มองหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวเด่นกว่าภูมิภาค กรอบ SET INDEX 1597-1610
Market Outlook
สําหรับประเด็นธนาคารกลางญี่ปุ่น (Nikkei) ประกาศเพิ่มการขยับของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีเป็น -0.5% ถึง +0.5% จากเดิมอยู่ในกรอบ -0.25% ถึง +0.25% แม้ดูเป็นปัจจัยสร้างความประหลาดใจเชิงลบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น และส่งผลกระทบเชิงลบมายังตลาดหุ้นไทยวานนี้ อย่างไรก็ตาม ประเมินผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนไทยจํากัดมาก การปรับลงวานนี้ของ SET เราจึงไม่ได้กังวลมากนัก เชื่อว่าเป็นเพียงระยะสั้นมากกว่า ส่วนในประเทศ รัฐบาลประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช็อปดีมีคืน ด้วยวงเงินสูงสุด 4 หมื่นบาท สูงกว่าครั้งก่อนที่ 3 หมื่นบาท โดยระยะเวลาโครงการเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนม.ค.-15 ก.พ. 2023 แต่ยกเว้นสินค้าบางประเภท อาทิ สุรา, เบียร์, ไวน์, ยาสูบ, รถยนต์ และค่าสาธารณูปโภค โดยรวมมองเป็นกลางต่อตลาด เนื่องจากเป็นไปตามที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า ส่วนหุ้นได้ประโยชน์ยังเน้นไปที่กลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, COM7, GLOBAL, DOHOME, HMPRO) กลุ่มร้านอาหาร (CENTEL, M, MINT) ขณะที่เมื่อวานตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศหุ้นเข้าและออก SET50, SET100 หุ้นเข้า SET100 ได้แก่ AAV, BYD, DELTA, JAS, NEX, SABUY, THG เข้า SET50 ได้แก่ CENTEL, COM7, DELTA, RATCH ออก SET100 ได้แก่ AEONTS, MAJOR, STEC, SUPER, SYNEX, TASCO, TTA และออก SET50 ได้แก่ BLA, IRPC, KCE, SAWAD ทั้งนี้หากอิงการเข้า SET100 รอบก่อนหน้า (เดือนก.ค.-ธ.ค. 2022) พบว่าหุ้นที่เข้า SET100 (FORTH, ONEE, PSL, TIPH) ล้วนแต่ให้ผลตอบแทนที่ติดลบเฉลี่ย -22% สวนทางกับ SET ที่ติดลบเพียง 3.3% ส่วนหุ้นที่หลุดการคำนวน SET100, SET50 ได้แก่ COM7, RATCH, STGT, BPP, RS, SIRI, TVO พบว่าผลตอบแทนเฉลี่ย -4% ใกล้เคียงกับ SET ประเมิน SET INDEX วันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1597-1610
เชิงกลยุทธ์การลงทุน ยังเชื่อว่าตลาดหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวเด่นกว่าภูมิภาคในช่วงถัดไปหนุนจากเศรษฐกิจภายใน และการเลือกตั้งภายในประเทศ จึงเน้นหาจังหวะ Trading แต่ไม่ใช้เงินลงทุนที่มากนัก เพราะยังมีความเสี่ยงกับ Recession เน้นหุ้นกลุ่ม Domestic อาทิ กลุ่มค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO, DOHOME, GLOBAL) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB, TISCO) สื่อสาร (ADVANC) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
COM7 ราคาพื้นฐาน 45.00 บาท
เชื่อว่าไตรมาส 4/22 จะโตเล็กน้อย QoQ แต่ลดลง YoY จากการขาดแคลน iPhone 14 จากการล็อกดาวน์โรงงาน Foxconn ในจีน โดยทาง Apple ประกาศว่าลูกค้าต้องรอสินค้านานกว่าคาด ส่วน Reuters รายงานว่าการผลิต iPhone 14 อาจลดลง 30% (เดือนพ.ย. 2022) นอกจากนี้บริษัทยังเป็นผู้ได้ประโยชน์จากโครงการ ช็อปดีมีคืน ในช่วงต้นปี 2023
CPALL ราคาพื้นฐาน 72.00 บาท
บริษัทถือเป็นผู้ได้ประโยชน์หลักๆ จากช็อปดีมีดินเช่นกัน เนื่องจากมีทั้ง 7-11, Lotus และ Makro นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยว โดยเราคาดว่ากําไรไตรมาส 4/22 จะโตขึ้น YoY และ QoQ จากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ (ร้านสะดวกซื้อ ค้าส่งและค้าปลีก ของชำ) หนุนจากปัจจัยบวกข้างต้น