Our View? “อ่อนนอก แข็งใน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,615 / 1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,625 / 1,630 คาดตลาดยังคงได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากความกังวลสหรัฐมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านออกมาส่งสัญญาณไปในทางเดียวกันว่า FED อาจปรับอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ และคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี’67 สอดคล้องกับ Dot Plot ของ FED ในปีหน้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นค่ากลางของ 5.00-5.25% สะท้อน FED มีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ซึ่งอาจจะเดินหน้าขึ้นอีก 2 ครั้งในปีหน้า มองเป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้อยู่ อีกทั้งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา S&P global รายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือน ธ.ค. ออกมาที่ระดับ 46.2 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ 47.8 และต่ำลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน บ่งชี้แนวโน้มภาคการผลิต และบริการของสหรัฐหดตัวลงต่อเนื่อง เป็นปัจจัยกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม

ทางด้านสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ม.ค. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมายังคงอ่อนตัวลงต่อเนื่องปิดที่ระดับ 34.29 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.82 ดอลลาร์ (-2.39%) ได้รับแรงกดดันจากการรายงานตัวเลข PMI สหรัฐหดตัวลงต่อเนื่องเช่นกัน รวมทั้งการที่ธนาคารกลางต่างๆ ของโลกเดือนหน้ามีแนวโน้มปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า คาดจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงกดดันอุปสงค์น้ำมันอ่อนแอลง และกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดได้เพิ่มเติม

สําหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้เราแนะนำติดตาม ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง รวมทั้งยังต้องติดตามการประกาศรายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณใน SET50 และ SETIOO โดยตลาดคาดว่าตัวที่อาจจะสามารถเข้าคานวณได้แก่ BJC, COM7, RATCH และ DELTA ซึ่งอาจเห็นแรงเก็งกำไรระยะสั้นก่อนการเข้าคำนวณได้บ้าง แต่ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังการประกาศรายชื่อ ขณะที่เรามีมุมมองเชิงบวกต่อทิศทางกระแสเงินทุนเริ่มไหลเข้าหาตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาซื้อสุทธิหุ้นไทยไปกว่า 2.3 พันล้านบาท และอยู่ในฝั่ง Long SET50 Index Futures กว่า 1.6 หมื่นสัญญา โดยเรายังคงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง สวนทางทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง จากแรงหนุนจากภาคการท่องเที่ยวและบริโภคของภาคเอกชน และถือเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อีกทั้งแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วง เดือน มี.ค.- พ.ค. 66 เป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “MAKRO”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 38.00 / 37.00 Target 40.00 / 43.50 Stop <36.00

- Advertisement -