Daily Focus: Test 1,695+- Again

2023SET Target: 1760

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัวออกข้างลดความร้อนแรงในช่วงก่อนหน้าเป็นวันที่ 2 โดยดัชนีปิดลบ 5.66 จุด ถ่วงโดยแรงขายในกลุ่มค้าปลีกและ Reopening ที่บวกแรงในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถาบันในประเทศขายสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่นต่อเนื่องอีก 2.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องแต่ลดลงเหลือ 939 พันลบ. (และ Short Index Futures เร่งขึ้นเป็น 9 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะฟื้นตัวขึ้นทดสอบ High เดิมบริเวณ 1,695+- จุด จาก Sentiment บวกของตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ฟื้นตัวดี โดยได้อานิสงส์จากความคาดหวังเชิงบวกต่อตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. ที่จะประกาศคืนนี้ว่าจะออกมาอ่อนตัวลง และหนุนให้ FED ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยเหลือ 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. ซึ่งจะทำให้แนวโน้มและโอกาสเกิด Recession ในระยะถัดไปจะลดลงหรือไม่รุนแรงมากเท่าที่ประเมินก่อนหน้า ส่งผลให้ Bond Yield ทยอยปรับลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง หุ้น Growth และ Tech ที่เคยเทรด PER สูงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มกลับมา Outperform วันนี้ ในทางกลับกันด้วยดัชนีที่ปรับตัวขึ้นรับความคาดหวังเชิงบวกไปมาก หากเงินเฟ้อออกสูงกว่าคาด มีโอกาสที่ตลาดจะเผชิญแรงขายอย่างหนาแน่นเช่นกัน ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสยังอยู่ที่การเมืองเนื่องจากเข้าใกล้การเลือกตั้งทั่วไปมากขึ้น และมีโอกาสเกิดการยุบสภาก่อน ส่วนภาพเศรษฐกิจยังมองบวกในฝั่งการบริโภคและการท่องเที่ยว ระยะกลาง-ยาวเรายังชอบกลุ่ม Domestic/Reopening Play โดยมองจังหวะพักฐานเป็นโอกาสทยอยสะสม

กลยุทธ์ : ระยะกลาง-ยาวยังชอบกลุ่ม Domestic และ Reopening Play // ระยะสั้นเก็งกำไรหุ้น Growth และ Tech ที่ Laggard ตลาด

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : AAV, BCP, CENTEL, M, MAKRO

หุ้นเด่นวันนี้ : PRM

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 9.60 บาท
  • โมเมนตัมกำไรปกติ 4Q22 คาดยังแข็งแกร่งต่อเนื่องเพราะเรือ VLCC ลำที่ 3 ทำงานเต็มไตรมาส รวมถึงการ Reopening หนุนปริมาณขนส่งน้ำมันยังอยู่ในระดับที่ดี นอกจากนี้ยังได้อานิสงส์จากบาทแข็งที่คาดมีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
  • เราคาดกำไรปกติปี 2022-2023 +46% Y-Y และ +14% Y-Y ตามลำดับ ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด 2023PER เพียง 12 เท่า ต่ำกว่าในอดีตก่อน COVID-19 ที่ราว 20 เท่า
  • แนวรับ 7.40-7.30 บาท แนวต้าน 7.75//8 บาท

Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคบางลงเหลือ US$260 ล้าน ยังคงนำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$177 ล้าน และ US$147 ล้าน ตามลำดับ ส่วนอาเซียนเม็ดเงินค่อนไปในทิศทางไหลออก นำโดยอินโดนีเซีย US$84 ล้าน แต่ยังไหลเข้าไทยสูงสุด แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้คาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่พุ่งขึ้นเมื่อคืน ตลาดคาดหวังเชิงบวกกับตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯเดือน ธ.ค. ที่จะประกาศคืนนี้ว่าจะชะลอตัวลง

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) จับตาเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯเดือน ธ.ค. คืนนี้ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป Flat M-M, +6.5% Y-Y ชะลอตัวจากเดือน พ.ย. ที่ +0.1% M-M, +7.1% Y-Y ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานคาด +0.3% M-M เร่งขึ้นเล็กน้อยจากเดือน พ.ย. ที่ +0.2% M-M แต่คาด +5.7% Y-Y ลดลงจากเดือนก่อนที่ +6% Y-Y หากออกมาตามคาดหรือต่ำกว่าคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง และเพิ่มโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. นี้ Bond Yield มีแนวโน้มปรับตัวลงและคาดผ่าน Peak แล้ว

(-) TACC คาดกำไร 4Q22 -11% Q-Q, -14% Y-Y แม้รายได้จะเติบโตตาม 7-11 และ High Season ของธุรกิจ แต่คาด Gross Margin จะยังปรับลงและต่ำสุดในรอบ 10 ไตรมาส จากต้นทุนนมผงที่ต้องนำเข้าและค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้น ทำให้กำาไรปี 2022 คาดจบที่ +13% Y-Y แนวโน้มกำไร 1Q23 คาดฟื้นตัวอย่างช้าๆ และจะชัดเจนขึ้นใน 2Q23 ระยะสั้นยังขาด Catalyst ใหม่ อย่างไรก็ตาม ประมาณการกำไรปี 2023 ที่คาด +10% Y-Y ที่ค่อนข้าง Conservative คาดยังเป็นไปได้ คงราคาเป้าหมาย 10 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ITC คาดกำไร 4Q22 -41% Q-Q จาก Low Season แต่ยัง +47% Y-Y ในฝั่งรายได้ เราคาดว่ายังเติบโตแข็งแกร่ง และสูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง แต่ Margin คาดปรับตัวลงจากทั้ง Utilization Rate ที่ลดและค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A คาดปรับขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y จากการ IPO อย่างไรก็ตาม ภาพรวม 4Q22 ถือว่าดีกว่าที่เคยประเมิน ขณะที่แนวโน้มปี 2023 คาดยังเห็นการเติบโตที่แข็งแรงในฝั่งคำสั่งซื้อ และช่วยลดผลกระทบเชิงลบจากบาทแข็งได้ เราคาดกำไรปกติปี 2022-2023 +66% และ +17% Y-Y ตามลำดับ ประเมินราคาเป้าหมาย 40 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER เพียง 18 เท่าต่ำกว่าผู้เล่นอื่นในอุตสาหกรรมที่ 20-25 เท่า แนะนำ “ซื้อ” (Finansia เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายฯ)

 

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 268.91 จุด หรือ + 0.80% ปิดที่ 33,973.01 จุด โดยตลาดคาดว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะชะลอตัวลง หนุนให้ FED ชะลอการขึ้น ดอกเบี้ยในระยะถัดไป

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากความคาดหวังว่าเงินเฟ้อของสหรัฐและยูโรโซนจะลดลง หนุนให้ธนาคารกลางทั้ง FED และ ECB ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

(+) ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดบวก แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อสหรัฐในเดือน ธ.ค. จะชะลอลง

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 33.32 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 2.29 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 77.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซียจะลดลงเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตร ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 77.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หรือ 0.43%

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,878.9 ดอลลาร์/ออนซ์ จากปรับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,881.8 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ +0.15%

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 912.43 / -1.74

- Advertisement -