บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Chularat Hospital (CHG TB) TB) แชมป์แนวโน้มแกร่งระยะยาว

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ลด TP เล็กน้อยเหลือ 4.40 บาท

เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” และปรับลดราคาเป้าหมายลงเล็กน้อย เนื่องจากเราลดคาดการณ์กำไรหลักลง 12% ในปี 65 เพื่อสะท้อนรายได้จากโควิดที่ลดลง เนื่องจากสถานการณ์โควิดลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ เราคงประมาณการกำไรหลักตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไปไม่เปลี่ยนแปลง เลือก CHG เป็น Top Pick ของเราในกลุ่มดูแลสุขภาพของไทย เนื่องจาก 1) เป็นผู้นำโรงพยาบาลในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของไทย และ 2) มุ่งเน้นการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งมีความต้องการสูงและเพิ่มอัตรากำไรในระยะยาว

รายได้จากโควิดจะหายไปในปี 66

ในปี 2566 เราคาดว่ากำไรหลักของ CHG จะลดลง 29.7% เหลือ 3 พันล้านบาท เนื่องจากรายได้จากโควิดซึ่งคิดเป็น 35% ของรายได้รวมในปี 65 อาจหายไปสอดคล้องกับสถานการณ์โควิดที่ลดลง อย่างไรก็ตาม เรามีมุมมองบวกต่อการฟื้นตัวของรายได้ที่ไม่ใช่จากโควิด ซึ่งเติบโตแรง 19% QoQ (ผู้ป่วยทั่วไป) ในไตรมาส 3/65 และมีแนวโน้มเติบโตต่อที่ประมาณ 10% ในปี 66 จาก pent-up ดีมานด์ที่ลดลงหลังโควิดคลี่คลาย ส่วนในปี 66 เราคาดว่าสมาชิกประกันสังคมของ CHG จะเพิ่มขึ้น 4% และรายได้ต่อสมาชิกจะเพิ่มขึ้น 3% ส่งผลให้รายได้ประกันสังคมโดยรวมเติบโต 7%

แนวโน้มระยะยาวในพื้นที่ EEC เติบโตดี

โรงพยาบาลทั้ง 9 แห่งของ CHG อยู่ในพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศไทย เนื่องจากพื้นที่ EEC มีความหนาแน่นของประชากรสูงและมีรายได้สูง ทำให้มีผู้ป่วยมาใช้บริการโรงพยาบาลของ CHG โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นสมาชิกประกันสังคม คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 30% ของ CHG นอกจากนี้ เรายังชอบ CHG ที่มีการขยายธุรกิจได้ดี โดยจะเพิ่มเตียงให้มากขึ้น 66% ในช่วงปี 66-69 ส่วนใหญ่ในโรงพยาบาลที่มีอยู่แล้ว ซึ่งจะมีแรงกดดันจากค่าเสื่อมราคาเล็กน้อย

ความเสี่ยงที่สำคัญคือภาวะเศรษฐกิจซบเซา

เราใช้วิธี DCF, 7.27 WACC และการเติบโต 3.2% ในการประเมินมูลค่า โดยหุ้น CHG เป็นหุ้นเด่นของเรา ในฐานะผู้นำในพื้นที่ EEC ที่กำลังเติบโต ทั้งยังมีการมุ่งเน้นการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนสูงในราคาปานกลาง ซึ่งน่าจะได้รับอานิสงส์สูงสุดจากสังคมสูงวัยของไทย ขณะที่ความเสี่ยงที่สำคัญคือเศรษฐกิจที่ซบเซาส่งผลต่อการจ้างงานและจํานวนผู้ป่วยประกันสังคม

- Advertisement -