KS Daily View 29.11.2022 > ตัวเลขส่งออกไทยต่ำกว่าคาดมาก / ติดตามการประชุมกนง.และรายงานตัวเลขเศรษฐกิจธปท. พุธนี้ และ OPEC+ ในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค. / กรอบ SET 1605-1630 / หุ้นแนะนำ AURA

ประเด็นที่มีผลต่อการลงทุนและ Sector ที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้

ต่างประเทศ: ดาวโจนส์ปิดที่ 34,347.03 จุด เพิ่มขึ้น 152.97 จุด หรือ +0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,026.12 จุด ลดลง 1.14 จุด หรือ -0.03% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,226.36 จุด ลดลง 58.96 จุด หรือ -0.52% / STOXX 600 ปิดที่ 437.85 จุด ลดลง 2.88 จุด หรือ -0.65% / ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 27,991.50 จุด ลดลง 171.33 จุด หรือ -0.61%

โดยภาพรวมปรับตัวลดลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโควิด-19 ในเมืองต่าง ๆ ของจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและจะยิ่งทำให้ปัญหาห่วงโซ่อุปทานทั้งฝั่งของรถยนต์และอิเล็กทรอนิคส์และภาคการผลิตอื่นๆ ทวีความรุนแรงมากขึ้น

ราคาน้ำมัน: หลังจากราคา (WTI) ร่วงลงแตะระดับ 73.60 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2564 อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงในจีน, นักลงทุนจับตาการเจรจาของสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียในกรอบ 65-70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งขณะนี้ยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลง และคาดว่าจะมีการเจรจาต่อไปในสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 ธ.ค.ราคาน้ำมันดิบเริ่มปิดบวกได้เล็กน้อยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตร (โอเปกพลัส) จะปรับลดกำลังผลิตน้ำมันลงอีกในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค.

ในประเทศ : ตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค.2565 น้อยกว่าคาด (-4.4% YoY เทียบกับที่ตลาดคาดไว้ที่ +5.5% YoY และเดือนก่อนที่ +7.8%) หากไม่รวมทองคำ การส่งออก (-5% YoY) เกิดขึ้นจากทั้งในแง่ของภูมิภาค ได้แก่ สหภาพยุโรป (-10%) จีน (-9%) และ กลุ่มสินค้า ได้แก่ เกษตร (-3.4%) การผลิต (-3.5%) ส่วนตัวเลขนำเข้า (-2.1%) น้อยกว่าคาดเช่นเดียวกันสนับสนุนดุลการค้าของไทย (-590 ล้านดอลลาร์ฯ)

เราคาดว่าภาคการส่งออกไตรมาส 4/2565 จะยากลำบาก เห็นได้ชัดเจนว่าการส่งออกเดือนต.ค.2565 มีปัจจัยพื้นฐานที่อ่อนแอทั้งตามภูมิภาคและผลิตภัณฑ์ (ดูรายละเอียดด้านบน) แนวโน้มที่ไม่ชัดเจนของสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกเป็นสาเหตุหลักและส่งผลให้การซื้อขายระหว่างประเทศหยุดชะงัก

ผลกระทบจากฐานที่สูงไม่ใช้สาเหตุสำคัญของการลดลงในเดือนนี้แต่คาดจะเป็นสาเหตุหลักในเดือนพ.ย.-ธ.ค. อุปสงค์การกลับมาสต็อกสินค้าช่วงปีใหม่ไม่เป็นปัจจัยหนุนสำหรับตัวเลขส่งออก ต.ค. เช่นกัน

ติดตามการประชุมกนง. และ รายงานการะประชุมธปท. พุธนี้

กลยุทธ์การลงทุน : เรายังคงมุมมองบวกต่อ SET Index ต่อเนื่องไปจนถึงในช่วง 1H23 ตามเดิม ประเมินดัชนีคาดจะแกว่งตัวขึ้นไปจนถึงก่อนการประชุม Fed ช่วงกลางเดือน ธ.ค. ประเมินแนวต้าน 1666 จุด และ 1700 จุดในช่วงที่เหลือของปี และหากดัชนีย่อลงมาเรามองเหมือนเดิมคือ คาดไม่ทำ New low หรือคาดไม่หลุด 1550 จุด ประเมินแนวรับสำคัญอยู่ที่ 1605 จุดเป็นแนวรับแรก โดยเหตุผลทั้งทางปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยและกำไรบริษัทจดทะเบียนที่ยังเห็นการเติบโตแม้จะมีเรื่องการประท้วงในจีน

หุ้นกลุ่มที่แนะนำลงทุน : เน้นกลุ่ม Domestic Play อาทิ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อาทิ CK กลุ่มสื่อ อาทิ PLANB กลุ่มที่ Outlook กำไรงวด 4Q22 โต YoY และ QoQ และปีหน้าโตเกิน 15% อาทิ SNNP, PTG, CRC, PLANB, EGCO, GPSC, HENG และ BE8 และชะลอลงทุน อาทิ กลุ่มส่งออกอาหาร, ปิโตรเคมี ยกเว้นส่งออกอาหารสัตว์

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด 1605-1630 จุด หุ้นแนะนำ AURA

Top pick :

  • AURA (ราคาพื้นฐาน : 13.87 บาท) เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์ AURA ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 13.87 บาท คำนวณด้วย PER ล่วงหน้าที่ 17 เท่า / คาดการขยายสาขาเชิงรุกและอัตราเติบโตของการขายฝากทองรูปพรรณของ AURA จะสร้าง CAGR ช่วง 3 ปี ของกำไรปกติที่ 23% ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ได้แก่ 1) การขยายสาขา 2) ข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค 3) ส่วนแบ่งรายได้ที่มากขึ้นและ 4) การบริหารสินค้าคงคลัง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลข Retail sales ของญี่ปุ่นเดือน ต.ค. คาด +5% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อเยอรมันเดือน พ.ย. คาด -0.2% MoM และ +10.3% YoY ตัวเลข S&P/Case-Shiller Home Price เดือน ก.ย. คาด -0.9% MoM และ +11% YoY ดัชนี CB Consumer confidence ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด 100 จุด (-2.4% MoM)
  • วันพุธ ติดตาม การประชุม กนง. คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 25bps. เป็น 1.25% ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยเดือน ต.ค. คาด +2.2% YoY ตัวเลข NBS Manufacturing PMI ของจีนเดือน พ.ย. คาด 49 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข NBS Non-manufacturing PMI ของจีนเดือน พ.ย. คาด 49 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนเดือน พ.ย. คาด +0.2% MoM และ +10.3% YoY ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด 200K (-16% MoM) ตัวเลข JOLTs Job Openings ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด 10.3 ล้านตำแหน่ง (-3.9% MoM) ตัวเลข Pending Home Sales ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด -5% MoM ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ และถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลข Caixin Manufacturing PMI ของจีน เดือน พ.ย. คาด 49.4 จุด ตัวเลขดัชนี Consumer Confidence ของญี่ปุ่น เดือน พ.ย. คาด 29.1 จุด (ทรงตัว MoM) ถ้อยแถลงของ BOJ Kuroda ตัวเลข Personal Spending ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด +0.8% MoM ตัวเลข Personal Income ของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. คาด +0.4% MoM ตัวเลข ISM Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด 49.8 จุด (-0.8% MoM) ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +235K ถ้อยแถลงของ Fed Bowman และ Fed S. Barr
  • วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลข Non-farm Payroll ของสหรัฐฯเดือน พ.ย. คาด 200K (-23% MoM) ตัวเลข Unemployment rate ของสหรัฐ เดือน พ.ย. คาด 3.7% (ทรงตัว MoM) และตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด +0.3% MoM และ +4.6% YoY
- Advertisement -