บล.ฟิลลิป:

ไวส์ โลจิสติกส์ – WICE ราคาหุ้นรับกำไรที่จะลดลงมากเกินไป

Key Point

 

ภาพใน 4Q65 มองจะอ่อนตัวลง y-y ตามรายได้ขนส่งทางทะเลที่ต่ำ ระวางเรือที่ลดลง ส่วนในปี 2566 เศรษฐกิจโลกที่ชะลอการเติบโตลง โดยเฉพาะประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย แนวโน้มการนำเข้าส่งออกมีการเติบโตชะลอลง อย่างไรก็ตาม มองราคาหุ้นตอบรับผลประกอบการที่มีแนวโน้มลดลงมากเกินไป เมื่อเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 11.60 บาท ซึ่งให้ P/E 14 เท่า มีลดลงจากอดีต 3 ปีที่ 24.3 เท่า อยู่ -2SD

แนวโน้ม 4Q65 คาดกำไรอ่อนตัวลง y-y ตามรายได้ขนส่งทางทะเล จากภาพ 3Q65 ที่รายได้และกำไรออกมาอ่อนตัวลง y-y ทำให้เห็นแนวโน้ม 4Q65 น่าจะไปในทิศทางเดียวกัน คาดกำไรจะอ่อนตัวลง y-y หลักๆ มาจากรายได้ขนส่งทางทะเลปรับตัวลดลงตามค่าระวางเรือที่อ่อนตัวลง y-y แม้มาร์จิ้นจะดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชดเชยกับรายได้ที่ลดลง รวมถึงรายได้ขนส่งทางอากาศก็มีแนวโน้มลดลง y-y จากฐานปีก่อนที่สูง แต่แนวโน้มธุรกิจขนส่งทางบกข้ามแดน คาดเติบโตขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการ Zero COVID ของจีน ทำให้การขนส่งผ่านด่านสะดวกขึ้น และเที่ยววิ่ง รถเยอะขึ้น และงานซัพพลายเชนโซลูชั่นที่ได้งานบริหารคลังของกลุ่ม SCG ที่กาญจนบุรี พื้นที่ 15,000 ตรม. เข้ามาเพิ่ม แต่คงไม่สามารถชดเชยรายได้จากขนส่งทางทะเลและทางอากาศได้ทั้งหมด

ปี 2566 ภาพโดยรวมจะอ่อนตัวลงตามเศรษฐกิจโลก

ปี 2566 ดูไม่ค่อยสดใส จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ตามคาดการณ์ของ IMF จีดีพีโลกในปี 2566 จะโต 2.7% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ 3.2% จากการขยายตัวของสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และจีนชะลอตัวลง ซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดมูลค่าการส่งออกในปี 2566 จะโตเพียง 1% เทียบกับปี 2565 ที่โต 7.4% และมูลค่าการนำเข้าในปี 2566 คาดโต 0.4% จากปี 2565 ที่โต 18.1% สะท้อนให้เห็นปริมาณการนำเข้าส่งออกที่ชะลอลง อีกทั้งค่าระวางเรือก็มีทิศทางที่อ่อนตัวลงจากปี 2565 ซึ่งใน 1H65 ยังคงได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือที่สูงอยู่ ทำให้รายได้การขนส่งทางทะเลยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลง แต่ธุรกิจขนส่งทางบกข้ามแดนกับซัพพลายเชนโซลูชั่นยังมีทิศทางดีต่อเนื่อง แต่ก็ยังมองไม่สามารถชดเชยขนส่งทางทะเลที่ลดลงได้ คงต้องติดตามการเปิดประเทศของจีนที่อาจหนุนการนำเข้าส่งออกของไทยและบริษัทย่อยของ WICE ที่อยู่ในจีน

ราคาหุ้นตอบรับแนวโน้มกำไรที่จะอ่อนตัวลงมากเกินไป จากราคาพื้นฐานปี 2566 ใหม่ที่ 11.60 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ปรับลดคาดการณ์กำไรในปี 2565 ลงเป็น 582 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 คาดรายได้ที่ 7,160 ล้านบาท -3.8% y-y และคาดการณ์กำไรที่ 538 ล้านบาท -7.5% y-y อิง P/E 14 เท่า (-2SD จากเฉลี่ยในอดีตที่ 24.3 เท่า ราคาพื้นฐานใหม่ที่ 11.60 บาท มองราคาหุ้นปรับตัวรับผลประกอบการที่มีแนวโน้มลดลงมามากเกินไป และยังมี upside จากราคาพื้นฐานอยู่ จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง

  1. เศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยน
  2. การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง
  3. กฎระเบียบของทางการ
- Advertisement -