บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง: 

Bangkok Dusit Medical Services (BDMS TB) การเติบโตจะชะลอตัวในปี 66

คงแนะนำ “ถือ” ชอบ CHG มากกว่า

เราคงคำแนะนำ “ถือ” และเพิ่ม TP เล็กน้อยสะท้อน 1) รายได้จากโควิดในไตรมาส 3/65 ที่มากกว่าคาด และ 2) การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในไตรมาส 3/65 ที่มีแนวโน้มต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4/65 เราจึงเพิ่มคาดการณ์กำไรหลักปี 65 ขึ้น 12.8% ในขณะที่ยังคงคาดการณ์กำไรหลักไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 66 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 24% ในปี 65 และจะเพิ่มเป็น 30% ในปี 66 ซึ่งเป็นระดับปกติในปี 62

ผบห. ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้า

BDMS ตั้งเป้าหมายใน 3 ปีข้างหน้า ประกอบด้วย 1) รายได้เติบโต 6-8% CAGR ในช่วงปี 66- 68 (เราคาด 7.5%) และ 2) EBITDA margin ที่ 23-24% (เราคาด 23.6%) ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้ตั้งแต่ปี 66-68 คาดจะชะลอตัวลงเหลือ 7.5% CAGR เทียบกับ 30.2% ในปี 65 ดังนั้น กำไรหลักน่าจะชะลอตัวลงเหลือ 1% ในปี 66 จาก 30% ในปี 65 จากฐานที่สูงในปี 65 ที่มีรายได้จากโควิดสูงเป็นพิเศษ

มุ่งเน้นผู้ป่วยประกันสังคมมากขึ้น

ปัจจุบัน BDMS มีโรงพยาบาลประกันสังคม 8 แห่ง และมีแผนที่จะเพิ่มอีก 1 แห่ง ในปี 2567 ในศรีราชา ซึ่งเป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของไทย แม้ว่าโรงพยาบาลประกันสังคมจะยังคงมีขนาดเล็กเกินกว่าที่จะเป็นตัว ขับเคลื่อนการเติบโต (9 แห่งจาก 62 โรงพยาบาลในปี 69) แต่เรามองว่ามันจะช่วยหนุนให้ BDMS ขยายสู่กลุ่มลูกค้าที่สามารถสร้างกำไรได้เพิ่มขึ้น

ความเสี่ยงสำคัญคือการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ฟื้นตัวช้า

เราใช้วิธี DCF เพื่อประเมินมูลค่า BDMS ด้วย WACC 6.7% และการเติบโต 3.45% ดาวน์ไซด์ที่สำคัญ (และปัจจัยลบ) คือ การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ฟื้นตัวช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายทั่วโลก ส่วนอัพไซด์ที่สำคัญ (และปัจจัยบวก) คือดีมานด์ที่สูงเกินคาดจากผู้ป่วยในประเทศหลังโควิดซาลง เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยแนวโน้มระยะยาวที่ดีและมั่นคงไปแล้ว ดังนั้น เราจึงคงแนะนำ “ถือ”

- Advertisement -