที่มีทองคำและเพชรเป็นส่วนประกอบ (ธุรกิจขายฝาก) ปัจจุบันมีทั้งหมด 265 สาขา ขณะที่สัดส่วนรายได้มาจาก Modern Gold 90% Diamond 8% และ ขายฝาก 2%
  • ผลการดำเนินงานย้อนหลังปี 62-64 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 17,332 ล้านบาท 19,430 ล้านบาท และ 22,256 ล้านบาท ตามลำดับ และกำไรสุทธิงวดปี 62-64 เท่ากับ 515 ล้านบาท 734 ล้านบาท และ 591 ล้านบาท ตามลำดับ โดยอัตรากำไรสุทธิ 3% 4% และ 3% ตามลำดับ สำหรับงวด 9M65 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 495 ล้านบาท +36%YoY สาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้นจากการขายผลิตภัณฑ์ Modern Gold
  • จำนวน IPO 334 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25.04% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด ราคาพาร์ 1.00 บาท ราคา IPO 10.90 บาท คิดเป็น P/E = 20.15 เท่า เมื่อเทียบ กับ P/E บริษัทที่ใกล้เคียงกันได้แก่ JUBILE 13.04X และ PDJ 8.30X ราคาเหมาะสม Consensus อยู่ในช่วง 13.02-13.89 บาท วัตถุประสงค์การระดมทุน 1.ขยายสาขาเพิ่มขึ้น 2. เพิ่มปริมาณการสต๊อกทองคำ และ 3.ขยายฐานลูกค้าประเภทขายฝาก

หุ้นมีข่าว

(+) JR (Bloomberg Consensus – บาท) ปักธงปี 2566 ผลงานทะยานต่อเนื่อง อานิสงส์แบ็กล็อกรอบุ๊กอื้อ บอสใหญ่ “จรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ” ยิ้มรับเซ็นงานวางระบบสายสีม่วงใต้สัญญา 1 มูลค่าราว 146.59 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกพุ่งทะลุ 3.7 พันล้านบาทกินยาวถึงปี 2570 แถมเดินหน้าขยาย “ออยล์แอนด์แก๊ส” เสริมพอร์ตรับทรัพย์เพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) D (Bloomberg Consensus 8.75 บาท) เตรียมอัดงบลงทุน 25 ล้านบาท เนรมิตสาขาคลินิกทันตกรรม BIDC เพิ่ม 5 สาขา หลังฐานลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ ตบเท้าเข้าใช้บริการเพียบ ส่งซิกมีลุ้นชิงงานขายอุปกรณ์ทันตกรรมภาครัฐ 200 ล้านบาท คาดชัดเจนไตรมาส 2/2566 พร้อมใส่เกียร์ดันรายได้ ปี 2566 ทะยาน 20% (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) BIZ (Bloomberg consensus 4.50 บาท) ตั้งเป้ารายได้ปี 2566 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% ลุ้นงานประมูลเข้าพอร์ตเพิ่ม ราว 70-80% ของมูลค่างานที่จะประมูล ยังมี BIZ GENES เสริมแกร่ง และโรงพยาบาล CHA ถึงจุดคุ้มทุนหนุนเติบโตในอนาคต ขณะที่ไตรมาส 4 รอรับรู้รายได้จากการเตรียมส่งมอบงานในมือที่มีอยู่ 1,530 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IIG (Bloomberg consensus 52.75 บาท) เปิดกรุรับทรัพย์ LANSING เข้าเต็มปี 300 ล้านบาท ในปี 2566 พร้อมเดินหน้าดีล M&A โฟกัสเข้าลงทุนบริษัทมาร์จิ้นสูง สร้างฐานแกร่ง โชว์ Backlog แน่น 400 ล้านบาท แย้มแผนขยายธุรกิจไปเวียดนาม (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 29 พ.ย.ประชุมครม. – จับตาวาระ ครม. ช่อปดีมีคืน 4 หมื่น แจกเงินเยียวยาน้ำท่วมสูงสุด 7 พัน
  • 30 พ.ย. ประชุมกนง. ครั้งที่ 6 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 6 ธ.ค. ก.พาณิชย์รายงานตัวเลข CPI เดือนต.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 29 พ.ย. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนพ.ย.
    • สหรัฐ รายงานดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.
  • 30 พ.ย. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการเดือนพ.ย.
    • สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน พ.ย. GDP 3Q65 (ประมาณการครั้งที่ 2) นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวปาฐกถาว่าด้วยนโยบายการเงินและการคลัง (เช้าวันที่ 1 ธ.ค.ตามเวลาไทย)
  • 1 ธ.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดชื่อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ย.จากไฉซิน
  • 4 ธ.ค. กลุ่มโอเปกพลัสประชุมนโยบายการผลิต
  • 13-14 ธ.ค. กําหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ
- Advertisement -