Daily Focus: Domestic and Defensive Play

2023SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรงกว่าคาดปิดลบ 13.76 จุด และหลุดต่ำกว่าแนวรับ 1,610 จุด หลัง Bol สร้าง Surprise ตลาดด้วยการปรับกรอบเป้าหมาย Bond Yield 10 ปี จาก +-0.25% เป็น +-0.50% ส่งผลให้สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิในตลาดหุ้น 535 ลบ.และ 1.7 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Short Index Futures อีกถึง 2.8 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีโอกาสรีบาวด์ได้ระยะสั้น หลังจากพักฐานแรงวานนี้ เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยตอบรับเชิงลบมากเกินไปต่อผลการประชุม BoJ โดย Futures ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ บ่ายวานนี้ปรับลงช่วงเวลาหนึ่งก่อนฟื้นตัวขึ้น และ Spot เมื่อคืนสามารถปิดบวกได้เล็กน้อย โฟกัสหลักของตลาดยังคงอยู่ที่ทิศทางเงินเฟ้อและดอกเบี้ยว่าใกล้ถึงจุด Peak แล้วหรือไม่ รวมถึงโอกาสและความเสี่ยงเศรษฐกิจชะลอหรือเกิด Recession ปีหน้า ส่วนในประเทศเรามองยังค่อนข้างแข็งแรงขัลเคลื่อนจากการบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ขณะที่จีนที่ผ่อนคลายนโยบาย Zero-COVID แม้อาจเห็นโอกาสการติดเชื้อที่เร่งขึ้น แต่เรามองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจระยะยาว  รวมถึงไทยที่จะได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศในระยะถัดไป นอกจากนี้ยังมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายต้นปีหน้า และการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งคาดช่วยชดเชยและลดผลกระทบจากภาคการส่งออกที่มีความเสี่ยงชะลอจากเศรษฐกิจโลก กลยุทธ์จึงยังเน้นลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic และ Consumption Play เป็นหลัก

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic Play ตามเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, BDMS, CRC, M, MAJOR

หุ้นเด่นวันนี้ : M

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 66 บาท
  • โมเมนตัมกำไร 4Q22 คาดเร่งตัวขึ้น Q-Q และ Y-Y ตาม Festive Season หนุน Traffic ให้ปรับขึ้น ขณะที่ฝั่ง Margin คาดว่าดี และการขึ้นราคาในปีนี้ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ที่ปรับลงจะลดแรงกดดันด้านต้นทุน
  • เราคาดกำไรปี 2022 เติบโต 11 เท่าตัว Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน และคาดเร่งตัวแรงอีก +47% Y-Y กลับมาเข้าใกล้ช่วงก่อน COVID-19 ได้ตามการ Reopening เต็มปี นอกจากนี้ หากจีนทยอยเปิดประเทศในปีหน้าจะเป็น Catalyst บวกต่อผลการดำเนินงานของแหลมเจริญระยะถัดไป
  • แนวรับ 56-55.25 บาท แนวต้าน 58-52.25//59.50-60 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องอีก US$520 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$410 ล้านและ US$128 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินผสมผสาน ไหลออกจากไทยแต่ไหลเข้าเวียดนามต่อเนื่อง แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลออก โดยยังคงติดตาม BoJ หลังล่าสุดส่งสัญญาณนโยบายการเงินตึงตัวขึ้นผ่านการปรับกรอบเป้าหมาย Bond Yield

 

ประเด็นสําคัญวันนี้

(+) ครม.เคาะช้อปดีมีคืน วงเงินเป็น 4 หมื่นบาท (ร้านค่าทั่วไป 3 หมื่นบาท และซื้อผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์อีก 1 หมื่นบาท) เริ่ม 1 ม.ค. 23- 15 ก.พ. 23 ก.คลังคาดจะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน 5.6 หมื่นลบ.หรือ 0.1-0.2% ของ GDP ส่วนมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 จำนวน 1.5 ล้านสิทธิยังไม่ได้เคาะ เราประเมินว่าจะพิจารณาอีกครั้งในต้นปีหน้าและเริ่มใช้ในช่วง Low Season 2Q22-3Q22 เรามองบวกต่อกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคหุ้นที่คาดได้ อานิสงส์จากช้อปดีมีคืน ได้แก่ CRC HMPRO GLOBAL COM7 MAKRO

(+) SIRI แผนธุรกิจในปี 2022-2024 อยู่ในเชิงรุกผ่านการเปิดตัวใหม่ที่สูงถึง 5-6 หมื่นลบ. ต่อปี พร้อมกับกลยุทธ์ที่ดีอยู่ใน DNA ของ SIRI บนแบรนด์และฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการกลับมาของลูกค้าต่างชาติ จะขับเคลื่อนการเติบโตของยอด Presales ยอดโอน และผลประกอบการ เราประเมินกำไรปกติปี 2022 +88% Y-Y ทำ New High และขยายตัวต่อ +11% Y-Y ในปี 2023 ระยะสั้นมีปัจจัยหนุนจากงบ 4Q22 คาดเป็นไตรมาสดีสุดในรอบ 5 ปี ปัจจุบันหุ้นเทรดบน 2023PER ที่ 7.2 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และกลุ่มอสังหาฯ พร้อมคาดให้ปันผลราว 7% ต่อปี ประเมินราคาเป้าหมายที่ 2.10 บาท เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”

(+) WARRIX เข้าเทรดวันนี้ เป็นผู้ออกแบบและจัดจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา รวมถึงศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา โดยที่ผ่านมาประสบความสำเร็จในการสร้าง Brand Awareness ผ่านการเป็นผู้สนับสนุนทีมกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลทั้งสโมสรและทีมชาติไทย ผลการดำเนินงานในปี 2019-2021 มีรายได้ลดลงเพียง -3% CAGR ขณะที่กำไรปกติเพิ่มขึ้น +3% CAGR ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 แต่เราคาดกำไรปกติ 3 ปีข้างหน้าจะกลับมาเติบโตเร่งตัวเฉลี่ย +56% CAGR จากเทรนด์การรักษาสุขภาพและขยายสินค้าสู่กลุ่ม Lifestyle พร้อมทั้งการเติบโตในต่างประเทศ รวมถึงโอกาสเติบโตในกลุ่มสุขภาพ เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2023 ที่ 8.60 บาท (Finansia เป็นผู้จัดจำหน่ายฯ)

(0) ตลท.ประกาศหุ้นเข้าออก SET50/SET100 งวด 1H23 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า CENTEL COM7 DELTA RATCH หุ้นออก BLA IRPC KCE SAWAD ส่วน SET100 หุ้นเข้า AAV BYD DELTA JAS NEX SABUY THG หุ้นออก AEONTS MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA

 

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 92.20 จุด หรือ +0.28% ปิดที่ 32,849.74จุด โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากที่ลงติดกัน 4 วัน

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ ถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย เช่น หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มอุตสาหกรรม หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขยายกรอบ Yield curve control จาก +/- 0.25% เป็น +/- 0.50%

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย แกว่งตัวผสม หลังตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวจากการลงติดกัน 4 วัน ขณะที่ตลาดพันธบัตรปรับขึ้นหลัง BOJ ขยายกรอบ Yield curve control

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 34.64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 76.09 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และข่าวสหรัฐวางแผนซื้อน้ำมัน เพื่อนำเข้าสู่คลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 76.47 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.31%

(+) ราคาทองคำ COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 27.7 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 1,825.4 ดอลลาร์/ออนซ์ หนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,829.3 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.21%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 913.88 / +1.74

- Advertisement -