บล.บัวหลวง:
Bank – ธนาคารดิจิทัลกำลังจะมีบทบาทในประเทศไทย (OVERWEIGHT)
ธปท.กําลังพิจารณาในการออกใบอนุญาตดำเนินธุรกิจธนาคารดิจิทัล โดยจะมีประชาพิจารณ์ในครึ่งแรกของปี 2566 ทั้งนี้บนสมมุติฐานที่ธนาคารดิจิทัลเริ่มดำเนินการในช่วงปลายปีหน้า เราคาดจะมีผลกระทบเล็กน้อยต่อประมาณการกำไรกลุ่มธนาคารที่เราให้คําแนะนําปี 2567
ธนาคารดิจิทัลคืออะไร?
อิงจากข้อมูลของสํานักงานสถิติแห่งชาติในไตรมาส 1/2565 ราว 90% ของประชากรไทยสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้และ 97% ใช้สมาร์ทโฟน ดังนั้น ประชากรไทยส่วนมากสามารถเป็นลูกค้าของธนาคารได้ ธปท.กำลังพิจารณาในการออกใบอนุญาตดำเนินธุรกิจธนาคารดิจิทัล โดยจะมีประชาพิจารณ์ในครึ่งแรกของปี 2566 ในอีกด้านธนาคารดิจิทัลเพียงอย่างเดียวจะให้บริการคล้ายกับธนาคารที่มีสาขา โดยความต่างเพียง 1) ไม่มีจุดให้บริการ (สาขา) 2) บริการทุกอย่างผ่านระบบออนไลน์หมด (รวมถึงการทำ KYC) 3) ค่าใช้จ่ายในการดำาเนินงานที่ต่ำ และ 4) ให้อัตราดอกเบี้ยสาหรับการให้สินเชื่อที่ต่ำและดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าธนาคารพาณิช
ทําไมธปท.ต้องพิจารณาออกใบอนุญาตดำเนินธุรกิจธนาคารดิจิทัล?
เหตุผลคือเพื่อ 1) เพิ่มการเข้าถึงและลดต้นทุนทางการเงินของกลุ่ม SME และครัวเรือน รวมถึงกลุ่มที่ไม่ใช่ธนาคาร (กลุ่มที่ไม่สามารถกู้ยืมเงินจากธนาคารได้ ดังนั้นในปัจจุบันจึงต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราสูงแม้ว่าจะมีหลักประกันก็ตาม) 2) ส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินและการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันของระบบการเงิน
อะไรคือปัจจัยหลักที่จะทําให้สําเร็จ?
หลายประเทศในเอเชียและอื่นๆ ได้ออกใบอนุญาตธนาคารดิจิทัลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายบริษัทยังไม่สามารถรายงานกําไรได้ แม้ว่าฐานลูกค้าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากต้นทุนในการดึงลูกค้าที่สูง (อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงและค่าใช้จ่ายด้านการตลาดที่สูง) และการให้บริการที่จํากัดในช่วงแรก โดยปัจจัยหลักที่จะทำให้สําเร็จได้แก่ 1) แพล็ตฟอร์มที่ดีและใช้ง่าย 2) การดึงลูกค้า และ 3) ฐานการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
ใครจะสามารถได้ใบอนุญาติธนาคารดิจิทัลบ้าง?
ผู้ที่จะสามารถได้ใบอนุญาตอย่างชัดเจน คือ กลุ่มการเงิน (รวมถึงผู้ที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร) ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใบอนุญาตจะช่วยให้บริษัทสามารถรับเงินฝากได้ หากบริษัทเหล่านั้นสามารถระดมเงินฝากได้ ต้นทุนทาง การเงินจะลดลงอย่างรวดเร็ว กลุ่มการเงินที่ให้บริการแก่ตลาดธนาคารเช่น KTC มีความสามารถทางออนไลน์อยู่แล้ว แต่ผู้ปล่อยกู้ให้กับบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารในตลาดที่ไม่ใช่ธนาคารนั้นยังไม่พร้อม ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ค้าปลีกออนไลน์ก็เป็นตัวเลือกที่ชัดเจนเช่นกัน บริษัทในทั้งสองอุตสาหกรรมมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ มีข้อมูลธุรกรรมมากมาย และใช้ระบบชาระเงินออนไลน์อยู่แล้ว ธนาคารออนไลน์จะเป็นความก้าวหน้าที่ชัดเจน ทั้งนี้มีแนวโน้มที่จะเห็น การร่วมทุนระหว่างบริษัทการเงินออฟไลน์และบริษัทอื่นๆ ที่มีความสามารถ ด้านอีคอมเมิร์ช/ไอที ขณะที่บริษัทประกัน (รวมถึงนายหน้า) ก็อาจจะสามารถได้ใบอนุญาตหรือร่วมทุนเช่นกัน เนื่องจากมีหน้าร้านหรือสาขา