Daily Focus: Domestic and Selective Play

2023SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ในกรอบแคบ ปรับลงเล็กน้อย 1.79 จุด ณ สิ้นวัน หุ้นขนาดใหญ่อย่าง DELTA PTTEP PTT ยังเป็นตัวถ่วงหลัก และยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 391 ลบ. และ 2 พัน ลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติยัง Short Index Futures ต่อเนื่องและเร่งขึ้นเป็นกว่า 3 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways โดยคาดว่าแนวรับหลักระยะสั้นที่ 1,610 จุดจะยังทำงานได้ดี และมีโอกาสฟื้นตัวระยะสั้นบ้าง หลังจากปรับลงติดกัน 4 วันก่อนหน้า ปัจจัยที่ตลาดรอติดตามวันนี้คือตัวเลขเงินเฟ้อ PPI เดือน พ.ย. ของสหรัฐฯ หากออกมาชะลอตัวลงและต่ำกว่าคาดจะช่วยผ่อนคลายความกังวลทั้งการขึ้นดอกเบี้ยของ FED และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังอ่อนตัวลงระยะสั้นกดดันกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่ม Anti-Commodity อย่างโรงไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างอย่างต่อเนื่องจากแรงกดดันต้นทุนที่ต่ำลง รวมถึงเป็นบวกต่อกำลังซื้อของบริโภคที่จะดีขึ้นหนุนการบริโภคให้ทยอยเร่งตัว สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย. ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 สู่ระดับ 47.9 ภาพรวมปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ คาดว่าจะช่วยหักล้างกับความเสี่ยงจากฝั่งต่างประเทศได้ ทำให้หุ้นไทยยังมีแนวโน้มแกว่งตัวแข็งแรงกว่าภูมิภาคอื่นๆ จึงยังเน้นลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic และ Consumption Play

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic Play ตามเศรษฐกิจที่ทยอยเร่งตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, BDMS, CRC, M, MAJOR

หุ้นเด่นวันนี้ : ITC

  • แนะนำ “ซื้อ” กรอบราคาเป้าหมาย 41-45 บาท
  • ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของไทยและของโลก มีจุดแข็งอยู่ที่ความได้เปรียบทางด้านต้นทุนและการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมสม่ำเสมอ การมี TU เป็นแม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ารายใหญ่ของโลก ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์เฉลี่ยถึง 20 ปี ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกมายาวนาน และสามารถสร้างการเติบโตได้ดีกว่ามูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
  • แม้จะเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด แต่อาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตต่อเนื่องตามกระแส Pet Humanization คาดกำไรปกติปี 2022 ยังเติบโตแข็งแกร่ง +61% Y-Y และคาดการเติบโตของกำไร 3 ปีข้างหน้าจะโตเฉลี่ย +19% CAGR เราชอบทั้งแนวโน้มการเติบโตของกำไร และความสามารถทำกำไรที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง Finansia เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดนำหน่ายฯ

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาคเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันอีก US$686 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ประเทศละ US$324-328 ล้าน อาเซียนเม็ดเงินออกจากไทย แต่ไหลเข้าเวียดนามด้วยปริมาณที่ไม่ได้หนาแน่นนัก แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออกแต่บางลง ตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อ PPI สหรัฐฯเดือน พ.ย. คืนนี้

ประเด็นสําคัญวันนี้

(0) คืนนี้จับตาเงินเฟ้อผู้ผลิตสหรัฐฯ สำหรับเดือน พ.ย. ตลาดคาด Headline PPI +0.2% M-M, +7.2% Y-Y ส่วน Core PPI Flat M-M, +5.9% Y-Y ชะลอลงต่อเนื่องจากจุดสูงสุด เดือน มี.ค. 22 เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นสัญญาณบวกต่อ CPI ในระยะถัดไปจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ทยอยลดลง หากออกมาต่ำกว่าคาดจะเป็นบวกต่อบรรยากาศการลงทุนและสินทรัพย์เสี่ยง ส่วนสัปดาห์หน้าติดตามเงินเฟ้อ CPI และการประชุม FED ครั้งสุดท้ายของปี

(+) JR มีปัจจัยบวกหลัง STEC ประกาศลงนามสัญญาโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน โครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงคลองถนน-ถนนรามคำแหง มูลค่า 4.4 พันลบ. ซึ่งเป็นโครงการเฟสที่ 2 และต่อเนื่องจากเฟสแรกที่ JR ดำเนินการอยู่และเป็นโครงการเป้าหมาย ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้รับงานต่อจาก STEC ในอนาคต ซึ่งจะช่วยหนุน Backlog ปรับตัวขึ้นจาก 3.4 พันลบ. ณ สิ้น 3Q22 เป็นกว่า 7 พันลบ. รองรับการเติบโต ถึงปี 2026 เราให้ราคาเป้าหมาย JR ที่ 7.60 แนะนำ “เก็งกำไร”

(+) JWD วานนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการรวมกิจการกับ SCGL โดย JWD จะเพิ่มทุน 791.0 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 24.02 บาท เพื่อแลกหุ้นกับผู้ถือหุ้นของ SCGL จำนวนหุ้นของ JWD จะเพิ่มขึ้น 78% แต่เชื่อว่ากำไรที่ยกฐานขึ้นประมาณเท่าตัวจะหักล้างผลของ Dilution ได้ ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PE ปี 2023 ที่ 34 เท่า และ EV/EBITDA เพียง 16 เท่า ต่ำกว่าอดีตที่มี PE เฉลี่ยกว่า 40 เท่าและ EV/EBITDA กว่า 20 เท่า หลังรวมกัน SCGJWD จะมีฐานลูกค้าใหญ่ขึ้น มีอำนาจต่อรองมากขึ้น ลดค่าใช้จ่ายที่ซ้ำซ้อนกัน เปรียบเสมือน JWD ได้ลูกค้าในเครือ SCC ทั้งหมด และขยายไปในประเทศที่ SCGL มีเครือข่าย กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่สุดในอาเซียน ยังคงราคาเป้าหมาย 26 บาท แนะนำ “ซื้อ”

 

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 183.56 จุด หรือ +0.55% ปิดที่ 33,781.48 จุด แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงาน เพิ่มขึ้น 62,000 ราย สู่ระดับ 1.67 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกดดันจากการปรับลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางหุ้นสหรัฐฯ

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.72 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดลดลง 55 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 71.46 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลต่อ Demand น้ำมันทั่วโลก ในขณะที่เช้านี้รีบาวน์ที่ระดับ 72.11 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.91%

(+) ราคาทองคำ COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 1,801.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,802.0 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.03%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 908.09 / –

- Advertisement -