Our View? “ถึงเวลาต้องพัก”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,678 / 1,670 และแนวต้านที่บริเวณ 1,690 / 1,695 ยังคงให้น้ำหนักต่อการติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในค่ำคืนนี้ โดยล่าสุดคาดจะออกมาที่ระดับ +6.5% YoY และ -0.1% MoM จากเดือนก่อนอยู่ที่ระดับ +7.1% YoY และ +0.1% MoM สะท้อนทิศทางเงินเฟ้ออยู่ในภาพของการปรับลดลงต่อเนื่อง กระตุ้นความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้นและอาจหยุดการขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้ ทำให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดอยู่ที่ระดับ 5.00% ต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 5.25% อย่างไรก็ตาม เรามองตลาดมีมุมมองที่ผ่อนคลายเกินไปต่อตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐ เรามองแม้อัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวลดลงแต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง โดยเฉพาะเงินเฟ้อที่มาจากภาคการบริการที่ยังอยู่ในระดับกว่า 3.9% ในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ FED ในหลายสาขายังคงหนุน FED ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเหนือ ระดับ 5.00% เพื่อกดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2.00% คาดจะเป็นปัจจัยลดทอนความคาดหวังของ ตลาดได้บ้างเล็กน้อย
อีกทั้งเรายังมุมมองเชิงลงอ่อนๆ ต่อการที่ธนาคารโลก (World Bank) ออกรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี’66 คาดจะเติบโตเพียงระดับ 1.7% ต่ากว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ 3.0% จากการได้รับผลกระทบต่อธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลกปรับขึ้นดอกเบี้ย และความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงลบกดดันทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้างเล็กน้อย
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นปิดที่ระดับ 77.41 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.29 ดอลลาร์ (+3.05%) ยังคงได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากความคาดหวังอุปสงค์น้ำมันวะฟื้นตัวขึ้นจากการที่จีนเปิดประเทศ อีกทั้งคาดการณ์การผลิตน้ำมันของรัสเซียคาดจะลดลงต่อเนื่องจากการออกมาตรการคว่ำบาตรของหลายๆ ประเทศ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์กลับขึ้นบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรายังมองความเสี่ยงในด้านของสหรัฐ-ยุโรปมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดยังเป็นปัจจัยจํากัด Upside ของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานได้อยู่
สำหรับปัจจัยในประเทศเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทยคาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 1 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกินกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 ล้านคนได้ในปี’66 เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง เป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB และ TKN รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่ม Health Care อาทิ BH, BDMS, BCH, PR9, WPH, CHG, EKH, MEGA และ HL จากคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีนคาดอาจส่งผลให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก มองชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามา เพื่อใช้บริการฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพมากขึ้น
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “PLANB”
กลยุทธ์ ย่อซื้อ แนวรับ 7.96 / 7.80 Target 9.00 / 9.50 Stop <7.70