KS Daily View 05.01.2023 > Fed Minutes โทนออกมา Dovish แนะชะลอลงทุนหุ้น Global play/ ส่งออก เน้น Anticommodity SET คาดแกว่งตัวลง 1666 -1680 จุด หุ้นแนะนำ BGRIM, EKH

สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน : เมื่อคืนประเด็นสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้นโลกคือ รายงาน Fed minutes โดยโทนออกมา Dovish คือคณะกรรมการ Fed ยังปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเมื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่จะดำเนินการในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเติบโตเศรษฐกิจ ส่วนรายงาน ISM เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐเดือน ธ.ค. ปรับลงสู่ระดับ 48.4 จุด ใกล้เคียงคาด  โดยรวมทำให้ ดัชนี Dow Jones 0.4%DoD,NASDAQ 0.69% ในประเทศ : SET Index เมื่อวานปรับลงปิด 1673.25 จุด(+0.34%)

มุมมองตลาดหุ้นไทยระยะกลาง : มุมมองระยะสั้นเรายังคงมุมมองเดิมคือคาดสัปดาห์นี้ตลาดจะแกว่งในกรอบ 1666 –  โดยมุมมองระยะกลางเราประเมินตลาดหุ้นไทยปี 2566 เป็น มีปัจจัยบวกหนุน

1.) คาดหวัง Fed จะส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยใน 1H23   2.) จีนเริ่มผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์เร็วกกว่าคาด

3.) Election Rally หนุน sentiment การบริโภค

4.) คาดราคาพลังงาน และอาหารลดลง

5.) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น KBANK ประเมินสิ้นปี 2023 อยู่ที่ 33.5-34 บาท ส่วนปัจจัยลบ คือ สภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก (Recession)  โดยมุมมองของ KS คือ

1.) โอกาสที่ไทยจะเกิดภาวะถดถอย Recession ในปีนี้มีน้อย (15%) เมื่อเทียบกับยุโรปที่ความเสี่ยงสูงกว่า 80-90% และสหรัฐฯ (62.5%) ทำให้ปีนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยจะ outpeform ตลาดหุ้นโลก

2.) การที่โลกเข้าสู่ Recession จะส่งผลลบกับหุ้น Global play เช่น โภคภัณฑ์, Logistics, Electronics, Petrochemical เป็นต้น รวมถึงกลุ่ม Cyclical เช่น ธนาคาร ประกัน และอสังหาฯ เป็นต้น แนะนำหลีกเลี่ยง

3.) คาด sector ที่จะ outpeform ในช่วงขาลง คือกลุ่ม Defensive เช่น โรงไฟฟ้า, กลุ่ม Property Fund & Infrafund และ REITs รวมถึงสินค้าจำเป็น เช่น โรงพยาบาล, อาหาร และยารักษาโรค เป็นต้น

4.) กรณีถ้าโลกเข้าสู่ Recession  KS มองว่าจะเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนโดยเฉพาะตลาดหุ้นต่างประเทศ ซึ่งถ้าดูจากข้อมูลสถิติของ Forbs จะพบว่าระยะเวลาในการเกิด Recession ไม่เกิน 1 ปี และปกติผลตอบแทนหลัง Recession 6 เดือน – 2 ปีตลาดหุ้นโลกจะให้ผลตอบแทนเป็นบวก ดังนี้อาจมี Capital outflow กลับไปยังตลาดหุ้นต่างประเทศ คาดว่าเกิดในช่วง 2H25

5.) หากเกิด Recession แนะนำให้หาจังหวะทยอยสะสมหุ้น Global plays และกลุ่ม Cyclical เพราะจะปรับตัวขึ้นแรงหลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจาก Recession

Theme แนะนำลงทุน

1.) กลุ่ม Anticommodity ระยะสั้นแนะนำตามทิศทางราคาพลังงานที่ยังปรับลง  อาทิ กลุ่มเครื่องดื่ม, กลุ่ม Retail Oil  อาทิ PTG, OR ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลงแรงต่อ และมีปัจจัยหนุนนจาก หลังมาตรการช้อปดีมีคืนรอบนี้ ระหว่าง 1 ม.ค. – 15 ก.พ.   กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ได้ประโยชน์จากราคาก๊าซปรับลงแรง  และเป็นตัวแทน Defensive  อาทิ BGRIM, GPSC  เรายังแนะนำถือต่อจากที่เคยแนะนำก่อนหน้าและหากราคาย่อตัวลงมาแนะนำทยอยสะสม

2.) หุ้นปันผลสูง : จะ perform ในช่วง 1Q อาทิ AP, LH, ORI, RATCH, EGCO, KKP, BBL

3.) หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่จีนประกาศเริ่มเปิดประเทศตั้งแต่ 8 ม.ค.23 เร็วกว่าที่ตลาดคาดจะเปิดช่วง 2Q23  กลุ่มที่ราคายังมี Upside อาทิ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม อาทิ AMATA, WHA  กลุ่มขายของฝาก อาทิ SNNP, DDD  กลุ่มโรงพยาบาล อาทิ EKH, BDMS, BCH กลุ่มร้านขายยา อาทิ MEGA

กลุ่มที่แนะนำชะลอการลงทุน คือ

1.) กลุ่มส่งออก เนื่องจากเช้านี้ เงินบาทแข็งค่าเช้านี้แข็งค่าแรงต่ำ 34.0 บาท

2.) กลุ่ม Global play น้ำมัน และโรงกลั่น ฯลฯ ตามน้ำมันดิบยังลงแรงต่อ

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกรอบ 1666-1680 จุด หุ้นแนะนำ  BGRIM, EKH

Top pick

  • BGRIM (ราคาพื้นฐาน 63.5 บาท) เราแนะนำเนื่องจาก

1.) เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่เป็นตัวแทนหุ้น Defensive ในช่วงที่ตลาดพักฐาน และปีนี้ตลาดกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอย Recesion

2.) ประเด็นค่า Ft งวด ม.ค.- เม.ย. กกพ. เคาะแล้วที่ 5.33 บาทต่อหน่วย สูงกว่าสมมติฐานที่ KS คาดที่  5.2 บาทต่อหน่วย มี Upside และปลดล็อก Overhang ราคาหุ้น

3.) ปัจจัยหนุนจาก Gas pool price ที่แนวโน้มปรับลง และเงินบาทแนวโน้มแข็งค่าแรงต่ำ 34.0 บาท

  • EKH (ราคาพื้นฐาน 9.6 บาท) เราคาดว่า EKH จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการเปิดประเทศจีน เราไม่กังวลเกี่ยวกับกำไรปกติที่คาดอ่อนแอในงวด 4Q22  โดยคาดกำไรสุทธิของคูนพลิกกลับเป็นบวกตั้งแต่งวด 1Q23  เป็นต้นไปและคาดว่าโมเมนตัมรายได้จะดีขึ้นในปี 66 จากรพ. คูน  จำนวนผู้ป่วย IVF จากจีนที่ฟื้นตัวขึ้น โดย EKH เห็นจำนวนผู้ป่วยจากจีนที่บินเข้ามามากขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย.65 และมีการติดต่อจากตัวแทนจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจีนประกาศเปิดประเทศ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดี ติตดามดัชนี PMI ภาคการบริการจีนจากสถาบัน Caixin (ธ.ค.) ติดตามเงินเฟ้อทั่วไปของไทย ตลาดคาด 6.0%YoY, ติตตามการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมสหรัฐจากเอดีพี (ADP) (ธ.ค.) ตลาดคาด  1.5 แสยนราย
  • วันศุกร์ ติตดามดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ยุโรป  เดือน ธ.ค. ตลาดคาด 9.7%YoY
- Advertisement -