Daily Focus: Domestic and Selective Play

2023 SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่ง Sideways Up ได้ตามคาด ปิดบวก 7.45 จุด ณ สิ้นวัน ตามบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้นหลังเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯเดือน พ.ย. ต่ำกว่าคาด แต่กรอบการบวกยังไม่กว้างนัก เนื่องจากยังรอผลการประชุม FED เมื่อคืนที่ผ่านมา สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นฝั่งละราว 2-2.2 พันลบ. (และพลิกมา Long Index Futures เกือบ 2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,625-1,640 จุด รับผลการประชุม FED ที่โดยรวมไม่ได้แย่ แต่นโยบายการเงินและเงินเฟ้อค่อนไปในทางตึงตัวขึ้นและนานกว่าที่ประเมินเล็กน้อย ส่งผลให้ Bond Yield 2 ปีของสหรัฐฯ ขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ Dollar Index ยังคงอ่อนลงต่อเนื่อง กลุ่มพลังงานต้นและกลางน้ำคาดว่ายังมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ยังฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน วันนี้ติดตามการประชุมทั้ง ECB และ BoE โดยคาดว่ายังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 0.5% โฟกัสระยะถัดไปของตลาดจะอยู่ที่การชะลอตัวของตัวเลขเศรษฐกิจใน 1-2 ไตรมาสข้างหน้าว่าจะรุนแรงมากน้อยเพียงใด เรายังมองเอเชียยังดูแข็งแกร่งกว่ายุโรปและสหรัฐฯอย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะจีนที่ทยอยผ่อนคลายมาตรการคุม COVID-19 อย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อเนื่อง ขณะที่ไทยยังคงมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว รวมถึงการหาเสียงเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า ซึ่งจะชดเชยภาคการส่งออกที่มีความเสี่ยงชะลอจากเศรษฐกิจโลก กลยุทธ์จึงยังเน้นลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic และ Consumption Play เป็นหลัก

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic Play ตามเศรษฐกิจที่ทยอยเร่งตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, BDMS, CRC, M, MAJOR

หุ้นเด่นวันนี้ : NOBLE

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 5.60 บาท
  • แนวโน้มธุรกิจคอนโดปี 2023 คาดว่ายังสดใสจากทั้ง Pent Up Demand ท่ามกลาง Supply อยู่ระดับต่ำ  รวมถึงคาดหวังแรงกระตุ้นหลักจากการกลับมาของลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน หากผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ
  • กำไร 4Q22 เบื้องต้นคาดเร่งตัวแรงเป็น 500-600 ลบ. จาก 3Q22 ที่ 137 ลบ. หนุนกำไรทั้งปี 2022 คาด -21% Y-Y ก่อนกลับมาโตสูง +85% Y-Y ในปี 2023 เป็นหุ้นกลุ่มอสังหาฯ ที่น่าสนใจในแง่การ Turnaround ของผลการดำเนินงาน Valuation ที่ถูกรวมถึงปันผลที่สูง 6- 9% ต่อปี
  • แนวรับ 5-4.96//4.80 บาท แนวต้าน 5.20//5.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$896 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$596 ล้าน และ US$320 ล้าน ตามลำดับ ส่วนฝั่งอาเซียนยังคงไหลออกจากอินโดนีเซีย แต่ไหลเข้าไทยปริมาณใกล้เคียงกันที่ราว US$63-71 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้าแต่บางลงจากวันก่อนหน้า หลังผลการประชุม FED โดยรวมออกมาใกล้เคียงคาดแต่ยังค่อนไปในทางตึงตัว

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ตามคาด ขึ้นจาก 3.75-4% เป็น 4.25-4.50% ส่วน Highlight สำคัญ คือ Dot Plot ที่กรรมการ FED ส่วนใหญ่มองดอกเบี้ยปีหน้าที่ 5-5.25% โดยยังไม่มีแนวโน้มปรับลง และสะท้อนคาดการณ์ปรับขึ้น Core PCE ปี 2023 จาก 3.1% เป็น 3.5% ชะลอตัวช้ากว่าประมาณการครั้งก่อน ขณะที่ GDP ปี 2023 ปรับลงจาก 1.2% เหลือ 0.5% โดยรวมไม่ได้ผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์นัก แต่ค่อนไปในฝั่งที่ตึงตัวขึ้นทั้งดอกเบี้ย และเงินเฟ้อที่อาจสูงยาวนานกว่าที่เคยประเมินเล็กน้อยจากครั้งก่อน

(+) CPANEL ผู้บริหารมั่นใจต่อการเติบโตที่สดใสจากอุตสาหกรรมอสังหาฯ ที่ขยายตัวและรับอานิสงส์อิฐมวลเบาขาดตลาด ส่วนสถานการณ์แรงงานแม้ดีขึ้นแต่ยังอยู่ระดับต่ำกว่าก่อน COVID เป็นปัจจัยหนุนความต้องการ Precast เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เราคงประมาณการกำไรปี 2022 +101% Y-Y แต่ปรับเพิ่มปี 2023-2024 เป็น +31% Y-Y และ +28% Y-Y ตามลำดับ สะท้อน Margin ที่เพิ่มหลังปรับปรุงเครื่องจักร Economy of scales และต้นทุนวัตถุดิบชะลอการปรับขึ้น ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 11 บาท แต่ยังมี Upside จำกัด แนะนำ “ถือ”

(-) VGI เรามีความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของ VGI จากการลงทุนทั้ง Ribbit Cash, NINE และ KEX ที่ยังไม่สามารถสร้างกำไร และคาดยังกดดันผลการดำเนินงานใน 1H23 เป็นอย่างน้อยสำหรับ VGI ขณะที่ธุรกิจสื่อนอกบ้านแม้จะฟื้นตัวตามการ Reopening แต่ไม่สามารถชดเชยผลลบได้หมด เราปรับลดประมาณการปี 2022-2023 ลง โดยคาดว่าจะมีผลขาดทุนปกติ 321 ลบ.และ 252 ลบ. ตามลำดับ ก่อนคาดพลิกมีกำไรในปี 2024 เราปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2024 ที่ 4.30 บาท แนะนำเพียง “ถือ” (Source: FSSIA)

(+) DTCENT เข้าเทรดวันนี้ เป็นผู้นำในตลาด GPS Tracking บริษัทเป็นผู้ออกแบบ ผลิต จัดจําหน่าย และให้เช่าอุปกรณ์ GPS Tracking, Mobile DVR และอุปกรณ์เสริม และให้บริการโครงการ IoT Solutions รวมถึงระบบ AI บริษัทมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองจากทีมงานที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กว่า 25 ปี มีบริการครบวงจร ลูกค้ากระจายอยู่ในหลากอุตสาหกรรม โดยมีกลุ่มหลักคือผู้ประกอบการในธุรกิจขนส่ง ในช่วงปี 2020-2021 ธุรกิจขนส่งถูกกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และกระทบมาที่บริษัททำให้รายได้และกำไรลดลง เราคาดกำไรปี 2022 กลับมาฟื้นตัวและเติบโตก้าวกระโดด +119% Y-Y ในปี 2023 ตามการเปิดเมืองอย่างเต็มที่ ประเมินราคาเป้าหมาย 3.20 บาท (Finansia เป็นผู้จัดจำหน่ายฯ)

(0) คาดหุ้นเข้าออก SET50/SET100 สำหรับ SET50 คาดหุ้นเข้า CENTEL COM7 DELTA RATCH หุ้นออก BLA IRPC KCE SAWAD ส่วน SET100 คาดหุ้นเข้า AAV BA BYD DELTA NEX TVO หุ้นออก BEC MAJOR STEC SUPER SYNEX TTA

 

(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดลดลง 142.29 จุด หรือ -0.42% ปิดที่ 33,966.35จุด หลัง FED มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาด สู่ระดับ 4.25-4.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ทั้งนี้ FED ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานขึ้น เพื่อดึงเงินเฟ้อให้กลับสู่เป้าหมาย

(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเล็กน้อย จากนักลงทุนชะลอการซื้อขายเพื่อรอผลการประชุม FED

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลง หลัง FED ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% และส่งสัญญาณว่าจะใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป เพื่อให้เงินเฟ้อกลับสู่กรอบเป้าหมาย

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 77.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) คาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกจะฟื้นตัวในปีหน้า ในขณะที่เช้านี้ย่อลงเล็กน้อยที่ระดับ 77.27 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.01%

(-) ราคาทองคำ COMEX ปิดลดลง 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,818.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งตลาดทองค่าปิดก่อนที่ FED จะแถลงผลการประชุมนโยบายการเงิน ในขณะที่เช้านี้ย่อลงต่อที่ระดับ 1,817.6 ดอลลาร์/ออนซ์ -0.06% จากการส่งสัญญาณของ FED ว่าจะใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 911.56 / -1.16

- Advertisement -