Our View? “รอจังหวะ”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,675 / 1,665 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685 / 1,695 แม้คาดว่าตลาดอาจจะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากต่างประเทศบ้างเล็กน้อย ตามทิศทางตลาดโลกที่ทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ตามความคาดหวังธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยลงอีก หลังอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในภาพการปรับลดลงต่อเนื่อง โดยล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ที่ความน่าจะเป็น 94.0%+/- สู่ระดับ 4.50- 4.75% ก่อนจะขึ้นอีกครั้งที่ระดับ 0.25% ในเดือน มี.ค. เป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้สู่ระดับ 4.75-5.00% ถือเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าที่ตลาด และ FED คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า กดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่องล่าสุดอยู่ที่ระดับ 102.0+/- คาดจะหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ดี เราแนะนำให้ติดตามถ้อยแถลง FED หลังการประชุม FOMC เดือน ก.พ. เพื่อประเมินแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินของ FED ในปีนี้อีกครั้ง อีกทั้งยังต้องติดตามประเด็นการอนุมัติกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ คาดอาจเป็น Noise รบกวนตลาดได้บ้างในระยะสั้น
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.พ. รีบาวด์ขึ้นต่อ ปิดที่ระดับ 79.86 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.47 ดอลลาร์ (+1.88%) ได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐเช่นกัน รวมทั้งยังคงได้รับแรงหนุนระยะสั้นจากความคาดหวังอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวขึ้นจากการที่จีนเปิดประเทศ อีกทั้งคาดการณ์การผลิตนํ้ามันของรัสเซียคาดจะลดลงต่อเนื่องจากการออกมาตรการคว่ำบาตรของหลายๆ ประเทศ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานรีบาวด์กลับขึ้นบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เรายังมองความเสี่ยงในด้านของสหรัฐ-ยุโรปมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานได้อยู่
สำหรับปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ เราแนะนำติดตามการเริ่มรายงานผลประกอบการ 4Q65 ของหุ้นในกลุ่มธนาคารคาดมีโอกาสชะลอตัวลงไปบ้างเล็กน้อย โดย Bloomberg Consensus คาดจะปรับตัวลดลง -1.03% QoQ แต่ +23.90% YoY ตามปัจจัยฤดูกาลมองเป็นปัจจัยระยะสั้นหนุนแรงขายทำกำไรได้บ้างเล็กน้อย รวมทั้งยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของ DELTA ต่อ หลังเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรบ้างแล้ว จากการเก็งกำไรขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ก่อนหน้า คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นได้ อย่างไรก็ดี เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่เศรษฐกิจไทย คาดจะได้รับประโยชน์จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนซึ่งหายไปนานกว่า 3 ปี โดยในช่วงก่อนเกิดสถานการณ์ COVID-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยราว 11 ล้านคน คิดเป็นราว 30% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด คาดส่งผลให้คาดการณ์ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้เกินกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 25 ล้านคนได้ในปี’66 เป็นปัจจัยบวกหนุนเศรษฐกิจในประเทศในส่วนของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้อย่าง แข็งแกร่ง คาดยังเป็นปัจจัยบวกหนุนหุ้นในกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการที่จีนเปิดประเทศ อาทิ AOT, AAV, BA, CENTEL, MINT, ERW, AWC, SPA, AU, BAFS, MBK, VGI, PLANB และ TKN รวมทั้งเรายังชอบหุ้นในกลุ่ม Health Care อาทิ BH, BDMS, BCH, PR9, WPH, CHG, EKH, MEGA และ HL จากคาดการเปิดประเทศที่เร็วเกินไปของจีน คาดอาจส่งผลให้ COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดได้มากขึ้นอีกครั้ง แต่คาดว่าจะไม่ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากนัก มองชาวจีนบางกลุ่มอาจเข้ามาเพื่อใช้บริการฉีดวัคซีนและดูแลสุขภาพมากขึ้น
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “AWC”
กลยุทธ์ ซื้อเล่นสั้น แนวรับ 6.10 / 5.95 Target 6.50 / 6.60 Stop <5.90