DTCENT เข้าเทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง นลท.เชื่อมั่นธุรกิจ GPS Tracking เบอร์ 1 ของไทย ลุยแพลตฟอร์มรองรับ Smart City ดันธุรกิจเข้าสู่ New S-curve
บมจ.ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ (DTCENT) ผู้ให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ของไทยรายแรกเข้าระดมทุนใน SET ไม่ทำให้นักลงทุนผิดหวัง เปิดเทรดวันแรกยืนเหนือจองจากราคาไอพีโอ 2.86 บาท/หุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทในฐานะผู้นำธุรกิจ GPS Tracking และพัฒนา IoT Solution และ AI ครบวงจร ฟากซีอีโอ “ทศพล คุณะเพิ่มศิริ” มั่นใจหลังระดมทุนหนุนฐานทุนเพิ่มศักยภาพการเข้าประมูลงานภาครัฐ-เอกชน พร้อมลุยพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่รองรับการบริหารแบบ Smart City ดันธุรกิจเข้าสู่ New S-curve เร่งเครื่องบุกตลาดต่างประเทศ หนุนผลงานเติบโตโดดเด่น สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว
บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) DTCENT เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เป็นวันแรก ราคาหุ้นสามารถเปิดตลาดยืนเหนือราคาจองซื้อที่ราคา 2.90 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาจองที่ 2.86 บาท/หุ้น
นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) เปิดเผยว่า การที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ และมองเห็นศักยภาพการเติบโตในอนาคตได้อีกมาก ซึ่งภายหลังจากเข้าระดมทุนในครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการลงทุนสร้างศูนย์บริหารจัดการและบริการข้อมูลยานพาหนะ (Vehicle Monitoring and Support Center) ประมาณ 70 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4 ปี 2566 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ ประมาณ 772.81 ล้านบาท
“ผมขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้การต้อนรับหุ้น DTCENT อย่างอบอุ่น โดยทีมผู้บริหารและพนักงานให้คำมั่นว่า จะทำงานด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และมั่นคง ตลอดจนสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น ภายหลังที่เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนแล้ว ทำให้ชื่อเสียงของบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าในการพัฒนาธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการอุปกรณ์ติดตามรถ GPS Tracking, Mobile DVR และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ในรุ่นใหม่ๆ รวมถึงการออกแบบและพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่เป็นของตนเอง และพัฒนา IoT Solution และระบบ AI เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มบริษัทฯ ได้คิดค้นแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการชุมชนเมือง (Smart City Solutions) ให้กับหน่วยงานภาครัฐและเทศบาลในการบริหารจัดการส่วนท้องถิ่น โดยธุรกิจดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนการสร้างรายได้เพิ่ม ผลักดันการเติบโตก้าวเข้าสู่ New S-curve ได้ในอนาคต” นายทศพลกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจะเข้าลงทุนในธุรกิจที่คล้ายคลึงและมีความเกี่ยวเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจ รวมทั้ง เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ในรูปแบบการร่วมทุนกับพันธมิตรจากต่างประเทศอีกด้วย
นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (DTCENT) กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับทางบริษัทฯ ที่เปิดซื้อขายหุ้น DTCENT ได้อย่างน่าประทับใจ จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ การเป็นผู้ให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย มีทีมงานในการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ได้เอง และด้วยทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ต่ออุตสาหกรรมมากว่า 25 ปี และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และมั่นใจว่า จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว
“หุ้น DTCENT ถือเป็นหุ้นที่มีความแข็งแกร่งด้านฐานะทางการเงิน โดยเฉพาะหากพิจารณาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำกว่า 1 เท่ามาโดยตลอด และอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุน (Net IBD/E) ติดลบ 0.4-0.5 เท่า ซึ่งทำให้เป็นบริษัทฯ ที่มีสถานะ Net cash position และด้วยฐานะการเงินไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน และเงินที่ได้จากการไอพีโอในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทสามารถรับงานโครงการขนาดใหญ่ได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน และเสริมสร้างความน่าเชื่อถือภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร ซึ่งมีส่วนในการได้รับงานโครงการในระยะข้างหน้าอีกด้วย”
นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายกล่าวว่า การเปิดซื้อขายหุ้น DTCENT เป็นวันแรก ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากหลายปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนทั้ง การกำหนดราคาขายที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐาน และความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ เป็นหุ้นไอพีโอที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ถือหุ้นได้ และนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของบริษัท ที่จะสามารถนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปต่อยอดธุรกิจ เพื่อผลักดันการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างแน่นอน