ตลาดทดสอบแนวต้าน 1640 รับปัจจัยบวกเฟดชะลอขึ้นดบ.
ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,635.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.97 จุด (+0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 79,464.80 ล้านบาท รับแรงซื้อหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรม ค้าปลีก ตอบรับปัจจัยบวกจากกนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด รวมถึงส่งสัญญาณเศรษฐกิจไทยปี 66-67 ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
แนวโน้มตลาดวันนี้… ประเมิน SET Index แกว่งตัว sideway up ลุ้นทดสอบแนวต้าน 1640 รับปัจจัยบวกหลังจากพาวเวลส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ส่งสัญญาณว่าภารกิจต่อสู้กับเงินเฟ้อยังอีกไกล สะท้อนแนวโน้มว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 66 ทั้งนี้ข้อมูลจาก FedWatch Tool รายงานตลาดให้น้ำหนัก 75.8% ว่าเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุม FOMC 13-14 ธ.ค. นี้สู่ระดับ 4.25-4.50% ด้าน US Bond yield ปรับตัวลง ขณะที่วานนี้กนง.มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 1.25% รวมถึงมองแนวโน้ม เศรษฐกิจไทยดีต่อเนื่องในปี 66-67 แม้เศรษฐกิจโลกชะลอ และเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุดแล้ว กระทบต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นหนุน Fund flow ไหลเข้า
คืนนี้ติดตาม Core PCE สหรัฐฯ คาดขยายตัว 0.3%MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนที่ขยายตัว 0.5%MoM
กลยุทธ์การลงทุน … Selective Buy ในหุ้นที่อิงกับปัจจัยบวกภายในประเทศ
Investment themes…
- Pre-Election Rally KBANK SIRI CK EA TKS
- Domestic consumption AAV CENTEL CRC CPALL SINGER SYNEX CBG
เคาะไป คุยไป… CBG
- แนวโน้ม 4Q65 มองว่าจะขยายตัว QoQ จากต้นทุนที่ลดลง โดยเฉพาะอุปสงส์อลูมิเนียมที่ลดลงตามการ lockdown ในจีน ประกอบกับ margin ที่ดีขึ้นของกลุ่ม Energy drink ด้านปริมาณขายคาดว่าโดดเด่นจากอานิสงส์บวก หลังการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ส่งผลให้ลูกค้าหลักมีกำลังซื้อมากขึ้น รวมถึงอยู่ในช่วงเทศกาลบอลโลก รวมถึงคำสั่งซื้อของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเริ่มกลับมาแต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่วน GPM ประเมินว่าจะกลับมาเหนือระดับ 30% หลังใน 3Q65 อยู่ที่ระดับ 29%
- ราคาซื้อขายอยู่บน PE เท่ากับ 38 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มเล็กน้อย แต่ในแง่ของ ROE ทำได้โดดเด่นกว่ามาก (งวด 9M65 อยู่ที่ 25% ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมยังต่ำกว่า 20%) รวมถึงแนวโน้มผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ขณะที่ IAA Consensus ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 108.7 บาท ยังมี upside กว่า 15%
- เชิงเทคนิคมีแนวโน้มกลับตัวขึ้นรูปแบบ Rounding Bottom แนวต้านจุดทดสอบ 97.00 แนวรับ 94.50/93.00
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกกว่า 700 จุดหลังปธ.เฟดกล่าวว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกจากความหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ในจีน และหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอตัวของยูโรโซน
(+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกเหนือระดับ 80% จากความต้องการใช้น้ำมันในจีนจะฟื้นตัว และการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
(+) สัญญาทองคำ ตลาด COMEX ปรับตัวลง จากตลาดมองว่าเฟดได้ส่งสัญญาณถึงการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปแม้จะชะลอตัวก็ตาม
ประเด็นเด่นวันนี้
- กนง.มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ตามตลาดคาด สู่ระดับ 1.25% ขณะที่ให้มุมมองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยภาคท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังเป็นแรงส่งสำคัญในระยะต่อไป ทั้งนี้ได้ปรับลด GDP 65-66 ขยายตัวลงเป็น 3.2% เดิม 3.3% จากการปรับคาดการณ์ส่งออกลดลง) ในปี 65 และ 3.7% (เดิม 3.8% จากการส่งออกที่ขยายตัวเพียง 1%) ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 65-66 อยู่ที่ 6.3% (คงที่) ในปี 65 ซึ่งผ่านจุดสูงสุดไปแล้วช่วง 3Q65 และ 3% ในปี 66 (เพิ่มขึ้นเล็กน้อย) ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเพิ่มขึ้น ตามดุลการบริการที่ปรับตัวดีขึ้นและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ค่าระวาง เรือและต้นทุนพลังงานลดลง ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในเดือนพ.ย. ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัจจัยเรื่องอุปสงค์ต่างประเทศที่ชะลอตัว การปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่าจ้างและราคาสินค้า รวมทั้งความต่อเนื่องของการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ขณะที่ ธปท.มองเก็บภาษีหุ้นอาจกระทบแค่ช่วงแรก แต่ไม่มีผลรุนแรงต่อตลาดทุน-เงินทุนเคลื่อนย้าย
- มติ 7:2 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ไม่ขัดรธน. สูตรปาร์ตี้ลิสต์ หาร 100 เรามองเป็นบวกเนื่องจากช่วยคลายล็อกการเมืองไทยให้เดินหน้าต่อ ในเชิงกลยุทธ์เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเมือง พบว่าสถิติช่วง 6 เดือน ก่อนเลือกตั้งจะมีเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในตลาดหุ้นหนุนดัชนีปรับขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่จะมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกระแสการเมืองในประเทศ จึงเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้ง 6 เดือน เราแนะนำสะสมกลุ่ม Pre- Election Rally เราชอบ KBANK SIRI CK EA TKS
