ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐ-ประชุม Fed

กรอบ SET INDEX 1610-1640

Market Outlook

สัปดาห์นี้นักลงทุนจะให้น้ำหนักกับดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ และประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ จะประกาศในวันที่ 13 ธ.ค. (ช่วงเวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) Bloomberg คาดที่ 7.3% YoY, +0.3% MoM ตัวเลขดังกล่าวเป็นปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญ เนื่องจากมีผลต่อการตัดสินใจนโยบายของ Fed หากตัวเลขเงินเฟ้อประกาศมาแล้วต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไว้จะหนุนตลาดหุ้นฟื้นตัว แต่หากประกาศสูงกว่าคาดก็จะเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้น (คล้ายกับช่วงที่ประกาศ PPI) ในวันศุกร์ที่สูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ปัจจัยถัดไปนักลงทุนจะไปให้น้ำหนักกับประชุม Fed ที่จะทราบผลช่วงเช้าวันพฤหัสบดีตามเวลาประเทศไทย ความเห็นจาก CME Fed Watch ระบุว่าน้ำหนักส่วนมากราว 78.2% ให้โอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และอีก 21.8% ให้น้ำหนักขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.75% ดังนั้นสิ่งที่ต้องติดตามอย่างแรกคือ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยเท่าไรในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งหาก 0.5% ก็มองเป็นกลางเพราะเป็นสิ่งที่ตลาดคาดหมายไว้ อย่างที่สองคือดอกเบี้ย Fed ในปี 2023 จะเป็นเท่าไร ซึ่ง CME Fed Watch ระบุว่าปลายปี 2023 ดอกเบี้ย Fed น่าจะลงมาอยู่ที่ 4.5-4.75% ถ้าหากมิเป็นเช่นนั้นตลาดหุ้นก็เสี่ยงที่จะปรับฐานเช่นกัน และสุดท้ายถ้อยแถลงของประธาน Fed ต่อท่าที และความเห็นเกี่ยวกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ หากส่งสัญญาณถึงความกังวลก็เสี่ยงที่จะปรับฐานเช่นกัน ส่วนอื่นๆ ติดตาม (1) ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ในวันพฤหัสช่วง 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg คาดที่ -0.1% MoM ตัวเลขที่อ่อนแอ เชื่อว่าจะเป็นบวกกับตลาดมากกว่า (2) ในวันเดียวกันจะมีการรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg คาดที่ 2 แสนตำแหน่ง โดยสัปดาห์นี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1610-1640

เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นเพียงแค่ Trading และเลือกหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกิจกรรมภายในประเทศ อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, HMPRO) กลุ่มธนาคารฯ (BBL, KBANK, SCB, TISCO, TTB) สื่อสาร (ADVANC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTERL ERW, MINT) ขนส่ง (BEM) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) กลุ่มสินค้า IT (COM7, SYNEX)

หุ้นแนะนําซื้อวันนี้

BJC ราคาพื้นฐาน 40.00 บาท

คาดกำไรไตรมาส 4/22 แตะจุดสูงสุดของปีจาก (1) กำไรโมเดิร์นเทรดที่ฟื้นตัวดีจากยอดขายในย่านท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น และการมอบส่วนลดค่าเช่าที่น้อยลง และ (2) กำไรธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่ฟื้นดัวขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง

BBL ราคาพื้นฐาน 171.00 บาท

คําแนะนำ “ซื้อ” สะท้อน (1) งบดุลที่ยืดหยุ่นดี ด้วยอัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ระดับสูง และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งพร้อมรับมือความไม่แน่นอน (2) กำไรสุทธิที่โตมั่นคง (3) ROE ที่สูงขึ้น และ (4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง

- Advertisement -