KS Daily View 08.12.2022 > วันนี้ติดตามถ้อยแถลงประธาน ECB แนะกลุ่ม Anti commodity/ Defensive/ Domestic SET คาดแกว่งในกรอบ 1616-1630 จุด หุ้นแนะนำวันนี้  PSL

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน :

ต่างประเทศ: ยังไม่มี Factor ใหม่ที่มีนัยยะ หลักๆตลาดยัง wait&see ประชุม Fed สัปดาห์หน้า และแรงกดดันความกังวลเรื่อง Recession ยังกดดันบรรยากาศการลงทุน โดยปัจจัยบวกยังคงมาจากฝั่งเอเซียคือเรื่องจีนเดินหน้าผ่อนคลายกิจกรรมเศรษฐกิจ โดยรวมทำให้ตลาดหุ้นโลกเมื่อวานแกว่งตัว อิง  ดัชนี Dow Jones 0.01%DoD, S&P500 -0.19%, NASDAQ -0.51% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ที่ปรับลงหลักๆ คือ กลุ่ม Communication Services  -0.93% ถัดมาคือกลุ่ม IT -0.51%, กลุ่ม Consumer Discretionary -0.48% ส่วนกลุ่มที่บวกสวนคือ Health Care +0.85% Consumer Staples +0.38%

ในประเทศ : SET Index เมื่อวานปิด 1622.28 จุด(-0.65%DoD) หุ้นที่ปรับขึ้นหลักๆนำโดย SPI +5.97%, SVH +5.4% BEM+2.7% ฯลฯ หุ้นที่ปรับลง  DELTA -6.22%, PTTEP -2.5%, PTT-1.53%, GULF -1.4% ส่วนประเด็นอื่น เมื่อวานรายงานเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ย. (+5.6% YoY) (น้อยกว่า +5.8% YoY ที่ตลาดคาด)  ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานชะลอตัว(+3.2% YoY, -0.13% MoM)  แนวโน้มออกมาชะลอลงเป็นการตอกย้ำว่าเงินเฟ้อไทยได้ผ่านจุด Peak   เราประเมินจะลดแรงกดดันต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยในปี 2566 เป็นต้นไป  KS คาด ธปท.จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps อีก 2 ครั้ง ในปี 2566 (อัตราดอกเบี้ยนโยบายสุดท้ายปี 2566 ที่ 1.75%)

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม : หลักๆ วันนี้ให้น้ำหนักไปที่ปัจจัยต่างประเทศคือ ถ้อยแถลงของประธาน  ECB President Lagarde จะแสดงความเห็นต่อการดำเนินนโยบายการเงินในยุโรป? และตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ตลาดคาด 230K (vs. 225K สัปดาห์ก่อน) เราประเมินว่าหากออกมาดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาดจะไม่น่าทำให้มุมมองเรื่องดอกเบี้ยของ Fed  เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ ปัจจุบันตลาดคาดรอบนี้ Fed จะขึ้น 50 bps ส่วนโอกาสการขึ้น 75 bpsคาดโอกาสไม่สูง โดยรวมทำยังคงมุมมองเดิมคือ Dollar,  Bond yields  ได้ผ่านจุด Peak ไปแล้ว และแนวโน้มเงินบาทยังแข็งค่าต่อจากสถานการณ์ดังกล่าว  โดยรวม KS ยังมองบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเงิน, กลุ่มโรงไฟฟ้า แต่จะลบต่อกลุ่มประกันชีวิต

Theme หุ้นแนะนำลงทุน: 

ระยะสั้น : แนะนำเก็งกำไร ในหุ้น

1.) กลุ่ม Anti Commodity ตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ Brent  ยังปรับลงทำ New low ในรอบ 1 ปี เมื่อวาน -2.8%DoD ปิดที่ 77.17 เหรียญ/บาร์เรล  บวกต่อกลุ่ม Retail oil อาทิ PTG, OR กลุ่มสายการบิน อาทิ AAV, BA

2.) กลุ่มเรือเทกอง อาทิ PSL วันนี้คาดได้กระแสบวกจาก BDI ที่ปรับขึ้น

3.) กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC, BGRIM EGCO RATCH  ฯลฯ ได้กระแสบวกจากทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่า  โดยเช้านี้เงินบาทต่ำ 35 บาทอีกครั้ง ลงมาอยู่ที่ 34.88 บาท

ระยะกลาง-ยาว : เรายังแนะนำสะสมและ Run profit ในหุ้นกลุ่มที่แนะนำตั้งแต่ต้นสัปดาห์

1.) กลุ่ม Growth stock แนะนำ JMT, KLINIQ

2.) หุ้น Defensive พื้นฐานดี, Downside จำกัด แนะนำ BEM, BAM

3.) กลุ่มนิคมได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิต AMATA

4.) กลุ่มโรงแรม SHR, MINT

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกรอบ 1616-1630 จุด

Top pick : 

PSL (ราคาพื้นฐาน 19.2 บาท) เราแนะนำเก็งกำไร PSL ตามดัชนีค่าระวางเรือ BDI +2.46% DOD เพิ่มขึ้น 33 จุด ปิดที่ 1373 จุด โดยปัจจัยหนุนมาจากฝั่งจีนคือการผ่อนคลายข้อจำกัดที่เข้มงวดของนโยบายควบคุมโควิ-19 ของจีน และ การพักรบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน นำไปสู่การสร้างอุปสงค์สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ขึ้นใหม่ในยูเครน

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสฯ ติดตามถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde และตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด 230K (vs. 225K สัปดาห์ก่อน)
  • วันศุกร์ ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือน พ.ย. คาด +0.2% MoM และ +2.1% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนเดือน พ.ย. คาด -1.6% YoY ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด +0.2% MoM และ +7.2% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment สหรัฐฯเดือน ธ.ค. คาด 57 จุด ทรงตัว MoM และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟอเฉลี่ย 5 ปีโดย U Michigan คาด 2.9% (vs. 3.0% เดือนก่อน)
- Advertisement -