KS Daily View 13.12.2022 > คืนนี้! ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ รอผลประชุม Fed กลางสัปดาห์ SET คาดแกว่งในกรอบ 1616-1630 จุด หุ้นแนะนำวันนี้  SGC

ประเด็นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน : ตลาดหุ้นสหรัฐ Rebound ขึ้นเมื่อวาน ดัชนี Dow Jones 1.58%DoD, S&P500 1.43%, NASDAQ 1.26% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ปรับขึ้นทุก Sector หลักๆคือ กลุ่ม Energy +2.5%,  Utilities +2.3%, IT +2.17% Industrials +1.7%, Financials +1.26% ในประเทศ : SET Index เมื่อวันศุกร์นปิด 1623.1 จุด(0.16%DoD) หุ้นที่ปรับขึ้นหลักๆนำโดย SCGP+2.7%, DELTA+2.64%, BANPU+2.26% ฯลฯ หุ้นที่ปรับลงนำโดย ITC -3.13%, HMPRO-1.37%, MAKRO -1.32%

ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม : สัปดาห์นี้

1.) ตามรายงานของกลุ่ม OPEC ที่จะประกาศในวันที่ 13 ธ.ค. โดยนักวิเคราะห์กลุ่มพลังงานของ KS มีความเห็นว่าหากตัวเลขการผลิตจริงของกลุ่ม OPEC+ ลดลงน้อยกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน เราอาจจะเห็นแรงขายทำกำไรน้ำมันอีกรอบ แต่หากตัวเลขการลดลงมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างมีนัยสำคัญก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงสั้น โดยล่าสุด ปธน. ปูติน ได้ขู่ที่จะลดกำลังการผลิตหากจำเป็นเพื่อตอบโต้มติของกลุ่ม G7 ที่กำหนดเพดานน้ำมันดิบรัสเซียที่ US$60/bbl ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง -10.6% WoW ล่าสุดปิดต่ำกว่า US$72/bbl ทำให้ราคาปัจจุบันต่ำกว่าตอนต้นปีที่ US$75/bbl แล้ว และลงมากว่า -45% จากจุดสูงสุดของปีที่ US$129.4/bbl สะท้อนความกังวลของตลาดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวกระทบอุปสงค์น้ำมันดิบ ขณะที่ความกังวลเรื่อง Supply ลดลงหลัง Forward curve ของน้ำมันดิบได้เปลี่ยนจากภาวะ Backwardation (ราคาเดือนใกล้แพงกว่าเดือนไกล) เป็น Contango (ราคาเดือนใกล้ถูกว่า) มองราคาน้ำมันดิบที่ลดลงยังคงเป็น sentiment เชิงลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานส่วนใหญ่ที่ยังบวกกว่า 10-60% YTD ขณะที่จะเป็นบวกกับกลุ่ม Anti-commodities ที่ส่วนใหญ่ราคายังติดลบ -2 ถึง -20% YTD

2.) ติดตามการผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID ของจีนต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดคนจีนสามารถเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยไม่ต้องมีการแสดงผลตรวจโควิดอีกเหมือนช่วงก่อนเกิดโควิดเมื่อ 3 ปีก่อน โดยเรามองว่า step ต่อไปจะมีการผ่อนคลายการกักตัวสำหรับคนต่างชาติที่จะเดินทางเข้าจีน รวมถึงการเปิดประเทศเต็มรูปแบบของจีนเพื่อให้คนจีนเดินทางออกนอกประเทศในลำดับถัดไป มองหุ้นที่จะได้ประโยชน์คือกลุ่มที่อิงการฟื้นตัวของการบริโภคในจีน รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการที่คนจีนจะออกมาเที่ยวมากขึ้น ได้แก่ SCGP, DOHOME, PSL, MINT, ERW, SHR, AWC, CPN, CRC, AAV, AOT, EKH, TKN, SNNP, AU, SPA, SIRI, ANAN เป็นต้น

3.) ติดตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ หลังจากที่จะต้องกลับมาส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ กลับมาที่อัตราเดิม 0.46% ในปี 2566 จากช่วงโควิดที่ 0.23% โดยทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้นได้ในอีก 8-11 ปีหลังจากนี้ หรือสิ้นสุดในปี 77 นอกจากนี้ในส่วนภาพรวมเงินฝากระบบธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ 18 แห่ง พบว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ต.ค. 2565) มียอดเงินฝากทั้งระบบเพิ่มขึ้นราว 5.45 แสนล้านบาท ทำให้ ณ เดือน ต.ค. ยอดเงินฝากคงค้างทั้งระบบขยับขึ้นไปอยู่ที่ 15.77 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอย่างไรก็ดี หากดูการเพิ่มขึ้นของเงินฝากเฉพาะเดือนตุลาคม จะพบว่ามียอดเงินฝากเพิ่มขึ้นถึง 2.35 แสนล้านบาท นับเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเดือนสูงสุดในรอบ 30 เดือน หรือ 2 ปีครึ่ง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 หลัง ธปท.ส่งสัญญาณขยับดอกเบี้ยต่อเนื่อง และธนาคารพาณิชย์ออกแคมเปญระดมเงินฝากดอกเบี้ยพิเศษหลังสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในปี 2566 มองเป็น sentiment บวกต่อกลุ่มธนาคาร

4.) นวค. KS คาดหุ้นเข้า SET50 รอบ 1H23 ได้แก่ BJC, COM7, DELTA, RATCH ส่วนหุ้นออก SET50 ได้แก่ BLA, IRPC, KCE, SAWAD ในส่วนหุ้นเข้า SET100 ได้แก่ AAV, BJC, BYD, DELTA, JAS, NEX, THG ส่วนหุ้นออก SET100 ได้แก่ AEONTS, MAJOR, STEC, SUPER, SYNEX, TASCO, TTA เป็นต้น คาดตลาดจะประกาศเป็นทางการกลางเดือน ธ.ค. ทั้งนี้หุ้นที่มีโอกาสถูกเลื่อนขึ้น 1 ลำดับหาก TRUE-DTAC รวมกันเป็นบริษัทใหม่ใน 1Q23 คือ SAWAD สำหรับ SET50 และ TASCO สำหรับ SET100

แนวโน้ม SET Index ในสัปดาห์นี้ :  KS ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1604 – 1650 จุด โดยปัจจัยต่างประเทศยังเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยคือรอประเด็น Fed และเงินเฟ้อสหรัฐวันนี้และความกังวลเรื่อง Recesion ในฝั่งประเทศพัฒนาแล้วยังมีอยู่ ทำให้หุ้นกลุ่ม Defensive จะยัง Outperform ในประเทศคาดแรงหนุนจาก Window dressing

โดยรวมใกล้โค้งสุดท้ายของปีเรามองว่าจะยังไม่มีปัจจัยบวกหรือ ลบที่จะมีผลต่อเคลื่อนไหวของดัชนี SET Index อย่างมีนัยยะ เนื่องจากใกล้เข้าเทศกาลหยุดยาวปลายปี คาดมูลค่าการซื้อขายยังเบาบาง

Theme หุ้นแนะนำลงทุน :

1.) กลุ่ม Property อาทิ ORI, SIRI, SC

2.) กลุ่มหุ้น Defensive อาทิ โรงไฟฟ้า  BGRIM, RATCH ,EGCO และ BEM

3.) กลุ่มอาหารสัตว์ อาทิ ITC

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกรอบ 1616-1630 จุด

Top pick : 

SGC (ราคาพื้นฐาน 5.5 บาท)  เราเริ่มต้นวิเคราะห์ SGC ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และ TP สิ้นปี 66 ที่ 5.50 บาท หรือ PBV ปี 66 ที่ 2.5 เท่า มากกว่าของคู่แข่งกลุ่มสินเชื่อทะเบียนรถเป็นหลักประกันเล็กน้อย  เราเชื่อว่า SGC มีข้อได้เปรียบในการแข่งขัน จากพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งภายใน (SINGER และ Jmart Group) และภายนอก (อื่น ๆ)  เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2566-67 จะมี CAGR ที่ 26.3% หนุนจากสินเชื่อกลุ่ม C4C ที่ขยายตัวขึ้นและโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ ๆ กับพันธมิตร.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลข Zew Economic Sentiment index ของเยอรมัน เดือน พ.ย. คาด -26.4 จุด ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -36.7 จุด ตัวเลข Inflation ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด +0.3% MoM และ +7.3% YoY ตัวเลข Core inflation ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด +0.3% MoM และ +6.1% YoY และรายงานภาวะตลาดน้ำมันของกลุ่ม OPEC
  • วันพุธ ติดตามตัวเลข Loan growth ของจีนเดือน พ.ย. คาด +11.1% YoY ตัวเลข M2 ของจีนเดือน พ.ย. คาด +11.7% YoY ตัวเลข Inflation ของอังกฤษเดือน พ.ย. คาด +10.9% YoY ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 50bps. เป็น 4.25-4.5% นอกจากนี้ให้จับตา Dot plot ของเฟดด้วย โดยปัจจุบันตลาดคาดการณ์ Terminal rate ปีหน้าที่ 5.00-5.25%
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่น เดือน พ.ย. คาด -1.68 ล้านล้านเยน (ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ -2.162 ล้านล้านเยน) ดัชนีราคาบ้านของจีนเดือน พ.ย. คาด -1.8% YoY (เทียบเดือนก่อนหน้านี้ที่ +1.6% YoY) ตัวเลข Retail sales ของจีนเดือน พ.ย. คาด -3% YoY (เทียบ -0.5% YoY ในเดือนก่อนหน้า) ตัวเลข Fixed asset investment ของจีนใน 11M22 คาด -5.6% YoY การประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 50bps. เป็น 3.5% การประชุมธนาคารกลางยุโรป คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย Deposit rate 50bps. เป็น 1.5% ตัวเลข Retail sales ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด -0.3% MoM ตัวเลข Initial Jobless Claim ของสหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +233K (เทียบสัปดาห์ก่อนที่ +230K) และตัวเลข Industrial production ของสหรัฐฯ เดือน พ.ย. คาด +0.1% MoM
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลข Jibun Bank Manufacturing PMI ของญี่ปุ่น เดือน ธ.ค. คาด 49.6 จุด (+1.2% MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของเยอรมัน เดือน ธ.ค. คาด 46.2 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacutring PMI ของยูโรโซน เดือน ธ.ค. คาด 47.1 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข S&P Global Service PMI ของยูโรโซน เดือน ธ.ค. คาด 48.5 จุด (ทรงตัว MoM) ตัวเลข S&P Global Manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด 47.7 จุด (ทรงตัว MoM) และตัวเลข S&P Global Service PMI ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด 46.5 จุด (+0.6% MoM)
- Advertisement -