Our View? “ย่อเพื่อขึ้น”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,600 / 1,590 และแนวต้านที่บริเวณ 1,610 / 1,615 เรายังมองตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้ดี ขณะที่เมื่อวานนี้เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขยายกรอบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นให้สามารถเคลื่อนไหวในช่วง -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมที่อยู่ในกรอบแค่เพียง -0.25% ถึง +0.25% ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับใช้นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น หลังจาก BOJ ใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง จากการที่อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเริ่มสูงกว่ากรอบเป้าหมาย แม้จะเป็นจิตวิทยาเชิงลบระยะสั้นต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง จากการสะท้อนว่าธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกคุมเข้มนโยบายทางการเงิน แต่เรามองเป็นปัจจัยบวกระยะกลางต่อทิศทางตลาดในภูมิภาคในแง่ของอัตราแลกเปลี่ยน เรามองว่าการคุมเข้มนโยบายทางการเงินของญี่ปุ่นคาดจะส่งผลให้สกุลเงินเยนที่มีสัดส่วนใน Dollar Index เป็นอันดับที่ 2 แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องและกดดันทิศทางค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า หนุนความน่าสนใจในการ Asset Allocation เข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงในสกุลเงินอื่นอาทิ ตลาดในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยได้ภาพระยะกลาง

อย่างไรก็ตาม เรายังมองในระยะสั้นตลาดยังคงอยู่กับความกังวลสหรัฐมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปีหน้า จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยเจ้าหน้าที่ FED หลายท่านออกมาส่งสัญญาณไปในทางเดียวกันว่า FED อาจปรับอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ และคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี’67 ขณะที่เราคาดว่าในสัปดาห์นี้ตลาดจะรอดูตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ย. ของสหรัฐ คาดจะออกมาที่ระดับ +5.5% YoY และ +0.1% MoM สะท้อนเงินเฟ้อสหรัฐยังอยู่ในภาพการชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป

สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้เรามีมุมองเชิงบวกอ่อนๆ ต่อการที่ ครม.ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปีใหม่ “ช้อปดีมีคืน” โดยนำค่าใช้จ่ายการซื้อสินค้าและบริการลดหย่อนภาษีในวงเงินไม่เกิน 4 หมื่นบาท เป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) ต่อ และขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตนํ้ามันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นจากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท ไปจนถึง 30 มิ.ย. ’66 มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AAV และ BA)

ขณะที่การประกาศรายชื่อหุ้นที่จะเข้าคำนวณใน SET50 และ SETIO0 โดย CENTEL, COM7, DELTA และ RATCH เข้าคำนวณ SET50 ตามคาด ในส่วนของ SET100 หลักทรัพย์ที่เข้าคำนวณใหม่คือ AAV, BYD, DELTA, JAS, NEX, SABUY และ THG มองเป็นปัจจัยบวกระยะกลาง แต่ให้ระมัดระวังแรงขายทำกำไรในช่วงสั้นบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ยังคงมุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาพของการฟื้นตัวต่อเนื่อง สวนทางทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ถือเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่เศรษฐกิจสามารถขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อีกทั้งแนวโน้มการเลือกตั้งใหญ่ของไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.- พ.ค. 66 โดยล่าสุดที่ประชุมวุฒิสภาได้ผ่านร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นให้เปิดช่วงให้ข้าราชการการเมือง ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่นผู้บริหารท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ มองเป็นปัจจัยบวกต่อการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้าเพิ่มเติมเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “AAV”

กลยุทธ์: ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 2.90 / 2.84 Target 3.08 / 3.30 Stop <2.80

- Advertisement -