เริ่มมองเฟดจะถอนคันเรง หนุนฟื้นตัวต่อ

ตลาดหุ้นวานนี้… SET Index ปิดที่ 1,623.13 จุด เพิ่มขึ้น 2.64 จุด (+0.16%) มูลคาการซื้อขาย 50,594.33 ล้านบาท บวกได้เล็กน้อยก่อนช่วงหยุดยาวสามวัน

แนวโน้มตลาดวันนี้… ประเมิน SET Index มีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1620-1640 จุด หลังวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐทั้งดัชนี Dowjones Nasdaq และ S&P ปิดบวกราว 1.5% จากความคาดหวังในตัวเลขอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ (CPI และ Core CPI) คาดจะออกมาในทิศทางชะลอตัว โดย Fed watch tool ให้น้ำหนักการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 bps ในการประชุมที่จะถึงกว่า 73.5% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นที่น้อยกว่าใน 4 การประชุมที่ผ่านมา จึงเป็นไปได้ที่อาจเห็นการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง และอาจเห็นปรากฏการ Santa rally ในปีนี้ จากการคลายความกังวลในทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ตัวเลขที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ …

  • 13 ธ.ค.: Core CPI และ CPI สหรัฐ
  • 14 ธ.ค.: Tankan Large Manufacturers Index (Q4) ของญี่ปุ่น, CPI ของอังกฤษ
  • 15 ธ.ค. : Fed Interest Rate Decision, FOMC Statement, FOMC Press Conference, Retail Sales (MoM) (Nov), Philadelphia Fed Manufacturing Index (Dec) ของสหรัฐ และ Industrial Production (YoY) (Nov) ของจีน
  • 16 ธ.ค. CPI ของ EU และ Services PMI (Dec) และ Manufacturing PMI ของสหรัฐ

กลยุทธ์การลงทุน … Selective Buy ในหุ้นที่อิงกับปัจจัยบวกภายในประเทศ และหุ้นที่รับอานิสงส์บวก อัตราดอกเบี้ยชะลอตัว

Investment themes…

  • Domestic consumption AAV CENTEL CRC CPALL SINGER SYNEX CBG BBIK
  • กลุ่มโรงไฟฟ้า GULF BGRIM GPSC ACE GUNKUL
  • กลุ่ม ETRON HANA KCE DELTA

เคาะไป คุยไป HANA

  • product mix เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและเร็วกว่าคาด โดยกลุ่ม RFID tag และ Auto ยังคงโตได้ต่อ อย่างไรก็ตาม HANA ยังคงได้รับชผลกระทบจากตลาด PC และ telecom ที่หดตัว
  • แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเปาหมายที่ 64.75 บาท อิง forward PE ปี 66 ที่ 21.5 เท่า ผลกระทบจากเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ต้นทุนปี 65 สูงขึ้นนั้นว่าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว อีกทั้ง product mix ใน 3Q65 ปรับไปในทางที่ดีขึ้นมาก มาจากกลุ่ม RFID tag และ auto ที่สามารถเติบโตแรง และสามารถชดเชยส่วนที่หายไปของ PC และ telecom
  • ปี 66 จะเป็นช่วงเวลาสำคัญ ผ่านผลการดำเนินงานของโรงงานในเกาหลี เติบโตสมกระแส EV

Global Markets

(+) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันจันทร์ (12 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไมโครซอฟท์ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในอังคาร และผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

(-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (12 ธ.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในจีน

(+) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (12 ธ.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า อุปทานน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว เนื่องจากท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน (Keystone) ยังคงปิดทำการ และรัสเซียขู่ว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน

(-) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (12 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาดทองคำ

ประเด็นเด่นวันนี้

  • สินทรัพย์ใดจะได้ประโยชน์ หลังมองเฟดจะถอนคันเรง วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัว หลังเริ่มมองจะได้รับอานิสงส์จากการที่เฟดอาจเริ่มถอนคันเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 50 bps หลังขึ้นอัตราดอกเบี้ยกว่า 75 bps มาโดยตลอดในการประชุม 4 ครั้งที่ผานมา โดยทางฝ่ายมองเป็นโอกาสเห็นการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (ฟื้นตัวตามราคาน้ำมันที่ได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นน้อยลง) และทองคำที่จะมีค่าเสียโอกาสในการถือครองน้อยลง
  • ช่วงสิ้นปี นาทีทองของกลุ่มท่องเที่ยว และ Domestic Consumption นอกจากการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ตัวเลขการท่องเที่ยวภายในประเทศก็เป็นอีกปัจจัยที่น่าติดตาม โดยช่วงสิ้นปีมักมีการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากอานิสงส์ของฤดูกาล ทำให้หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว และ Domestic consumption ยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ มีโอกาสเติบโตต่อ หลังมีฐานการเติบโตต่ำจากโควิดในปีที่แล้ว
- Advertisement -