ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์
SET Index ปิดลบ 6 จุด (-0.34%) ปิดที่ 1,682 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนเทขายหลังดัชนีไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,695 จุด ขึ้นไปได้ นำลงโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA)
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET แกว่งตัว 1,675 – 1,695 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุน Fund flow ต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นรวมถึงความคาดหวัง FED ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว (US bond yield อ่อนตัวลง) อย่างไรก็ตามแรงขายตามสัญญาณเทคนิคจะกดดันให้ดัชนีระยะสั้นสลับอ่อนตัวลง
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- AOT AAV BA CENTEL ERW MINT AWC SHR CPALL CRC CPN SPA PTTGC SCGP CBG EKH MEGA KISS อานิสงส์จีนเปิดประเทศ
- MTC SAWAD KTC AEONTS THANI ASK KCE HANA อานิสงส์ Bond yield อ่อนตัวลง
- PTTEP TOP BCP ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้
- CENTEL (ปิด 51 ซื้อ/เป้า สูงสุด BB Consensus 60 บาท) แนวโน้มผลกำไรจะปรับตัวดีขึ้นตามฤดูกาล และได้ประโยชน์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.2 ล้านรายในเดือน ธ.ค. นอกจากนี้ระยะสั้นยังได้ผลบวกจีนเปิดประเทศ และน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- GFPT (ปิด 13.70 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 14.20 บาท) ตรุษจีนหนุนยอดขายความต้องการอาหาร ไก่ เพื่อนำมาเป็นของไหว้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสส่งออกมากขึ้นหลังญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลักสั่งกำจัดสัตว์ปีกกว่า 10 ล้านตัวจากไข้หวัดนกระบาด
บทวิเคราะห์วันนี้: THCOM (ปิด 16.3 ซื้อ/เป้าใหม่ 11.7 เดิม 9.4)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ตัวเลข ส่งออก/นำเข้า จีนไม่ดี เป็น Sentiment ลบแค่ช่วงสั้น: โดยจีนมียอดส่งออกเดือน ธ.ค. -9.9%yoy แย่ลงเมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.ที่ -8.9%yoy ส่วนยอดนำเข้า -7.5%yoy จาก -10.6%yoy ในเดือน พ.ย. เรามองเป็นผลกระทบช่วงสั้นเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วและตลาดน่าจะมุ่งเป้าไปที่ตัวเลขเดือน ม.ค. มากกว่าซึ่งคาดว่าจะเริ่มได้ผลบวกจากจีนเปิดประเทศ
(+) กลุ่มธนาคารประกาศงบ 4Q22 จับตา TISCO ประกาศเจ้าแรกวันนี้: เบื้องต้นเราคาดว่ากลุ่มธนาคารที่เราดูแล (6 แบงก์) จะมีกำไรสุทธิรวม 3.88 หมื่นล้านบาท -8.6%qoq แต่เพิ่มขึ้น 15.4%yoy โดย BBL คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเด่นสุดของกลุ่มโดยคาดกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.3%qoq และ 25%yoy
(+) เงินบาทยังแข็งค่า ทุนสำรองฯเพิ่มขึ้นและคาดแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย: ล่าสุดค่าเงินบาทแข็งค่าแตะระดับ 32.81 บาทต่อดอลลาร์แข็งค่ามากสุดในรอบ 9 เดือน คาดหวังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ยหลังจากเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มชะลอตัว กิจกรรม ศก. ไทยค่อยๆ ฟื้นตัว ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 และ สัปดาห์หน้าคาดแบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.5%
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+) กสทช. จัดประมูลวงโคจรดาวเทียมประจําที่ วันที่ 15 ม.ค. 2566 โดยเรียงลําดับจากการจับสลาก เริ่มต้ังแต่ชุดที่ 4,3,5,2 และ 1 โดยขายออก 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 4,3 และ ชุดที่ 2 รวมเป็นเงินประมูลส่งเข้ารัฐ 806,502,650 บาท ( ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยเข้าร่วมประมูลประกอบด้วย บริษัท สเปซ เทค อินโนเวชั่น จํากัด ในเครือ บริษัท ไทยคม จํากัด (มหาชน),บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จํากัด (มหาชน) หรือ เอ็นที และ บริษัท พร้อม เทคนิคคอล เซอร์วิสเซส จํากัด
สหรัฐ
(+/-) นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งขยายเพดานหนี้สหรัฐ ก่อนที่หน้ีสินของสหรัฐจะแตะเพดานในวันที่ 19 ม.ค.
ยุโรป
(+) สํานักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษเปิดเผยในวันนี้ (13 ม.ค.) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอังกฤษเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ซึ่งสวนทางกับผลสํารวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์โดยสํานักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะหดตัวลง 0.2% ในเดือนพ.ย.จากระดับในเดือนต.ค.
เอเชีย
(+) บริษัท BYD Auto Co ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สัญชาติจีนวางแผนที่จะสร้างโรงงานในเวียดนามเพื่อผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าว ความเคลื่อนไหวที่จะช่วยลดการพึ่งพาจีนของบริษัท และเพิ่มห่วงโซ่อุปทานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มากขึ้นที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายสู่ท่ัวโลก
