แนะนำเลือกหุ้นที่ยัง Laggard
กรอบ SET INDEX 1685-1697
Market Outlook
วันนี้ประเมิน SET INDEX จะเริ่มเคลื่อนไหวออกข้างในกรอบ 1685-1697 ภาพรวมวันนี้ค่อนข้างทรงตัว หลังวานนี้ปรับขึ้นมารับข่าวบวกด้านเงินเฟ้อสหรัฐฯ คลี่คลาย ประกอบกับนักลงทุนรอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีกําหนดการรายงานในวันพฤหัสบดีเวลา 20.30 น.ตามเวลาประเทศไทย รวมถึงถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในคืนนี้ช่วงเวลา 21.00 น. ส่วนการมาของนักท่องเที่ยวจีน พบว่าวานนี้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยทั้งหมดราว 3,465 คน โดยทาง AOT คาดการณ์ว่าปี 2023 จะมีนักท่องเที่ยวจีนมาราว 7-10 ล้านคน (ก่อน Covid-19 20.5 ล้านคน) หากใช้สมมติฐานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คาดการณ์ว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวทั้งหมดราว 22 ล้านคน หากเพิ่มสมมติฐานของ AOT เข้าไปที่ 7-10 ล้านคน ก็อาจจะพอคาดการณ์ได้ว่าปี 2023 นักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดที่เดินทางเข้าประเทศไทยจะอยู่ราว 30 ล้านคน +/- ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลได้ประกาศชัดเจนแล้วว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยมีจําเป็นต้องแสดงเอกสาร Vaccine ครบ 2 เข็มแต่อย่างใด ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น (เป็น Upside) อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ได้ประโยชน์อย่างกลุ่มท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, ERW, MINT, SPA) เรามองว่าอาจไม่ได้เป็นบวกต่อราคาหุ้นเท่าใดนัก เนื่องจากว่าราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาจนใกล้เคียงช่วงก่อนเกิด Covid-19 แล้ว (AOT, MINT) ขณะที่บางตัวสูงกว่าช่วงก่อนเกิด Covid-19 แล้ว (CENTEL, ERW, SPA) แต่กลุ่มที่ยังดูน่าสนใจมองไปที่กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB, TTB) ด้วยเศรษฐกิจไทยที่ดูมี Upside จากการท่องเที่ยว และเชื่อว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะเริ่มพิจารณาถึงการลงทุนอีกครั้ง หนุนสินเชื่อขยายตัวและการสำรองหนี้ฯ มีแนวโน้มจะลดลงตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ Valuation ก็ยังไม่แพง (ราคาหุ้นยังไม่สูงกว่าช่วงก่อนเกิด Covid-19) สำหรับ SET INDEX การปรับขึ้นมากว่า 5.4% ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 ส่งผลให้ปัจจุบัน Earnings Yield Gap ลงมาใกล้เคียงช่วง -1SD บ่งชี้ถึงระดับ Valuation ที่เริ่มแพงหากลงไปถึงช่วง -1SD SET จะอยู่ราว 1720 จึงยังเชื่อเหมือนเดิมว่าจากนี้ Upside จะเริ่มจํากัด
เชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเพียงแค่ Trading เช่นเดิม และเลือกหุ้นที่ยัง Laggard หรือไม่แพงมาก อาทิ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL, KBANK, SCB, TTB, TISCO) กลุ่มค้าปลีก (BJC, HMPRO) สื่อสาร (ADVANC) กลุ่มโรงไฟฟ้า (BGRIM, GPSC, GULF, RATCH)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
BBL ราคาพื้นฐาน 171.00 บาท
คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/22 ที่ 8.4 พันล้านบาท โต 34% YoY (+10% QoQ) ด้วยแรงหนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-NII) ที่สูงขึ้น และการตั้งสำรองหนี้ที่ลดลง ขณะที่คาดอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) จะโต 2.6% ทั้ง YoY และ QoQ จากผลตอบแทนสินเชื่อที่สูงขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ย ด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น 56.9% (ไตรมาส 3/22: 46.3%) จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงตามปัจจัยฤดูกาล
SCB ราคาพื้นฐาน 144.00 บาท
SCBX ตั้งเป้าหมายการเติบโตรายได้เฉลี่ยที่ 10% ในปี 2022- 2025 ด้วยส่วนแบ่งธุรกิจดิจิทัลที่เพิ่มเป็น 1 ใน 3 ของรายได้รวม ด้วยเป้าหมายในการเร่งอัตราการเติบโตของกำไรที่เร็วยิ่งขึ้น และเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ บริษัทจะเน้นธุรกิจ Gen 2 และ Gen 3 มากขึ้น โดยมีแผนการทำ IPO ธุรกิจ CARD X (ROE มากกว่า 20%) และ Innovest X (ROE 25%) ในปี 2025 และ AUTO (ROE มากกว่า 25%) ในปี 2027