สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเริ่มพักตัวเล็กน้อย หลังจากพุ่งขึ้นต่อเนื่อง เห็นการทำ Sector Rotation แรงชื้อนำโดยหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มพลังงาน รวมถึงหุ้นกลุ่มอาหาร ส่วนแรงขายมาจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,691.41 จุด +0.29 จุด +0.02% มูลค่าการซื้อขาย 80,561 ลบ. ต่างชาติ +4,299.15 ลบ. TFEX – 4,083 สัญญา ตราสารหนี้ +7,975.79 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 186.45 จุด หรือ +0.56% หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารเฟด ไม่ได้ส่ง สัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งล่าสุด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐจากจีน ในวันพฤหัสบดีนี้

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ +0.6% ปิดที่ 75.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากหน่วยงานของรัฐบาล สหรัฐคาดการณ์ว่าปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั่วโลกมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า

+ สำนักข่าว CNBC รายงานว่า นักท่องเที่ยวของจีนพากันหันมาสนใจเลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทาง เนื่องจากไม่พอใจต่อการที่บางประเทศเลือกปฏิบัติ โดยการออกมาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อผู้ที่เดินทางจากจีน

+ ธนาคารกรุงไทยคาด GDP ไทยปี 2566 โต 3.4% อานิสงส์ภาคท่องเที่ยวหนุน ชี้เศรษฐกิจโลกชะลอ ส่งผลให้ส่งออกโตเหลือ 0.7% คาดดอกเบี้ยทะยานแตะ 2% ก่อนพุ่งสูงสุดที่ระดับ 2.5% ในปี 2567 ฟันธงไทยเข้าสู่ยุคดอกเบี้ยขาขึ้นเต็มตัว

+ ครม. เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 จำนวน 3.35 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่กำหนดไว้ที่ 3.185 ล้านล้านบาท เป็นจำนวน 165,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.18%

ปัจจัยลบ –

– จีนระงับการออกวีซ่าให้แก่ผู้ที่เดินทางจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ เพื่อตอบโต้ต่อการที่ทั้งสองประเทศออกมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อผู้ที่เดินทาง

– หอการค้าไทยคาดส่งออกไทยปี 2566 เสี่ยงติดลบ 0.5% ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 3 ปี จาก 7 ปัจจัยเสี่ยง เศรษฐกิจโลก ด้าน สรท. แนะแบงก์ชาติดูแลค่าบาทให้เหมาะสม

– มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยปี 66 ภายใต้ปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยที่ต้องติดตามต่างๆ ว่าคาดว่ามูลค่าการส่งออกของไทย ปี 66 จะอยู่ที่ 295,203 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 1.0% หรือมีช่วงคาดการณ์ระหว่าง 290,819-296,665 ล้านเหรียญฯ ติดลบ 0.5% ถึงบวก 1.5% ต่ำสุดในรอบ 3 ปีนับจากปี 63 เป็นต้นมา

+/- FETCO เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ผลสำรวจใน เดือน ธ.ค.65 พบว่าดัชนีในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่  121.75 ลดลง 2.1% จากเดือนก่อนหน้า แต่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มียังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็น มาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,685 – 1,700 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ช้อปดีมีคืนปี 66 : BJC CPALL MAKRO CRC COM7 SPVI CPW JMART HMPRO ZEN M AU
  • การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่องและจีนเปิดประเทศ : MINT CENTEL ERW SPA AU SHR
  • หุ้นโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากรายได้ปรับขึ้นตามค่า FT แต่ต้นทุนเริ่มคงที่ : GPSC BGRIM RATCH
  • หุ้นยั่งยืนด้านพลังงานหมุนเวียน : EA TSE SSP SUPER PRIME
  • หุ้นได้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้า : EA GPSC BCP OR DELTA
  • หุ้น mai เด่นปี 66 : SPA D CEYE AU
  • หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BBL COM7 CPALL

หุ้นรายงานพิเศษ

PT ( “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 6.50 บาท) การลงทุนของลูกค้าเริ่มกลับมา

  • แนวโน้มผลประกอบการช่วงที่เหลือของปี 22 ต่อเนื่องถึงปี 23 ยังเติบโตได้ดี จากอานิสงส์ของการเปิดประเทศ ทําให้การดำเนินกิจกรรมต่างๆ และการลงทุนของลูกค้าเริ่มกลับมา โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มธุรกิจโรงแรม ประกอบกับความต้องการทํา Digital, Transformation และ Cyber Security ที่ยังอยู่ในระดับสูง เราคงประมาณการรายได้ปี 22-23 ที่ระดับ 2,351.0 ล้านบาท และ 2,524.3 ล้านบาท เติบโต +11.7%YoY และ +7.4%YoY พร้อมคงกำไรสุทธิปี 22-23 ที่ระดับ และ 133.6 ล้านบาท และ 140.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +46.5%YoY และ +2.9%YOY ตามลำดับ
  • ความเห็น เราประประเมินมูลค่าถึงค่าเฉลี่ย PER ย้อนหลัง 3 ปี ที่ 13.0 เท่า ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 6.50 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” โดยคาดหวังอัตราผลตอบแทนเงินปันผลราว 6% ต่อปี

หุ้นมีข่าว

(+) TPIPP (Bloomberg consensus 3.60 บาท) เผยมีคาร์บอนเครดิตสะสมพร้อมขาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอขึ้นทะเบียนให้เป็นสากล เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขายราคาดี ขณะที่เดินหน้าขยายโซลาร์ฟาร์ม 60 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าขยะชุมชน 7.9 เมกะวัตต์ ดันกำลังผลิตปี 2566 ทะลุ 507.9 เมกะวัตต์ แถมร่วมประมูลพลังงานทดแทนรัฐ 1.5 พันเมกะวัตต์ มั่นใจปี 2566 รายได้รวมเกิน 1 หมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WPH (Bloomberg consensus – บาท) ปักธงแผนงานปี 2566 รายได้รวมเติบโตสูงกว่า 20% จากปีก่อน ยิ้มรับเปิดประเทศนักท่องเท่ียวต่างชาติทะลักภาคใต้ พร้อมรับอานิสงส์ทางอ้อมจีนกลับเข้าเที่ยวไทย ชูอัตราการใช้พื้นที่เตียง OPD-IPD รพ.ตรัง-รพ.กระบี่ยังสูงกว่า 90% เดินหน้าสร้าง รพ.สมุย คาดแล้วเสร็จเปิดให้บริการในกลางกุมภาพันธ์ 2566 น้ี แย้มไม่เกินมีนาคม 2566 มีข่าวดี (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) VRANDA (Bloomberg consensus 9.43 บาท) เผยจีนเข้าไทยหนุนยอดจองเพิ่ม แถมนักท่องเที่ยวต่างชาติคึกคัก เผยสมุยยอดจองกว่า 80% รายได้ค่าห้องพักปรับขึ้น ลุ้นทั้งปี 2556 คาดอัตราการเข้าพักไม่ต่ำกว่า 60% จากไตรมาส 4/2565 ที่ทำได้ราว 65% ส่วนรายได้เติบโต 20% มองเป้าหมาย “เขาใหญ่” สร้างโรงแรมต่อไป (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NER (Bloomberg consensus 7.60 บาท) ตั้งเป้าปี 2566 ปริมาณขายรวมที่ 5 แสนตัน รายได้แตะ 3 หมื่นล้านบาท จากปริมาณออเดอร์จากลูกค้า-ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศของจีน พร้อมรุกตลาดอินเดียเพิ่มยอดขายอีก 10% จากกำลังการผลิตทั้งหมด อัดงบลงทุน 400 ล้านบาท ปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต – ลงทุนงานวิจัยและพัฒนา (R&D) (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 11 ม.ค. ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)
  • ภายใน 21 ม.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินปี 65
  • สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
  • สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
    • กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
    • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม
  • 25 ม.ค. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 1/2566
    • กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • 31 ม.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
  • 6 ก.พ. พาณิชย์ รายงาน CPI เดือนม.ค.

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 11 ม.ค. สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 12 ม.ค. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.
    • สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.
  • 13 ม.ค. จีน รายงานยอดนำเข้า, ส่งออก และดุลการค้าเดือนธ.ค.
    • อียู รายงานดุลการค้าเดือนพ.ย.
    • สหรัฐ รายงานราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จาก มหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • 17 ม.ค. จีน รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนธ.ค. ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2565
  • 31 ม.ค. – 1 ก.พ. กำหนดการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
- Advertisement -