KS Daily View 09.01.2023 > ราคาพลังงานปรับลง หนุนหุ้นโลกปรับขึ้น ค่าจ้างในสหรัฐชะลอ ความหวัง Soft landing ของ Fed SET คาดหนุน 1666 -1691 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ PRM, BE8

สรุปตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

ในประเทศ : SET Index ปรับลงปิด 1673.8 จุด (0.6%) โดยหุ้นที่ปรับลงและกดดัชนี IVL -5%, TU-4.2%, BANPU -3.9% ฯลฯ ส่วนหุ้นที่ปรับขึ้น HANA +14.2%  KCE+6.6% BBL+2.95% ฯลฯ    ต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตลาดหุ้นสหรัฐสหรัฐปรับขึ้นแรง เมื่อวานปรับลงอิง ดัชนี Dow Jones 2.1%DoD, ดัชนี S&P500 2.3%, NASDAQ 2.6% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ของสหรัฐ ปรับขึ้นยกแผง โดยกลุ่มที่ปรับขึ้นแรงคือ กลุ่ม Materials 3.4%, IT 2.99%, Real Estate  2.86% ฯลฯ ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือกลุ่ม Health Care 0.89%  เหตุผลที่ตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นคือ ตลาดกลับมามีความหวังเรื่อง Soft landing ของ Fed จากคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง (-8.1% WoW) และค่าจ้างที่เติบโตในอัตราชะลอตัว (+4.6% YoY ต่ำกว่าคาดที่ +5% YoY และเดือนก่อนหน้าที่ +4.8% YoY) ทำให้มีโอกาสที่ดอกเบี้ยเฟดใกล้จุดสูงสุด (peak) แล้ว นอกจากนี้ Bloomberg consensus ประเมินว่าเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในสัปดาห์นี้จะชะลอตัวลงเป็น +0% MoM และ +6.5% YoY (จาก +0.1% YoY และ +7.1% YoY เดือนก่อนหน้า) มองกลุ่มที่ sensitive ต่อทิศทาง Bond yield ที่ชะลอตัวจะ outpeform ได้แก่ กลุ่ม Finance, Utilities, และ Property Fund & REITs โดย Top picks ของ KS ในกลุ่มนี้ได้แก่ AEONTS, HENG, BGRIM, GPSC, BEM, ALLY, WHART และ DIF

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้

เราประเมิน SET Index ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1666-1691 จุด มองการย่อลงมาเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นไทย โดยกรณีหลุด 1666 จุด แนวรับสำคัญอีกจุด คือ 1644 จุด เราประเมินปัจจัยต่างประเทศทั้ง  มุมมองเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐที่คาดเห็นจุด Peak ไปแล้ว และปัจจัยหนุนจากการที่จีนเริ่มเปิดประเทศ 8 ม.ค.เร็วกว่าตลาดคาด 2  ไตรมาส มองเป็น Upside ต่อ GDP Growth และนักท่องเที่ยว ปี 2023  และ Dollar Index ที่อ่อนค่าตามดอกเบี้ยสหรัฐที่ผ่านจุด Peak  หนุนให้เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ล่าสุดต่ำ 34.0 บาทต่อดอลลาร์ อยู่ที่ 33.8 บาท เป็นปัจจัยบวกหนุนต่อทิศทาง Fund Flow ไหลเข้าไทยต่อ  โดยเราประเมินสัปดาห์นี้จะเห็นการสลับกลุ่ม (Rotation) จากที่ปรับขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว อาทิ กลุ่มธนาคาร กลุ่มท่องเที่ยว   มาในกลุ่มที่อยู่ในโซนล่างและมีปัจจัยบวกหนุน อาทิ กลุ่มการเงิน  กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์  กลุ่ม tech Consult และหุ้น Small Cap

ประเด็นการลงทุนที่ต้องติดตามและคาดเป็นกระแส

1.) ติดตามคปภ.ประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาแนวทางการทำประกันสุขภาพรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย เพราะเมื่อถึงเวลาต้องกลับเข้าประเทศจีน ต้องมีการแสดงผลตรวจ RT-PCR หากผลออกมาเป็นบวก ต้องอยู่รักษาอาการต่อ อาจใช้ระยะเวลารักษา 7-14 วัน ดังนี้จึงบังคับให้ต้องซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าประเทศ ทั้งนี้นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า เนื่องจากตัวเลขป่วยโควิดทางจีนไม่นิ่ง จึงทำให้การดีไซน์รูปแบบเบี้ยประกันและการคุ้มครองค่อนข้างยาก เพราะมีเงื่อนไขการรักษามากและระยะเวลาสั้น อย่างไรก็ตาม สมาคมจะทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังบริษัทประกันภัยที่เป็นสมาชิกเพื่อคิดรูปแบบการขาย มองว่าหุ้นที่เกี่ยวข้องและอาจจะได้ประโยชน์คือ TQM, TIPH, และ BKI เป็นต้น

2.) ติดตามแนวโน้มความต้องการฉีดวัคซีน mRNA, การเข้ารักษาพยาบาล, การกักตุนยา รวมถึงการตรวจ RT-PCT ของคนจีนก่อนเดินทางกลับประเทศ มองเป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BCH, PR9, EKH) และธุรกิจขายยา ได้แก่ MEGA และ HL เป็นต้น

3.) ติดตามนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเร่งตัวในช่วง 2Q23 โดยกระทรวงคมนาคมแจ้งว่าขณะนี้มี 9 สายการบิน ของจีนทำเรื่องเพื่อขอตารางเวลาการบิน (สล็อต) และเพิ่มความถี่เที่ยวบินมาประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เริ่มต้นจากวันละ 1 เที่ยวบิน โดยปัจจุบัน กพท.อนุญาตให้จีนทำการบินในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-มีนาคม) จำนวนไม่เกิน 20 เที่ยวบินต่อวัน ใน 3 สนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต และเชียงใหม่ โดยคาดว่าจะมีการขยายเพิ่มเติมไปยังสนามบินอื่นๆ สำหรับปี 2566 ททท. คาดว่านักท่องเที่ยวจีนไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน สร้างรายได้ท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท

Theme แนะนำการลงทุน

1.) ธีมหุ้น Defensive และได้ประกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ กลุ่มโรงพยาบาล แนะนำ BDMS BCH, PR9 ได้ประโยชน์จากทิศทางคนจีนเข้ามาฉีดวัคซีน ซื้อยา ฯลฯ, กลุ่มอาหารเสริมและยา  แนะนำ MEGA    ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้า   แนะนำ BGRIM จาก เงินบาทแข็งค่าต่ำ 34.0 บาท

2.) หุ้นการเงิน จากผลประกอบการงวด 4Q22 แข็งแกร่ง, ราคาหุ้นอยุ่ในโซนล่าง และมีปัจจัยหนุนจากBond Yield ปรับลงและผ่าน Peak แนะนำ AEONTS , HENG

3.) ธีมหุ้นที่มีปัจจัยบวก แนะนำ PRM

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดกรอบ 1666-1691จุด หุ้นแนะนำ PRM, BE8

Top pick

PRM (ราคาพื้นฐาน 10.0 บาท)

เราคาดกำไรปกติงวด 4Q22 แข็งแกร่งอยู่ที่ 463 ลบ. 2% QoQ และ 197% YoY โดยได้แรงหนุนหลักจากอัตราการดำเนินงานของ FSU ที่สูงขึ้น   คาดการณ์อัตราการดำเนินงานของ FSU จะเพิ่มขึ้นจาก 89% ในงวด 3Q22 มาอยู่ที่ 97% ในงวด 4๐22 ขณะที่ขึ้นไปแตะระดับ 100% ในเดือนพ.ย.  โดยเราได้เพิ่มราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 10.0 บาท  ประเมินราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย Valuation ที่ถูกประเมิน PER ปี 2566 และ 2567 ที่ 9.7 เท่า และ 8.5 เท่า

BE8 (ราคาพื้นฐาน 69.1 บาท)

1.) เราประเมินหุ้น Tech Consult คาดได้ Sentiment บวกตามหุ้น Tech สหรัฐ

2.) เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ BE8 จากยอด backlog ที่แข็งแกร่งในปี 2022 และทิศทางกำไรที่ดีต่อเนื่องในงวด 4Q22 และปี 2023

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันจันทร์ ติดตามอัตราการว่างงานของยูโรโซนเดือน พ.ย. คาด 6.5% (ทรงตัว MoM)
  • วันอังคาร ติดตามถ้อยแถลงของ Fed Chair Powell
  • วันพุธ ติดตามปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ รายสัปดาห์
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของจีนเดือน ธ.ค. คาด -0.1% MoM และ +1.8% YoY ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของจีน (PPI) เดือน ธ.ค.​ คาด -0.1% YoY ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ธ.ค.​ คาด +0% MoM และ +6.5% YoY (ชะลอตัวจาก +0.1% YoY และ +7.1% YoY เดือนก่อนหน้า) ตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +0.3% MoM และ +5.7% YoY ตัวเลข Initial Jobless Claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด +220K ลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่ +204K
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ธ.ค.​ ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของจีนเดือน ธ.ค. คาด -5% YoY ตัวเลขปริมาณเงิน M2 ของจีนเดือน ธ.ค.​ คาด +12.2% YoY (ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า) ตัวเลขส่งออก และนำเข้าของจีนเดือน ธ.ค.​ คาด -3.2% YoY และ -4.4% YoY ตามลำดับ ตัวเลข Full year GDP Growth 2022 ของเยอรมัน คาด +1.9% YoY ตัวเลข Michigan Consumer Sentiment เดือน ม.ค.​ คาด 60 จุด (+0.5% MoM)
- Advertisement -