ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ไซด์เวย์ ปัจจัยต่างประเทศเป็นลบมากขึ้น

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพฤหัสฯ เทรดในกรอบแคบๆ… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวขึ้นต่อ (ตามคาด) หลังฟันด์โฟลว์ยังไหลเข้าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างดี เน้นหุ้นท่องเที่ยวและหุ้นธีมการบริโภค ตามข่าวจีนเตรียมเปิดประเทศเต็มรูปแบบ… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลางๆ กล่าวคือ i) จิตวิทยาของตลาดหุ้นโลกถูกกระทบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานข่าวว่า ไฟลท์บินจากประเทศจีนที่แลนดิ้งที่อิตาลี พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ถึงครึ่งหนึ่งของเครื่องบิน สร้างความกังวลต่อตลาดว่าการเปิดประเทศของจีนส่งออกเชื้อ COVID-19 ไปทั่วโลก ทั้งนี้ประเทศหลักๆ รวมทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ได้ประกาศมาตรการให้ผู้เดินทางจากจีนต้องส่งผลตรวจ PCR ก่อนเข้าประเทศ ii) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืน mixed กันทั้งดีกว่าคาดและแย่กว่าคาด โดยตัวเลขยอดขายบ้านที่รอทำสัญญา (pending home sales) ลดลง 4% MoM อ่อนแอกว่าคาด แต่ดัชนีสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขา Richmond สูงกว่าที่ตลาดคาดค่อนข้างมาก ด้านปัจจัยภายในประเทศ รัฐบาลจะมีการประชุมในวันที่ 5 ม.ค. 2566 เพื่อเตรียมแผนรับนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน ล่าสุด นสพ. เช้านี้ลงข่าวว่า ก.ท่องเที่ยวมีแนวคิดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นฟรีให้นักท่องเที่ยว น่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร BCH*, M*, BAFS

  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.1 บาท / แนวต้าน 20.7 – 21.0 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 21.7 บาท (Stop loss 19.8 บาท) 2) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q65 ฟื้นตัว QoQ (ไตรมาสก่อนมีขาดทุนพิเศษจากการตั้งสำรองฯ วัคซีน) ขณะที่คาดจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งไทยและต่างชาติมีโอกาสเร่งตัวขึ้นใน 1Q66 จากการเปิดประเทศและนักท่องเที่ยวจีน (เป็น Upside ไม่อยู่ในประมาณการฯ) 3) Forward PE ปีหน้า 23 เท่า และ PBV 4.15 เท่า เทรดใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีต
  • M* (เป้าพื้นฐาน 68.75 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 58.5 บาท / แนวต้าน 59.25 – 61.25 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 64 บาท (Stop loss 57.0 บาท) 2) ประเมินธุรกิจร้านอาหารของ M* (ทั้งร้านแหลมเจริญ และร้านอื่นๆ ในเครือฯ) จะได้อานิสงค์เชิงบวกจากการที่จีนเริ่มเปิดประเทศก่อนเทศกาลตรุษจีน 3) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรปีหน้าโต +44% YoY จากการเปิดประเทศ ทำให้ยอดขายที่ฟื้นตัวเต็มปี ขณะที่คาดปัจจัยกดดันเรื่องต้นทุนวัตถุดิบอาหารจะลดลง ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น 4) Valuation ยังไม่แพง Forward PE ปีหน้า 23 เท่า คิดเป็น 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในอดีต
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 31.0 บาท / แนวต้าน 32.0 – 32.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 34 บาท (Trailing stop 30.5 บาท) 2) ประเมิน Sentiment บวกจากการที่จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 โดยจะยกเลิกการกักตัวผู้เดินทางเข้าประเทศจีน คาดจะหนุนปริมาณการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งขาเข้า – ออก เป็นบวกกับธุรกิจให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานของ BAFS โดยตรง ขณะที่เราประเมินราคาหุ้น BAFS พักฐานลงมา และยัง Laggard กลุ่มฯอยู่มาก 3) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน Valuation ยังไม่แพงโดย PBV 4.4 เท่า คิดเป็น +1.5 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่ง Premium กว่าค่าเฉลี่ยฯ เพราะคาดปี 2566 จะพลิกกลับมามีกำไรเป็นครั้งแรกตั้งแต่วิกฤตโควิด-19 ขณะที่ PBV ล่าสุดของ AOT > 10 เท่า ทะลุ +2 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานไปแล้ว

หุ้นมีข่าว

(+) ADVANC* เฮ! ศาลยกฟ้อง “ดีพีซี ไม่ต้องชำระเงินที่ NT เรียกร้อง 552 ล้านบาท (ข่าวหุ้น) “ศาล ปกครองกลาง” ยกฟ้อง “ดีพีซี” บริษัทย่อย ADVANC* หลุด 1 ใน 3 คดี ไม่ต้องจ่าย NT 552 ล้านบาท ด้าน NT และสำนักงาน กสทช. มีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายใน 30 วัน

(+) “คมนาคม” เคาะ 9 โปรเจกต์-5 แสนล้าน สร้าง ‘รถไฟไฮสปีด-รถไฟทางคู่” เฟส 2 ซึ่งเข้า ครม. ส่งท้ายก่อนรบหมดวาระ (สยามรัฐ) “ศักดิ์สยาม” ตั้งเป้าดันเมกะโปรเจกต์ 9 โครงการวงเงินรวมกว่า 5 แสนล้านบาท เตรียมเสนอเข้า “ครม.” ก่อนรัฐบาลหมดวาระ พร้อมเดินหน้าโครงการรถไฟไฮสปีดเฟส 2-รถไฟทางคู่เฟส 2 รวม 3 เส้นทางต่อขยายสายสีแดง 4 เส้นทาง พร้อมปรับกรอบวงเงินมอเตอร์เวย์ M6 ต้นปีหน้า

(+) PTG* เติมน้ำมันลดภาษี เดินทางปีใหม่ยอดเด้ง (ทันหุ้น) PTG* รับอานิสงส์ช้อปดีมีคืน เติมน้ำมันได้ลดภาษี ชี้หนุนยอดขายน้ำมัน-แมกซ์มาร์ท พร้อมปักธงปี 2566 ปริมาณขายน้ำมันโต 5-12% จากปี 2565 รับดีมานด์ขยายตัว ส่วนไตรมาส 4/2565 เชื่อฟอร์มแจ่ม รับธุรกิจทุกไลน์โตต่อเนื่อง

(+) SMD ตั้งบ.ย่อย ลุยเช่าซื้อลิสซิ่ง เครื่องมือแพทย์ (ทันหุ้น) บอร์ด SMD ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อย ให้บริการเช่าซื้อลิสซิ่ง เครื่องมือแพทย์และยานพาหนะ และธุรกิจบริการดูแลรักษาสุขภาพ ฟากผู้บริหารกางแผนงานปี 2566 ปัมรายได้แตะ 2.2 พันล้านบาท ลุยขยายธุรกิจใหม่เสริมแกร่ง

(+ GULF) มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น INTUCH อนุมัติให้ขาย THCOM ให้แก่ GULF ด้วยราคา 9.92บาท/หุ้น โดยเงินที่ INTUCH ราว 4.5 พันลบ. จะนำมาจ่ายปันผลพิเศษให้ผู้ถือหุ้นอัตรา 1.40บาท/หุ้น XD: 10 ม.ค. 2566) และจ่ายปันผลวันที่ 27 ม.ค. 2566 (Source: SET) ความเห็น: เรามองบวกกับประเด็นนี้ โดย GULF ถึงแม้จะต้องจ่ายเงินออกไปเพื่อซื้อ THCOM แต่จะได้เงินปันผลจาก INTUCH มาช่วยชดเชยเช่นกัน นอกจากนี้เมื่อ THCOM มาอยู่ภายใต้กลุ่ม GULF คาดจะมีความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะการประมูลวงโคจรรอบใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งตลาดคาดกันว่าจะชนะได้บ้างอย่างน้อย 1 วงโคจร เราแนะนำ ซื้อ

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 67 บาท / แนวต้าน 69-70 บาท ผ่านได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 66 บาท)
  • GLOBAL (เป้าพื้นฐาน 24.4 บาท) แนวรับ 21.5 บาท / แนวต้าน 22.0-22.7 บาท (Trailing stop 21.1 บาท)
  • ADVANC* (เป้า Consensus 236.7 บาท) แนวรับ 193 บาท / แนวต้าน 197-201 บาท (Trailing stop 191.5 บาท)
  • WHA* (เป้าพื้นฐาน 4.4 บาท) แนวรับ 4.04 บาท / แนวต้าน 4.30-4.40 บาท (Trailing stop 3.98 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 32.75 บาท / แนวต้าน 33.5-34.5 บาท (Stop loss 32.0 บาท)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 28.75 บาท / แนวต้าน 29.75-30.5 บาท (Stop loss 28.5 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 23.5 บาท / แนวต้าน 24.0-24.3 บาท (Stop loss 23.3 บาท)
  • TISCO* (เป้าพื้นฐาน 107.5 บาท) แนวรับ 99.0 บาท / แนวต้าน 100-102 บาท (Stop loss 98.5 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 72.0 บาท / แนวต้าน 73.0-75.5 บาท (Stop loss 71.0 บาท)
  • INTUCH* (เป้า Consensus 81.4 บาท) แนวรับ 76.25 บาท / แนวต้าน 78.0-80.0 บาท (Stop loss 75.0 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 34.5 บาท / แนวต้าน 36.0-37.5 บาท (Stop loss 34.0 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

BBGI แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 8.1 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไร 4Q65 = 67 ล้านบาท (+17% YoY, Turnaround QoQ) กำไรที่คาดจะดีขึ้น YoY เป็นผลจากอัตรากำไรของธุรกิจเอทานอลที่ฟื้นตัว ขณะที่คาดจะไม่มีผลขาดทุนสต๊อกไบโอดีเซลจำนวนมากเช่นใน 3Q65 อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ ลง สะท้อนการปรับสมมติฐานใหม่เรื่องส่วนผสมไบโอดีเซล (สมมติฐานเดิมใช้ B10 / สมมติฐานใหม่คาดใช้ B7) แต่เนื่องจากฝ่ายวิจัยฯ คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และจะฟื้นตัวตามการเปิดประเทศ จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ถือ”) เป้าพื้นฐานใหม่ 8.1 บาท (เดิม 10.2 บาท)

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -