ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ฟื้นตัวได้บ้าง ภาพใหญ่ยังคงแกว่งตัวในกรอบ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์รีบาวด์ได้บ้าง แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด…. หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าที่เราคาดการณ์ ตามแรงขายหุ้น DELTA* (-4.82%) ซึ่งตัวเดียวมีผลลบต่อดัชนีฯ ถึง 4.2 จุด ขณะที่ฟันด์โฟลว์ต่างชาติชะลอตัวลงแม้ว่ายังซื้อสุทธิอยู่… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นบวกเล็กน้อย กล่าวคือ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นในกรอบแคบๆ หลังจากผลประกอบการไตรมาส 4/2565 ของธนาคารใหญ่อย่าง Bank of America และ JP Morgan Chase สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ ม.มิชิแกนดีกว่าที่คาดการณ์เช่นกัน ii) อย่างไรก็ดี ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ หลังจาก CEOs ของธนาคารใหญ่ทั้งสอง เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ น่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงกลางปี 2566 (อย่างที่เรียกกันว่า technical recession) ดังนั้น นักลงทุนจึงควรติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เช่น ตัวเลขยอดค้าปลีก รวมทั้งตัวเลขหลักๆ ในภาคอสังหาริมทรัพย์… ด้านปัจจัยภายในประเทศ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวน่าจะมีต่อเนื่อง ล่าสุดทางสนามบินสุวรรณภูมิคาดว่าจะรับนักท่องเที่ยวมากถึง 1.8 ล้านคนในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ (อ่านเพิ่มเติมในวิเคราะห์ข่าว วันนี้)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร ASK, ADVANC*, AMA

  • ASK (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 35 บาท / แนวต้าน 37 – 38.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมิน มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 41 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินแนวโน้ม Sentiment บวกจาก i) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งการ ได้ปรับเรตติ้งขึ้นเป็น A ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (เดิม BBB+) ii) คาดการเปิดประเทศ (ไทย – จีน) หนุนโอกาสการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุก (การขนส่งพื้น) + รถบัส (การท่องเที่ยวฟื้น) 3) Consensus คาดจ่ายปันผลสำหรับปี 2565 หุ้นละ 1.437 บาท (Yield 4.0%) และคาดกำไรปี 2566 โต +20% YoY หนุนให้ Forward PE บนประมาณการฯปี 2566 ต่ำเพียง 10.5 เท่า
  • ADVANC* (เป้า IAA Consensus 235 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 200 บาท / แนวต้าน 204 – 207 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-212 บาท (Stop loss 197 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้น Big cap ที่ยัง Laggard ขณะที่คาดเศรษฐกิจฟื้นตัว + ภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมฯจะลดลง หลังคู่แข่งขันในตลาดฯลดลง (TRUE* ควบรวม DTAC*) ส่งผลให้แนวโน้มกำไรของ ADVANC* จะฟื้นตัวดีตั้งแต่ 4Q65 และคาดกำไรปี 2566 โต +10% YoY 3) Consensus คาดปันผลส่วนของ 2H65 = 3.9 บาท/หุ้น (Yield 1.9%) และคาด Dividend yield เฉลี่ยปี 2566 +/- 4% 4) Catalyst บวกอื่นๆ ที่คาด Consensus ยังไม่รวมในประมาณการฯ i) การเข้าซื้อ TTTBB คาดจะแล้วเสร็จภายใน 1H66 ii) การทำธุรกิจ Virtual Banking จากการจับมือกับ KTB*
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 5.65 บาท / แนวต้าน 5.8 – 5.9 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 6.2 บาท (Stop loss 5.5 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q65 ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 198 ล้านบาท (+289% YoY, +7% QoQ) จากอุปทานเรือขนส่งน้ำมันปาล์มในภูมิภาคที่ลดลง ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากจีน 3) Forward PE ปี 2565 ต่ำเพียง 6.5 เท่า คาดปันผลปี 2565 หุ้นละ 0.45 บาท (Dividend yield 7.9%)

หุ้นมีข่าว

(+) รถไฟฟ้าสีส้มคืบจ่อครม. CK* พร้อมจัดหา-ก่อสร้าง (ทันหุ้น) รถไฟฟ้าสายสีส้มฉลุย ผ่านด่านสำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ส่งคืนบอร์ด รฟม. พิจารณาก่อนส่งคมนาคม เสนอ ครม. เพื่อเซ็นสัญญา คาดจบไตรมาส 1 ด้าน CK* ประกาศพร้อมเร่งรัดงานจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสายสีส้มทันทีที่ลงนามสัญญา มั่นใจแรงงานเพียงพอรับงานขนาดใหญ่หลายโครงการพร้อมกัน

(+) บอร์ด WICE ไฟเขียวทุ่มงบ 170 ล้านบาท ลุยซื้อหุ้นคืน 13 ล.หุ้น (ทันหุ้น) บอร์ด WICE ไฟเขียวทุ่มงบ 170 ล้านบาท เตรียมซื้อหุ้นคืนในตลาดไม่เกิน 13 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 2% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เริ่มดีเดย์ 19 มกราคม-18 กรกฎาคม 2566 นี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุน รวมถึงบริหารสภาพคล่องทางการเงินและเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้น ตอกย้ำฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง

(+) TSR ร่วมลงทุนคอนเนคเทครับสมาร์ทโฮม (ทันหุ้น) บอร์ด TSR ไฟเขียวลงทุนในบริษัท คอน เนคซ์เทค จำกัด ถือหุ้น 51% รุกธุรกิจแพลตฟอร์มระบบสัญญาณกันขโมย รวมถึงอนุมัติเพิ่มทุน “เธียรสุรัตน์ ลีสซิ่ง” จากทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท หนุนอนาคตเติบโตก้าวกระโดด

(+) EA* ส่งหัวรถจักรไฟฟ้าพลังงานแบตฯ เริ่มวิ่งสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (ข่าวหุ้น) EA* ร่วมกับ CRRC Dalian ผู้ผลิตรถไฟรายใหญ่จากจีน ส่งหัวรถจักรไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ “MINE Locomotive” ทดลองวิ่งจริงสู่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประหยัดต้นทุนพลังงานได้กว่า 40%

(+) ส่งออกไปจีนคึกคัก อานิสงส์เปิดประเทศ สรท.ลุ้นตัวเลขโต 7% (ฐานเศรษฐกิจ) สรท.ลุ้นส่งออกไทย ไปจีนปี 66 กลับมาขยายตัวได้ 5-7% รับจีนเปิดประเทศ เคลื่อนเศรษฐกิจขยายตัว ผลไม้สด ยางพารา เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ คาดพลิกบวก หลังปี 65 ติดลบ ม.หอการค้าไทยมองต่างคาดโตได้แค่ 0.5-1% หลังโควิดจีนยังระบาดหนัก จับตาฉุดการบริโภค นำเข้า-ส่งออก ยังชะลอตัว

(+) นายกิตติพงษ์ กิตติขจร ผู้จัดการสนามบินสุวรรณภูมิ คาดว่า สนามบินสุวรรณภูมิจะรับนักท่องเที่ยว ประมาณ 1.8 ล้านคนในช่วงตรุษจีนระหว่างวันที่ 16-28 มกราคม 2566 (ประมาณ 1.39 แสนคน/วัน) (กรมประชาสัมพันธ์) เรามองข่าวดังกล่าวเป็นบวกอย่างชัดเจนต่อธุรกิจท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AOT เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนถือว่ามีสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด (มากกว่า 27% ของทั้งหมด) ในช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19 ขณะที่ประเทศไทยได้เปิดประเทศแล้วในขณะนี้ โดยมีข้อจำกัดการเดินทางน้อยมาก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อผลประกอบการของ AOT นอกเหนือจากมาตรการความช่วยเหลือให้กับลูกค้าทั้งหมดจะสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคม 2566 จึงส่งผลบวกการฟื้นตัวของผลประกอบการระยะยาวที่ต่อเนื่อง ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2566 ไว้ที่ 81.00 บาท

(+ GULF*) วานนี้ (15 ม.ค. 66) กสทช. รายงานผลการประมูลใบอนุญาตให้ใช้สิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม ซึ่งมีผู้เสนอราคา 3 ชุด จาก 5 ชุด ผลสรุปคือ THCOM ประมูลชนะในดาวเทียมชุดที่ 2 วงโคจร 78.5E (ราคาสุดท้าย 380 ลบ. VS ราคาเริ่มต้น 360 ลบ.) และชุดที่ 3 วงโคจร 119.5E และวง 120E (ราคาสุดท้าย 417 ลบ. VS ราคาเริ่มต้น 397 ลบ.) ตามที่ตลาดคาด ส่วน NT ชนะชุดที่ 4 ในขณะที่ชุดที่ 1 และ 5 ไม่มีผู้ยื่นประมูล (Source: กสทช.) ทั้งนี้ขั้นตอนต่อไป > บอร์ด กสทช. จะรับรองผลประมูลอย่างเป็นทางการภายใน 7 วัน และกำหนดการชำระค่าประมูลเป็น 3 งวดในเวลา 6 ปี โดยต้องจ่ายงวดแรก (10%) ใน 90 วัน / งวดสอง (40%) ปีที่ 4 / และงวดสาม (50%) ปีที่ 6 ขณะที่ใบอนุญาตมีอายุ 20 ปี

ความเห็น: เรามองเป็น sentiment เชิงบวกกับ GULF* ในฐานะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ THCOM 41.13% โดยคาดว่าจะ ทำให้นักลงทุนมั่นใจและเห็น upside ด้านบวกมากขึ้นต่อ outlook ของ THCOM จากนี้ และอาจคาดหวังถึงการเติบโตที่เป็นไปในเชิงรุกมากขึ้น รวมถึง synergy เมื่ออยู่ภายใต้กับ GULF ทั้งนี้การแข่งขันประมูลวงดาวเทียมถือว่าไม่สูงมากนักรวมอยู่ที่ 797ลบ. (สำหรับ THCOM) โดยราคาสุดท้ายมากกว่าราคาเริ่มต้นไม่มาก

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนํา “Let profit run” โดยกําหนด Trailing stop: TISCO* (Trailing stop 101 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 32 บาท / แนวต้าน 35 – 36 บาท ผ่านกรอบนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) แนวรับ 155 บาท / แนวต้าน 159 – 161 (Trailing stop 153.5 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) แนวรับ 21.3 บาท / แนวต้าน 22.2 – 22.4 บาท (Trailing stop 21.3 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน 35 – 36 บาท (Trailing stop 33.5 บาท)
  • LEO (เป้า Consensus 14.1 บาท) แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 12.9 – 13.2 บาท (Stop loss 12.3 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 12.3 บาท) แนวรับ 10.9 บาท / แนวต้าน 11.7 – 12.0 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 19.4 บาท) แนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.1 – 18.4 บาท (Stop loss 17.8 บาท)
  • NEX (เป้า Consensus 23.3 บาท) แนวรับ 17.7 บาท / แนวต้าน 18.2 – 18.4 บาท (Stop loss 17.6 บาท)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 30.0 บาท / แนวต้าน 31.0 – 32.0 บาท (Stop loss 29.5 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 23.6 บาท / แนวต้าน 24.0 – 24.2 บาท (Stop loss 23.5 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 73.5 บาท / แนวต้าน 75.5 – 77.0 บาท (Stop loss 73.0 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 36.25 บาท / แนวต้าน 37.5 – 40.0 บาท (Stop loss 35.5 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินการกำหนดกรอบการออกใบอนุญาต Virtual banking โดย ธปท. จะยังไม่ทำให้ภาพรวมการแข่งขันในอุตสาหกรรมฯ เปลี่ยนแปลงไปในระยะสั้น เพราะต้องใช้ระยะเวลาทดลองดำเนินการ 3-5 ปี ทั้งนี้คาดว่าในจำนวนใบอนุญาต virtual bank 3 ใบที่ ธปท. จะออกให้ในรอบแรกนั้น กิจการโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่มีโอกาสจะได้สูง ในขณะที่ใบอนุญาตนี้อาจจะเป็นต้นทุนมากกว่าประโยชน์สำหรับธนาคารแบบดั้งเดิม อย่าง KBANK* และ SCB* เพราะทั้งสองธนาคารมีอัตราการใช้บริการ mobile banking อยู่แล้วถึง >80% ทั้งนี้ ยังคงแนะนำเลือกซื้อเป็นรายตัว โดยแนะนำ BBL* และ KTB*

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -