ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับตัวขึ้นต่อ… ฟันด์โฟลว์น่าจะแข็งแกร่งมากขึ้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ ปรับตัวขึ้นต่อ…. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้น (ตามคาด) หนุนโดยข่าวทางการจีนเตรียมผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม zero-COVID ขณะที่ในช่วงบ่ายมีปัจจัยบวกเพิ่มเติม จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 7 ต่อ 2 ให้กฎหมายเลือกตั้ง (วิธีการคำนวณที่นั่ง สส. แบบหาร 100) ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หนุนความมั่นใจต่อการเดินหน้าเลือกตั้ง 2566… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นบวก กล่าวคือ i) ประธานเฟด Jerome Powell แถลงเมื่อวานว่ามีแนวโน้มที่เฟดจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งมุมมองของตลาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.50% ในวันดังกล่าว ii) ยูโรโซนรายงานเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ที่ 10.0% YoY ซึ่งแม้ว่ายังสูงอยู่แต่ต่ำกว่าที่ consensus คาดการณ์ที่ 10.4% YoY ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าฝั่งยุโรปอาจชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ เช่นกัน ด้านปัจจัยภายในประเทศเมื่อวานนี้ กนง. ปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ 1.25% ซึ่งเป็นไปตามที่ฝ่ายวิจัยฯ และ consensus คาด ทั้งนี้ กนง. ยังได้ปรับลด GDP growth ปี 2565 สู่ 3.2% (จากเดิม 3.3%) และปี 2566 สู่ 3.7% (จากเดิม 3.8%)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร BJC*, SHR, GPSC*

  • BJC* (เป้า Consensus 38.8 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 33.75 บาท / แนวต้าน 34.75 – 35.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินแนวต้านถัดไป +/- 37 บาท (Stop loss 33.0) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มค้าปลีก ขณะที่คาดแนวโน้มผลการดำเนินฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยว คาดการบริโภคในประเทศเติบโตต่อเนื่องใน 4Q65 – 2566 โดย Consensus คาดกำไรปี 2566 โต +21.5% YoY เป็น 5.89 พันล้านบาท 3) Forward PE ปี 2566 คาดจะลดลงเหลือ 23.2 เท่า (ลดลงจาก 28.2 เท่าบนประมาณการฯ ปีนี้)
  • SHR (เป้าพื้นฐาน 4.90 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 3.98 บาท / แนวต้าน 4.08 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 4.20 – 4.30 บาท (Stop loss 3.88 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q65 ยังสดใส อัตราเข้าพักล่าสุดเดือน ต.ค.เฉลี่ยอยู่ที่ 68% (สูงกว่าเฉลี่ย 3Q65 ที่ 67%) ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯคาดบริษัทสามารถบริหารจัดการต้นทุนที่ปรับสูงขึ้นที่ยุโรปได้ จาก i) การปรับขึ้นค่าที่พัก ii) ป้องกันความเสี่ยงโดยการ Hedging ต้นทุนสาธารณูปโภคถึง 1Q66 … ขณะที่เราคาดต้นทุนพลังงานเริ่มพักฐานตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ 3) ราคาหุ้นพักฐานสูงมา ทำให้ PBV ลดลงเหลือ 0.85 เท่า คิดเป็นราว 40.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (จากที่เคยขึ้นไปสูงสุดที่ 1.1 เท่า)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 69.0 บาท / แนวต้านแรก 70 บาท กรณียืนเหนือแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 71.75 – 73.5 บาท (Stop loss 68.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจาก i) ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น (ลดความเสี่ยงการขาดทุนค่าเงิน) ii) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด หนุน Sentiment ธีม Bond-like stock iii) ต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มพักฐาน 3) เข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนรอบล่าสุด คาดประกาศรายชื่อผู้ยื่นประมูลแต่ละโครงการต้นเดือน ธ.ค.นี้ (คาดประกาศผล 1Q66) 4) PBV 1.83 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.7 เท่า

หุ้นมีข่าว

(+) จูงใจรถไฮโดรเจน WHA*-NEX* รับเต็ม (ทันหุ้น) รัฐบาลเดินหน้าผลักดันธุรกิจไฮเทค บีโอไอให้สิทธิ พิเศษยานยนต์ไฮโดรเจน การสับเปลี่ยนแบต การผลิตไฮโดรเจน เป็นการลงทุนเกรด A1+ ยกเว้นภาษีได้ 10-13 ปี เข้าทาง NEX* ที่ประกาศลงทุนยานยนต์ไฮโดรเจน ผู้บริหารชี้โอกาสเติบโตแรงในอนาคต ด้าน WHA* ชูนักลงทุนแห่เจรจาซื้อที่ดิน โบรกแนะโฟกัส NEX* และ WHA*

(+) BGRIM* รุก COD เพิ่ม 140 MW GPSC* ผนึกโคนมชิงรีนิวฯ (ข่าวหุ้น) BGRIM* เดินเครื่องโรงไฟฟ้า อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 ขนาด 140 เมกะวัตต์ ขายไฟฟ้าให้กฟผ.และนิคมฯ ปี 66 เตรียมจ่ายไฟฟ้าอีก 3 โครงการรวม 420 เมกะวัตต์ และ SPP ใหม่ 2 โครงการ 280 เมกะวัตต์ ปิดดีลลงทุนโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่นเพิ่ม พร้อมยื่นกกพ.ชิงโซลาร์-ลม-โซลาร์พ่วงแบต ด้าน GPSC* เซ็นกลุ่ม CIP จากเดนมาร์ก พร้อมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชิงโรงไฟฟ้าทดแทน

(+) JKN เตรียมพร้อมประกวดนางงาม ลงทุนธุรกิจน้ำดื่ม (ทันหุ้น) JKN พร้อมจัดประกวด Miss Universe 2022 ครั้งที่ 71 ปูพรมไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2023 มั่นใจกระแสตอบรับดี-สปอนเซอร์อ้าแขนรับ ให้การสนับสนุนเต็มสูบ ขณะที่เดินหน้าลุยธุรกิจน้ำดื่ม “MU Water” ตั้งเป้าวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ไตรมาส 2/66 คาดสร้างรายได้ปีแรก 250-300 ล้านบาท

(+) ASW ผนึกญี่ปุ่น ผุดโครงการใหม่ แคมปัสคอนโดฯ (ไทยโพสต์) ASW ประกาศร่วมทุนต่อเนื่องกับพันธมิตรญี่ปุ่น “ทาคาระ เลเบ็น” พัฒนาโครงการแคมปัสคอนโดฯ แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อ “เคฟ ซี้ด เกษตร” มูลค่าโครงการกว่า 1,350 ล้านบาท ตอบโจทย์ Gen Z

(+) RT รับงานต่างแดนกันพอร์ต คว้าโรงไฟฟ้าลาว 1.6 พันล้าน (ทันหุ้น) RT รุกรับงานต่างประเทศ ดันสัดส่วนแบ็กล็อกงานต่างประเทศเพิ่มเป็น 15% หลังล่าสุดคว้างานก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง สปป.ลาว มูลค่า 1,615 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกเกิน 1 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปใน 2566-2567

(+) BTS ประกาศปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารสำหรับรถไฟฟ้าสายสีเขียวระยะทาง 23.5 กิโลเมตร ตามสัญญาสัมปทานหลักเส้นทางหมอชิต-อ่อนนุชชม สนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน และสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่ โดยปรับเพิ่มขึ้นเป็นอัตรา 17 บาท ถึง 47 บาท (จากปัจจุบันที่อัตรา 15 บาทถึง 44 บาท) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 (ประกาศของ BTS) เรามองเรื่องดังกล่าวเป็นบวกต่อ BTSGIF มากที่สุด ในฐานะที่เป็นผู้บริหารสินทรัพย์รถไฟฟ้าสายสีเขียวหลักในปัจจุบัน ขณะที่ BTS จะได้ประโยชน์น้อยกว่า เนื่องจากเป็นเพียงผู้ถือหุ้นใน BTSGIF สัดส่วนประมาณ 30% ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 7% จากปัจจุบัน โดยไม่ได้มีการปรับเพิ่มมากว่า 5 ปีนับจากเดือนตุลาคม 2560 เราเชื่อว่าภาพรวมจะส่งผลบวกต่อผลการดำเนินงานของ BTSGIF ตามทิศทางการฟื้นตัวของผู้โดยสาร หลังผ่านการระบาดใหญ่ของ COVID-19 ก่อนหน้านี้ โดยขณะนี้สถานการณ์การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เรายังคงแนะนำซื้อ BTS โดยให้ราคาเป้าหมายปี FY66 ไว้ที่ 12.30 บาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 63.75 บาท / แนวต้าน 66-68 บาท (Trailing stop 62.5 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) แนวรับ 14.6 บาท / แนวต้าน 14.9-15.5 บาท (Trailing stop 14.6 บาท)
  • NEX (เป้า Consensus 23 บาท) แนวรับ 18.5 บาท / แนวต้านแรก 19.3-19.6 บาท (Stop loss 18.4 บาท)
  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 41 บาท) แนวรับ 31.75 บาท / แนวต้าน 32.75-33.75 บาท (Stop loss 30.75 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 165 บาท) แนวรับ 143.5 บาท / แนวต้าน 147.0-149.0 บาท (Stop loss 143.0 บาท)
  • SCB* (เป้าพื้นฐาน 136 บาท) แนวรับ 104.5 บาท / แนวต้าน 106.5-108.5 บาท (Stop loss 104.5 บาท)
  • GULF* (เป้าพื้นฐาน 58 บาท) แนวรับ 52.5 บาท / แนวต้าน 54 บาท (Stop loss 51.5 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนวรับ 3.82 บาท / แนวต้าน 3.90-3.98 บาท (Stop loss 3.70 บาท)
  • KSL (เป้า Consensus 5.39 บาท) แนวรับ 3.74 บาท / แนวต้าน 3.84-3.90 บาท (Stop loss 3.70 บาท)
  • ILM (เป้า Consensus 22.9 บาท) แนวรับ 18.8 บาท / แนวต้าน 19.5-20.0 บาท (Trailing stop 18.4 บาท)
  • MAJOR* (เป้าพื้นฐาน 23.8 บาท) แนวรับ 19.5 บาท / แนวต้าน 20.1-20.3 บาท (Stop loss 19.4 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 12.3 บาท) แนวรับ 10.2 บาท / แนวต้าน 10.9-11.1 บาท (Stop loss 10.2 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

BCPG* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 10.4 บาท จากการเยี่ยมชมกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่ไต้หวัน ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินความร่วมมือกับภาครัฐไต้หวันจะหนุนการขยายกำลังการผลิตในอนาคต ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯ คงคำแนะนำ “ถือ” โดยอยู่ระหว่างรอการประกาศลงทุนโครงการใหม่ๆ เนื่องจากมี Upside จำกัด เทียบกับโครงการที่มีในมือปัจจุบัน

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus
- Advertisement -