Daily Focus: Domestic and Defensive Play

2023SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวด์ขึ้นได้เล็กน้อย หลังจากพักตัววันก่อนหน้าตอบรับผลการประชุม BoJ ดัชนีปิดบวกได้ 5.50 จุด นำโดย DELTA ที่มีแรงซื้อหนาแน่นหลังถูกเข้าคำนวณ ดัชนี SET50 รอบ 1H23 สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้น 846 ลบ.และ 1.4 พันลบ. ตามลำดับ (แต่ต่างชาติยัง Short Index Futures อีกถึง 2.2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ระยะสั้นทดสอบระดับ 1,615+- จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้นหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ Rebound ได้ค่อนข้างดีเมื่อคืนที่ผ่านมา กลุ่มพลังงานมีโอกาสฟื้นตัวกลับมานำตลาดได้ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นแรง หลังสหรัฐฯรายงานตัวเลขสต๊อกนํามันดิบปรับตัวลดลงมากกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตาม กรอบการบวกคาดยังไม่กว้างนักเนื่องจากยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนหนุนในระยะสั้น

โฟกัสหลักของตลาดยังคงอยู่ที่เงินเฟ้อและดอกเบี้ยว่าจะใกล้ถึงจุด Peak ใน 1Q23 ตามที่ประเมินหรือไม่ รวมถึงความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอหรือเกิด Recession ปีหน้า ส่วนในประเทศเหลือตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ที่จะประกาศเร็วๆ นี้ ตลาดคาดจะหดตัว 5.2% Y-Y ประกอบกับค่าเงินบาทที่ค่อนไปในทางแข็งค่าท่าให้หุ้นในกลุ่มส่งออกคาดฟื้นตัวได้จำกัด

ปัจจัยหนุนหลักยังคงอยู่ที่การบริโภคในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว ขณะที่จีนที่ผ่อนคลายนโยบาย Zero-COVID แม้อาจเห็นโอกาสผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเร่งขึ้นในระยะสั้น แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะเป็นบวกต่อเศรษฐกิจระยะยาว รวมถึงไทยที่จะได้อานิสงส์จากการเปิดประเทศในระยะถัดไป กลยุทธ์จึงยังเน้นลงทุนโดยเฉพาะกลุ่ม Domestic/Consumption และ Reopening Play เป็นหลัก

กลยุทธ์ : เน้นลงทุนในกลุ่ม Domestic Play ตามเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่อง หลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. : BBL, BDMS, CRC, M, MAJOR

หุ้นเด่นวันนี้ : CPN

  • แนะนํา “ซื้ออ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 77.13 บาท
  • แนวโน้มก่าไร 4Q22 คาดเร่งตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นจุดสูงสุดของปี ตามการ Reopening หนุน Traffic เข้าห้างกลับมาปกติ ทำให้ส่วนลดค่าเช่าทยอยลดลงต่อเนื่อง และคาดปี 2023 มีแนวโน้มที่ค่าเช่าจะกลับไปเท่าปี 2019
  • Consensus คาดกำไรปี 2022-2023 +55% Y-Y และ +16% Y-Y ตามลำดับ จากการเปิดเมืองและเปิดประเทศที่ปกติเต็มปีการเติบโตระยะยาว รองรับด้วยแผนการเปิดห้างใหม่อีก 2-3 แห่งต่อปี รวมถึงโครงการคอนโด และ Mix-Used รวมถึงโรงแรม ด้วยเม็ดเงินลงทุน 5 ปี 1.2 แสนลบ.
  • แนวรับ 67.50-67 บาท แนวต้าน 70.50//72-72.50 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่อง แต่บางลงเหลือ US$119 ล้าน เม็ดเงินยังไหลออกจากเอเชียตะวันออกอย่างไต้หวันและเกาหลีใต้ ส่วนอาเซียนไหลออกสูงสุดที่อินโดนีเซีย แด่ไหลเข้าเวียดนามและไทย แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดมีโอกาสพลิกมาไหลเข้าบางๆ จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้น แต่ปริมาณคาดไม่หนาแน่นนัก เนื่องจากยังขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มท่องเที่ยว ททท.คาดจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2022 ที่ 11.5 ล้านคน ทะลุเป้าเดิมที่ 10 ล้านคน และคาดอย่างน้อย 20 ล้านคนในปี 2023 หรือ 50% เทียบกับก่อน COVID-19 โดยยังไม่รวม Upside จากนักท่องเที่ยวจีน เราคาดจำนวนนักท่องเที่ยวปี 2023 ที่ 34 ล้านคน (85% ของช่วงก่อน COVID-19) Aggressive กว่าตลาด แต่เรายังไม่เห็น Downside ของผลการดำเนินงานกลุ่มโรงแรม เนื่องจากททท.คาดหวังนักท่องเที่ยวคุณภาพและใช้จ่ายสูงกลับเข้ามา และคาดหวังรายได้จากการท่องเที่ยวกลับมาสูงถึง 80% เทียบกับก่อน COVID-19 ซึ่งคาดว่า จะเป็นบวกต่อ ADR ของกลุ่มโรงแรมให้สูงกว่าก่อน COVID-19 ได้ 10% เราประเมินกำไร 4Q22 ของกลุ่มโรงแรม +44% Q-Q คิดเป็น 75% ของ 4Q19 นำโดยคนที่มีสัดส่วนโรงแรมในไทยสูงอย่าง CENTEL ERW AWC ซึ่งคาดมี Rev Par โตเด่น ส่วน MINT SHR คาดกำไรทรงตัว Q-Q เราคงน้ำหนักการลงทุน Overweight เลือก Top Pick เป็น CENTEL SHR AWC (Source: FSSIA)

(0) หุ้นเข้าออก SET50/SET100 งวด 1H23 สำหรับ SET50 หุ้นเข้า CENTEL COM7 DELTA RATCH หุ้นออก BLA IRPC KCE SAWAD ส่วน SET100 หุ้นเข้า AAV BYD DELTA JAS NEX SABUY THG หุ้นออก AEONTS MAJOR STEC SUPER SYNEX TASCO TTA

 

(+) ตลาดดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 526.74 จุด หรือ +1.60% ปิดที่ 33,376.48 จุด จากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทไนกี้ และเฟดเอ็กซ์ ขณะที่ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเยอรมนีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมาตรการช่วยเหลือราคาพลังงานของภาครัฐ

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก จากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น

(0) ค่าเงินบาท แกว่งตัวแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.64 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 78.29 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งความหวังที่ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 78.70 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.52%

(0) ราคาทองคำ COMEX ปิดที่ 1,825.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า โดยนักลงทุนรอตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 1,826.3 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.05%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 913.88 / –

- Advertisement -