รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนีบวกต่อตรงไปตรงมา
Market wrap & Outlook
- วานนี้ดัชนี Sideways up ตามคาด นำโดยกลุ่มคอมเมิร์ช CPALL MAKRO HMPRO และหุ้นใหญ่อื่นๆ AOT BBL ITC DTAC หุ้นบวกแรง SGC (IPO น้องใหม่) TEAM BRI ส่วนหุ้นติดลบกดดันตลาด BDMS BH GULF SCC IVL PTTGC
- วันนี้คาดดัชนีบวกต่อตรงไปตรงมา ตามตลาดต่างประเทศ และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ที่ตอบรับเชิงบวกต่อรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ (แม้ภาพทั้งสัปดาห์ เรายังคงมุมมอง SET อาจไม่ได้ขึ้นร้อนแรง) วันนี้จึงมองตรงไปตรงมา โดยคาดกลุ่มที่เล่นตรงข้ามเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จะได้ประโยชน์จากราคาวัตถุดิบขาลงโดยตรง รวมไปแรงกกดดันถึงกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง กลุ่มโรงไฟฟ้าต้นทุนพลังงานขาลงในระยะกลาง กลุ่มการเงินแรงกดดันต่ต้นทุนการเงินผ่านจุดสูงสุด และกลุ่มหุ้นเทคโนโลยีที่มี Correlation ตรงข้ามเงินเฟ้อ
What to watch
- รายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ คืนวานนี้ CPI +7.1% YoY +0.1% MoM (ต่ำกว่าตลาดคาด +7.3% YoY +0.3% MoM) และ Core CPI +6.0% YoY (ต่ำกว่าตลาดคาด +6.1% YoY) หนุนราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกดีดตัว
- ติดตามต่อ สำหรับประชุมธนาคารกลางสหรัฐ คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ด้านธนาคารกลางยุโรปคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.5% และ ธนาคารกลางอังกฤษขึ้น 0.5%
- และติดตามสัญญาณ ว่าจีนจะคลายมาตรการควบคุมโควิด ได้เมื่อไร
หุ้นแนะนำวันนี้
- SCGP หุ้นเล่นตรงข้ามเงินเฟ้อ ได้ประเทศแนวโน้มเงินเฟ้อขาลง จากต้นทุนวัตถุดิบลง อัตรากำไรขยายตัว
- GLOBAL ตามรายงานวันนี้ เรา Upgrade คำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ
Quantitative Strategy: คาด SET จะทะลุแนวต้าน 1650 จุดได้ภายในเดือนนี้
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเล็กน้อย 0.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดจับตารอผลการประชุมเฟดในวันที่ 14 ธ.ค. เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้เร็วๆนี้ ทั้งนี้ดัชนี Composite Short-term ปรับตัวลงเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามดัชนี Short-term Momentum Strength ยังคงอยู่ในโซน Strength ดังนั้นตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับมามีโมเมนตัมและทะลุระดับแนวต้านระยะสั้นที่ 1650 จุดได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เราประเมินกรอบการแกว่งตัวของดัชนี SET ระหว่างวันที่ 14-26 ธ.ค. ในกรอบ 1615-1680 จุด
Global Investing Brief: หุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น หลังเงินเฟ้อเดือน พ.ย. ต่ำกว่าคาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
- เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักปิดบวก โดยดัชนี DJIA บวก 0.3% S&P 500 บวก 0.7% และ Nasdaq บวก 1.0% นำโดย Microsoft (MSFT) บวก 1.8% และ Meta Platforms (META) บวก 4.7% หลังเงินเฟ้อ (CPI) เดือน พ.ย. ขยายตัว 7.1%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.3%YoY และลดลงจากเดือน ต.ค. ที่ 7.7%YoY ส่งผลให้ bond yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับลงสู่ 3.5% เรามองว่าจะเป็นปัจจัยให้ Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ลดลง โดยคาดว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยที่ 0.5% ในการประชุม FOMC คืนวันนี้ และขึ้นอีก 0.25% ในเดือน ม.ค. 66
- Pfizer (PFE) เผยคาดการณ์รายได้ต่อปีของวัคซีน mRNA ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ $10-$15bn ภายในปี 73 จากราว $4bn ในปัจจุบัน หนุนจากความต้องการวัคซีนที่มากขึ้น รวมไปถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกทั้งบริษัทยังมีแผนเปิดตัววัคซีนป้องกันไวรัสทางเดินหายใจ (RSV) ในปี 66 ซึ่งคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกำลังหลักหนุนรายได้ โดยคาดว่ารายได้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นแตะ $2bn ในปี 70 ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ $55.06
ตลาดหุ้นฮ่องกง
- วานนี้ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 0.7% นำโดย Meituan (3690) บวก 2.1% และ Ping An (2318) บวก 1.2% หลัง Bloomberg รายงานว่าการที่จีนทยอยผ่อนคลายมาตรการในช่วงที่ผ่านมา ทำให้อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 65 กิจกรรมการบินในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 65% ของก่อนโควิด เทียบกับระดับ 22% ในวันที่ 29 พ.ย. 65 ขณะเดียวกัน ฮ่องกงได้ประกาศอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาใช้บริการบาร์หรือร้านอาหารตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จากก่อนหน้านี้ที่มีคำสั่งห้ามใช้บริการ
- Sunny Optical (2382) เผยยอดส่งมอบเลนส์สำหรับยานยนต์เพิ่มขึ้น 47.4%YoY สู่ 7.4 ล้านชิ้น หลังความต้องการรถ EV สูงขึ้นและฐานต่ำในปีก่อน ขณะที่ชุดเลนส์มือถือในเดือน พ.ย. ลดลง 26.4%YoY สู่ 91 ล้านเครื่อง เนื่องจากความต้องการสมาร์ทโฟนลดลง โดยเรามองว่ายอดส่งมอบเลนส์มือถือยังมีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ หลังโรงงาน Foxconn ในจีนมีการปิดชั่วคราว จึงอาจทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบ iPhone ด้าน Bloomberg Cons. ให้ TP ที่ HKD112.55
ตลาดหุ้นเวียดนาม
- วานนี้ดัชนี VN ปิดบวก 1.5% เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฮ่องกง นำโดย DGW บวก 5.3% และ TCB บวก 5.9% หลังกระทรวงการคลังยื่นคำร้องไปยังสมาคมตลาดตราสารหนี้เวียดนาม (VBMA) เพื่อขอปรับเกณฑ์กฎหมายการออกหุ้นกู้ Decree 65 โดยขอให้เลื่อนข้อกำหนดที่บังคับให้นักลงทุนต้องอยู่ในกลุ่ม Professional Investor ถึงจะสามารถซื้อหุ้นกู้ได้ออกไป 1 ปี และอนุญาตให้มีการขยายระยะเวลาหุ้นกู้พร้อมกับเพิ่มทางเลือกในการชำระคืนด้วยสินทรัพย์อื่นแทนเงินสด เราคาดว่ากระทรวงการคลังจะได้รับการสนับสนุนจาก VBMA ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องในภาคอสังหาฯ ในปัจจุบัน
- โบรกเวียดนามคาดว่าในปี 66 STB จะมีกำไรจากการดำเนินงานโตเด่น 77.7%YoY สู่ VND7,896bn หนุนจากการที่บริษัทบันทึกดอกเบี้ยค้างจ่ายทั้งหมดออกไปใน 2Q65 ทำให้ดอกเบี้ยค้างจ่ายลดลงสู่ระดับปกติ ส่งผลให้คาดว่าส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) จะขยายตัว 41bps YoY นอกจากนี้ STB ยังไม่มีส่วนร่วมในการซื้อขายหุ้นกู้และมีปริมาณสินเชื่อในภาคอสังหาฯ ที่ระดับต่ำ (2.1% ของสินเชื่อรวม) จึงทำให้มีความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องที่มาจากภาคอสังหาฯ จำกัด โดยโบรกเวียดนามให้ TP ที่ VND29,800
Highlight
Apple (AAPL) เผยว่าบริษัทได้ลงทุนมากกว่า $100bn ในเครือข่ายซัพพลายเออร์ที่ญี่ปุ่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นราว 30% นับจากปี 62 โดย Tim Cook ผู้เป็น CEO ได้เข้าเยี่ยมโรงงานของบริษัท TSMC (TSM) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกที่กำลังก่อสร้างอยู่ด้วย อีกทั้งยังเผยว่ามีบริษัทญี่ปุ่น 29 แห่งที่เป็นพันธมิตรได้ร่วมกันเปลี่ยนมาใช้พลังงานทดแทน เพื่อให้สอดคล้องกับโมเดลธุรกิจของ Apple ให้สามารถเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
