สรุปภาวะตลาด

วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวขึ้นในช่วงเปิดตลาด จากแรงซื้อหุ้น DELTA แต่มีแรงขายสลับเข้ามา ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลง หลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง แรงขายมาจากหุ้นกลุ่มพลังงาน ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง ส่วนแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากน้ีนักลงทุนติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,673.25 จุด -5.72 จุด -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 76,429 ลบ. ต่างชาติ +121.17 ลบ. TFEX -5,427 สัญญา ตราสารหนี้ +16,894.88 ลบ.

ปัจจัยบวก +

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด เพิ่มขึ้น 133.40 จุด +0.40% หลังจากเฟดเปิดเผยรายงานการประชุม ซึ่งระบุว่ากรรมการ เฟดมีความเห็นตรงกันว่าควรจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ

+ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 3.9% ใน 4Q65 โดยสูงกว่าระดับ 3.7% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้าน้ี

+ สนค. เปิดเผยว่า ปี 66 สนค.คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยจะขยายตัว 2-3% ชะลอลงจากปี 65 ที่คาดว่าขยายตัว 5.5-6.5%

+ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เผย 11 เดือนของปี 2565 ส่งออกข้าว 6.9 ล้านตัน มูลค่าเกิน 1.2 แสนล้านบาท ความต้องการหอมมะลิเพิ่ม 102.2% ตั้งเป้าปี 2565 ส่งออกได้ 8 แสนตัน

ปัจจัยลบ –

– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 4.09 ดอลลาร์ -5.3% ปิดที่ 72.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง กว่า 5% ในวันพุธ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจท่ัวโลก และการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจีน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

– ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 48.4 ในเดือนธ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.5 จากระดับ 49.0 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว

– สหภาพยุโรป (EU) เตรียมออกมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากจีน ซึ่งอาจรวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย และการตรวจเชื้อก่อนขึ้นเครื่องจากเที่ยวบินที่มาจากจีน

– หัวหน้าด้านเทคนิคขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ไวรัสโอมิครอนสายพันธ์ุ XBB.1.5 ถือเป็นไวรัสโควิด-19 ที่สามารถแพร่ระบาดรุนแรงที่สุดในขณะนี้

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีแกว่งตัวในลักษณะ Sideway โดยมีแรงหนุนจากกรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าควรจะชะลอ อัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังถูกกดดันต่อเนื่อง จากทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,665-1,680 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
  • การท่องเท่ียวเติบโตต่อเนื่อง และจีนเปิดประเทศ 8 ม.ค. 66 : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเร่ิมคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
  • หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
  • หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL

หุ้นรายงานพิเศษ

  • ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มธนาคารเป็น “Overweight” แนะนำ Top Pick ได้แก่ BBL KBANK KTB SCB TISCO

หุ้นมีข่าว

(+) UAC (Bloomberg consensus – บาท) จ่อบันทึกกำไรพิเศษขายหุ้น UAPC มูลค่าหลักร้อยล้านบาท ในไตรมาส 1/2566 นี้ ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชน ภูผาม่าน คาดเซ็นสัญญาซื้อขายเดือนมกราคมนี้ คาดสร้างรายได้ 150 ล้านบาท พร้อมลุ้นผลประมูลพลังงานทดแทน หลังผ่านคุณสมบัติเบื้องต้น 15 เมกะวัตต์ ส่วนโรงงาน RDF ที่สปป.ลาว เริ่มสร้างรายได้ มั่นใจรายได้รวมปี 2566 มากกว่า 2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SYNEX (Bloomberg consensus 18.65 บาท) เข้าข่ายได้อานิสงส์โครงการ “ช้อปดีมีคืน” หนุนยอดขายพุ่ง พร้อมลั่นปี 2566 ผลงานทะยานต่อเนื่องจากปี 2565 รับพอร์ตลูกค้าโตเด่น แถมรุกขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติม ด้านโบรกส่องผลงานไตรมาส 4/2565 ช่วงไฮซีซันดันกำไรโต (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MEGA (Bloomberg consensus 57.00 บาท) ส่งซิกผลงานปี 65 เข้าเป้า รายได้โต 5-10% มั่นใจดันกำไรสูงกว่าปีก่อน พร้อมปักธงรายได้ปี 66 โตไม่ต่ำกว่า 5% รับท่องเท่ียวฟื้น-จีนเปิดประเทศ หนุนดีมานด์ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ยา และวิตามินเพิ่มขึ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) K (Bloomberg consensus – บาท) “คิงส์เมนฯ” ลั่นปี 66 เทิร์นอะราวด์ ปักธงรายได้พุ่ง 780 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 250 ล้านบาท พร้อมซุ่มเจรจารับงานอีกเพียบ ขณะที่ผลงานปี 65 มั่นใจรายได้เข้าเป้า 700 ล้านบาท รับแรงหนุนรายได้จัดงาน Motor Expo 2022 (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 5 ม.ค. สํานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า
  • สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
    • ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
    • สภาธุรกิจตลาดทุนไทยแถลงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน
    • สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สภาผู้ส่งออก) แถลงสถานการณ์การส่งออก
    • ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) แถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์
    • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
  • 25 ม.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566
  • 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 5 ม.ค. จีน รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือน ธ.ค.จากไฉซิน
    • สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือน ธ.ค.จาก ADP จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์  ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้า เดือนพ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.จากเอส แอนด์ พี โกลบอล สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จาก สํานักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 6 ม.ค. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.
    • สหรัฐ รายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนธ.ค. ดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน เดือนพ.ย.
  • 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กําหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
- Advertisement -