รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี Sideways up

Market wrap & Outlook

  • วานนี้ดัชนีแกว่งตัวเช้า และปิดบวกตามภูมิภาคต่อ หุ้นใหญ่ปิดบวกนำโดยกลุ่มเปิดเมือง CPALL  CPN  CRC  MAKRO  BDMS  BH  AOT  โรงไฟฟ้า GULF  EA  และหุ้นบวกแรง เช่น  DEMCO  XPG  THCOM  ส่วนหุ้นลบกดดันตลาด ได้แก่  BAM  (MSCI ถอดจากดัชนีฯ) THG  PTTEP  SCC  SCGP  ADVANC  KBANK  BBL
  • วันนี้คาดดัชนี Sideways up ไปทดสอบแนวต้าน 1640 ผ่านได้ไป 1650 (แนวรับ 1630) ตาม Sentiment บวกจากตลาดสหรัฐฯ ที่ตอบรับสัญญาณการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมรอบ ธ.ค. ที่จะถึงนี้ และทำให้ นลท. ที่เคยถือเงินสดไว้เริ่มรออยู่ มี Risk appetite เพิ่มขึ้น เห็นได้จากหุ้นกลุ่มเทคฯ และ Growth Stock ที่มีคุณภาพกำไรที่ดี-เชื่อถือได้ (Quality earnings) กลับมาแรลลี่ ดังนั้น ตลาดหุ้นไทย นอกจากหุ้นใหญ่ที่จะนำตลาดขึ้นแล้ว กลยุทธ์แนะนำเลือกหุ้นควบคู่กันไปในกลุ่มกำไรฟื้นตัวแรง มีตัวเลข Indicator บ่งชี้ให้เห็นชัด และกลุ่มหุ้น Growth Stock ขนาดกลาง-ใหญ่ ที่พื้นฐานกำไรแกร่ง เติบโตสูง และราคาถูกเทลงมาในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าเป็นเป้าหมายการช้อนซื้อกลับในรอบนี้

What to watch

  • เมื่อคืนนี้ประธานเฟดส่งสัญญาณเชิงบวกว่า เฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. ขณะเดียวกันก็ยังเตือนว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังอีกยาวไกล
  • และหลังจากพาวเวลกล่าว FedWatch Tool ได้ปรับน้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ย 75bps เหลือเพียงแค่โอกาส 25% และหุ้นกลุ่มเทคฯ สหรัฐฯ ตอบรับแบบดีดตัวแรง โดย Nasdaq +4.4% สูงกว่า Dowjones ที่ +2.18% เมื่อคืนที่ผ่านมา อีกด้านทองคำกลับมาปิดลบสวนทาง
  • กนง. ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามคาด และปรับลด GDP ปีหน้าลงเหลือ 3.7% (เดิม 3.8%) ปัจจัยหนุนการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ส่วนปัจจัยกดดันจากเศรษฐกิจโลกชะลอ และต้นทุนสูงขึ้น (แต่ประเมินว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว)
  • ประเด็นภาษีขายหุ้นปัจจุบันตลาดให้น้ำหนักไปทางลบ (เมื่อมีการใช้จริง) จากปริมาณการซื้อขาย-สภาพคล่องหดหาย และกระทบบรรยากาศลงทุน ไม่เอื้อต่อ Program trading ที่ใช้ ก่อนที่ระยะยาวคาดจะปรับตัวได้
  • ศาล รธน. ไฟเขียวสูตรหาร 100 สำหรับ ส.ส. ปาร์ตี้ลิสต์ คาดจากนี้บรรยากาศการเมืองไทยจะเริ่มชัดเจนขึ้น
  • ปัจจัยเศรษฐกิจมหภาคที่สำคัญในสัปดาห์หน้า เช่น การประชุมโอเปกพลัส, PMI ยุโรป, CPI จีน เป็นต้น

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PLANB แนะรันเทรนด์ต่อตามปัจจัยบวกจากรายงานเม็ดเงินโฆษณาเดือน ต.ค. เติบโตทั้ง YoY และ MoM หนุนโดยกลุ่มสื่อนอกบ้าน ดีกว่าสื่อ TV (รายงานพื้นฐานวันนี้)
  • JMART มองราคาหุ้นพักฐานรอบใหม่ใกล้จบ เป็นโอกาสสะสมรอราคาแรลลี่ใหม่ ล่าสุดปิดสุกี้ ตี๋น้อยอย่างเป็นทางการ พร้อมขยายสาขาแบบก้าวกระโดด และคาดเห็นการทยอยปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากตลาด

Global Investing Brief: หุ้นสหรัฐฯ บวกเด่น หลัง Fed ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

  • 3 ดัชนีหลักปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี DJIA +2.2% S&P 500 +3.1% และ Nasdaq +4.4% นำโดยกลุ่มเทคฯ Microsoft (MSFT) +6.2% และ Meta Platforms (META) +7.9% หลังเจอโรม พาวเวล กล่าวที่สถาบัน Brookings ว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในการประชุมเดือน ธ.ค. นี้ ประกอบกับข้อมูลตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTs เผยว่าตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.3 ล้านตำแหน่ง แสดงถึงภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ส่งผลให้ปัจจุบัน FedWatch Tool จาก CME Group ให้น้ำหนัก 75.8% เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่ 66.3% ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.5% ในเดือน ธ.ค. 65
  • Amazon (AMZN) เผยว่ายอดขายช่วง Cyber Monday และ Black Friday ในปีนี้ทำยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากสินค้า Apple เช่น AirPods และอุปกรณ์แบรนด์ Amazon เช่น ลำโพง Echo Dot ขณะที่ผู้ให้บริการข้อมูล Adobe Analytics เผยว่าผู้บริโภคใช้จ่ายออนไลน์ใน Black Friday เพิ่มขึ้น 2.3%YoY ขณะที่ Cyber Monday เพิ่มขึ้น 5.8%YoY เราคาดว่างบ 4Q65 ของ AMZN จะออกมาดีกว่าคาด หนุนจากช่วงเทศกาลดังกล่าวและเทศกาล Prime Day ที่มีการจัด 2 ครั้งในปีนี้ ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $139.16

ตลาดหุ้นฮ่องกง

  • วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งบวกต่อ 2.2% นำโดย Meituan (3690) +5.3% และ JD.com (9618) +3.8% หลังจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในจีนอยู่ที่ 37,828 ราย ลดลงจากวันก่อนหน้าที่ 38,645 ราย นับเป็นการปรับลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อภาคการผลิต (PMI) เดือน พ.ย. ในจีนอยู่ที่ระดับ 48 ลดลงจากระดับ 49.2 ในเดือน ต.ค. และต่ำกว่าตลาดคาดที่ 49 หลังได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ อย่างไรก็ดี เราคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. หลังโรงงานหลายแห่งเริ่มกลับมาดำเนินการอีกครั้งจากการคลายล็อกดาวน์
  • Tencent (700) เผยว่าบริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคลาวด์ใหม่ โดยจะมุ่งเป้าไปที่ตลาดต่างประเทศ เนื่องจากกำลังหาช่องทางในการเพิ่มรายได้ธุรกิจคลาวด์ หลังในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจเกมซึ่งเป็นธุรกิจหลักได้รับผลกระทบจากการควบคุมการเล่นเกมของเด็กในจีน ส่งผลให้รายได้ธุรกิจเกมในประเทศหดตัว 7%YoY ใน 3Q65 โดยเรามองบวกต่อประเด็นดังกล่าว หลังบริษัทวิจัย Gartner คาดว่าการใช้จ่ายในระบบคลาวด์ทั่วโลกในปี 66 จะโตราว 20.7%YoY แตะ $5.9bn ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ HKD395.87

ตลาดหุ้นเวียดนาม

  • วานนี้ดัชนี VN บวกต่อ 1.6% ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฮ่องกง นำโดย DGW +7% VCB +1.5% ด้าน กรมศุลกากรเวียดนามเผยตัวเลขนำเข้าหดตัว 7.3%YoY ครั้งแรกตั้งแต่ ก.ค. 63 ขณะที่ส่งออกหดตัว 8.4%YoY ครั้งแรกนับตั้งแต่ ก.ย. 64 หลังคำสั่งซื้อธุรกิจประเภทเสื้อผ้า สิ่งทอจากต่างประเทศเริ่มหดตัวลง โดยเราคาดว่าจะทำให้งบ 4Q65 ของบริษัทเหล่านี้ เช่น STK TCM ออกมาต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ดี บริษัทที่เน้นการส่งออกส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดกลาง-เล็ก จึงคาดว่าจะไม่ส่งผลต่อภาพรวมดัชนีมากนัก
  • MSN เผยว่าในช่วง 11 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดสาขาร้านค้าปลีก WinMart และ WinMart+ รวมกัน 787 สาขา และมีลูกค้าสมัครสมาชิก WinMembership เพิ่มขึ้นกว่า 5 แสนคน โดยในปี 66 บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาอีก 1,500 สาขา และจะพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินเพิ่มเติมร่วมกับธนาคารในเครือ TCB เพื่อสร้างระบบการใช้จ่ายในการจำหน่ายสินค้า เรามองว่าการขยายสาขาจะช่วยขยายอัตรากำไร เนื่องจากจะทำให้บริษัทมีอำนาจต่อรองสินค้ากับซัพพลายเออร์มากขึ้น ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ VND128,232

Highlight

Financial Times รายงานว่ารัฐบาลจีนจัดตั้ง สถาบันวิจัยชิป Beijing Open Source ที่รวบรวมบริษัทต่างๆ เช่น Alibaba (9988) Tencent (700) และสถาบันวิชาการของจีนไว้ด้วยกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาชิปขึ้นมาใหม่ หลังต้องการลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปจากสหรัฐฯ เรามองเป็นการปรับตัวของทางการจีนเพื่อป้องกันปัญหาห่วงโซ่อุปทานชิป และส่งสัญญาณต่อเนื่องว่าการจัดระเบียบบริษัทเทคฯ ในจีนใกล้สิ้นสุดลง

- Advertisement -