ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

แกว่งกรอบแคบๆ ต่อ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนวันนี้

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันอังคาร เทรดไซด์เวย์… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยบวกในกรอบแคบๆ (ตามคาด) เพราะฟันด์โฟลว์เข้าตลาดหุ้นยังคงชะลอตัว แม้ว่ายังอยู่ในฝั่งซื้อสุทธิ ขณะที่หุ้นซึ่งปรับขึ้นมาแรงในช่วงต้นปี เช่นกลุ่มการบริโภค และกลุ่มท่องเที่ยว ยังคงพักฐานต่อเนื่อง ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมต่อตลาดหุ้นเป็นกลางๆ กล่าวคือ i) ตลาดการเงินสหรัฐฯ ปิดทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องในวัน Martin Luther King Jr. ii) นักลงทุนยังคงชะลอเพื่อติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในฝั่งสหรัฐฯ เช่น ยอดค้าปลีก และตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ในวันนี้ ทางการจีนจะรายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2565 ซึ่ง consensus คาดว่า GDP ไตรมาสดังกล่าวจะชะลอตัว +1.8% YoY, -0.8% QoQ เนื่องจากผลกระทบของการปิดเมืองในช่วงดังกล่าว อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยฯ มองว่าตลาดรับรู้เศรษฐกิจจีนที่อ่อนแอในปลายปี 2565 ไปมากแล้ว และน่าจะให้น้ำหนักมากกว่ากับภาพการฟื้นตัวของจีนในปี 2566 หลังจากการเปิดประเทศมาเร็วกว่าที่คาดไว้… ด้านปัจจัยภายในประเทศ ค่าเงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง จึงยังสนับสนุนฟันด์โฟลว์ในภาพใหญ่ ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งในปีนี้ (อ่านเพิ่มเติมในบทวิเคราะห์เศรษฐกิจ เช้านี้ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปี 2566 เป็น 4.4% จากเดิม 4.1%)

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร SHR, ASK, ADVANC*

  • SHR (เป้าพื้นฐาน 4.9 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 4.28 บาท / แนวต้าน 4.4 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมิน มีโอกาสทดสอบกรอบแนวต้านถัดไป 4.6 – 4.7 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ คาดผลการดำเนินงานจะทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามอัตราการเข้าพักโรงแรมที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่มีการป้องกันความเสี่ยงเรื่องภาวะเงินเฟ้อในยุโรปไว้แล้ว ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯคาดปี 2566 จะพลิกกลับมามีกำไรครั้งแรกได้ราว 270 ล้านบาท … เราประเมินประมาณการฯของฝ่ายวิจัยฯ มี Upside จากกรณีที่จีนเปิดประเทศเร็วกว่าคาด 3) PBV ต่ำเพียง 0.91 เท่า ขณะที่คาดปีนี้ Turnaround
  • ASK (เป้าพื้นฐาน 57 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 35 บาท / แนวต้าน 37 – 38.5 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 41 บาท (Stop loss 34 บาท) 2) ประเมินแนวโน้ม Sentiment บวกจาก i) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งการได้ปรับเรตติ้งขึ้นเป็น A ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา (เดิม BBB+) ii) คาดการเปิดประเทศ (ไทย – จีน) หนุนโอกาสการเติบโตของสินเชื่อรถบรรทุก (การขนส่งพื้น) รถบัส (การท่องเที่ยวขึ้น) 3) + Consensus คาดจ่ายปันผลสำหรับปี 2565 หุ้นละ 1.4 บาท (Yield 4.0%) และคาดกำไรปี 2566 โต +20% YoY หนุนให้ Forward PE บนประมาณการฯปี 2566 ค่าเพียง 10.5 เท่า
  • ADVANC* (เป้า IAA Consensus 235 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 201 บาท / แนวต้าน 204 – 207 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-212 บาท (Stop loss 197 บาท) 2) ประเมินเป็นหุ้น Big cap ที่ยัง Laggard ขณะที่คาดเศรษฐกิจฟื้นตัว + ภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมฯจะลดลง หลังคู่แข่งขันในตลาดฯลดลง (TRUE* ควบรวม DTAC*) ส่งผลให้แนวโน้มกำไรของ ADVANC* จะฟื้นตัวดีตั้งแต่ 4Q65 และคาดกำไรปี 2566 โต +10% YoY 3) Consensus คาดปันผลส่วนของ 2H65 = 3.9 บาท/หุ้น (Yield 1.9%) และคาด Dividend yield เฉลี่ยปี 2566 +/- 4% 4) Catalyst บวกอื่นๆ ที่คาด Consensus ยังไม่รวมในประมาณการฯ i) การเข้าซื้อ TTTBB คาดจะแล้วเสร็จภายใน 1H66 ii) การทำธุรกิจ Virtual Banking จากการจับมือกับ KTB*

หุ้นมีข่าว

(-) ไฟค้างท่อเวียดระส่ำ! หุ่นโซลาร์ไม่ถึง 2 บาท บีกริม-กันกุล” ลั่น ใครทำไม่ไหวพร้อมเสียบแทน (ข่าวหุ้น) “เวียดนาม” หันโหดราคารับซื้อไฟฟ้าทดแทนที่ยังค้างท่อจ่ายไฟฟ้าไม่ทัน “โซลาร์ฟาร์ม” ราคารับซื้อแค่ 1.66 บาท “วินด์ฟาร์ม” สูงสุดแค่ 2.54 บาท ทำผู้ประกอบการกระอักเลือด BGRIM*-GUNKUL* ประกาศเปรี้ยง! ถือเป็นโอกาส โครงการไหนทำไม่ไหวพร้อมเข้าเสียบแทน วงในบีกริม มี EPC Financing ช่วย ได้เปรียบเรื่องต้นทุน “สมบูรณ์” ซีอีโอใหญ่กันกุล ส่งซิกล่าสุดมีเสนอตัวเข้ามาแล้ว 3-4 ราย ฟาก SSP ลั่นไม่กระทบ จ่ายไฟฟ้าครบหมดแล้ว

(-) กรุงเทพธนาคมสู้ BTS* ฟ้องรอบ 2 ปมค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวฯ (ข่าวหุ้น) “กรุงเทพธนาคม” เดินเกมสู้ BTS* หลังถูกฟ้องครั้งที่ 2 ให้ชำระหนี้ค่าเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายอีก 10,600 ล้านบาท ล่าสุดส่งทนายยื่นข้อมูลเพิ่มต่อศาลปกครอง ยันสัญญาจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย

(+) PTT* เร่งดีล ‘จีน-ยุโรป” ผลิตอีวี “ฟ็อกซ์คอนน์” ส่งทีมเซ็ตโรงงาน – จ้างงานทักษะสูง 2 พันอัตรา (กรุงเทพธุรกิจ) ส่งมอบรถคันแรกปี 67 เพิ่มกำลังผลิตแตะ 1.5 แสนคัน ปตท.เร่งเครื่องธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า “ฮอริบอนพลัส” ลุยแผนสร้างโรงงานผลิตอีวีในไทยที่ชลบุรี ตั้งเป้าส่งมอบคันแรกปี 2567 คาดผลิตได้ 5 หมื่นคัน ก่อนทยอยเพิ่มกำลังผลิตแตะ 1.5 แสนคัน เร่งปิดดีลลูกค้า “ยุโรป-จีน” คาดเจรจาสําเร็จอย่างน้อย 2 รายภายในไตรมาส 1 ปี 2566

(+) TISCO เล็งซื้อกิจการลีสซิ่งเพิ่ม เชื่อพิษคุมดบ.จ่อขายธุรกิจอื้อ (กรุงเทพธุรกิจ) “ทิสโก้” เล็ง เทคโอเวอร์ธุรกิจเช่าซื้อ หลังกฎหมายคุมดอกเบี้ยมีผลบังคับใช้ 10 ม.ค. 56 เชื่อมีบริษัทแบกต้นทุนไม่ไหวตัดขายธุรกิจ มองเป็นโอกาสท่ามกลางวิกฤติ “ศักดิ์ชัย” ลั่นปีนี้ ทุกธุรกิจเติบโต คาดสินเชื่อขยายตัว 5-10% พร้อมรุกสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง

(+) PSH จับมือ “เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง” ให้อินโน พรีคาสท์ สวอปหุ้น-หนุนรายได้พุ่ง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “พฤกษา โฮลดิ้ง” สวอปหุ้น “อินโน พรีคาสท์” ในเครือของพฤกษา 51% เพื่อลงทุนใน “เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง” 18.26% ราคาหุ้นละ 0.37 บาท รวมมูลค่า 582 ล้านบาท ดันให้ GEL ก้าวสู่ผู้ผลิตพรีคาสท์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย สร้างรายได้เท่าตัว ขณะธุรกิจพรีคาสท์ของกลุ่มพฤกษาได้ประโยชน์ ลดต้นทุน ขยายฐานลูกค้าใหม่

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop: TISCO* (Trailing stop 101 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 32.25 บาท / แนวต้าน 35- 36 บาท ผ่านกรอบนี้ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 31.5 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 186 บาท) แนวรับ 156 บาท / แนวต้าน 159-161 (Trailing stop 154 บาท)
  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 26 บาท) แนวรับ 21.4 บาท / แนวต้าน 22.2-22.4 บาท (Trailing stop 21.3 บาท)
  • COM7* (เป้าพื้นฐาน 37 บาท) แนวรับ 33.5 บาท / แนวต้าน 35-36 บาท (Trailing stop 33.5 บาท)
  • AMA (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) แนวรับ 5.65 บาท / แนวต้าน 5.85-6.2 บาท (Stop loss 5.5 บาท)
  • LEO (เป้า Consensus 14.1 บาท) แนวรับ 12.6 บาท / แนวต้าน 12.9-13.2 บาท (Stop loss 12.3 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 12.3 บาท) แนวรับ 10.9 บาท / แนวต้าน 11.7-12.0 บาท (Stop loss 10.7 บาท)
  • KTB* (เป้าพื้นฐาน 19.4 บาท) แนวรับ 17.8 บาท / แนวต้าน 18.1-18.4 บาท (Stop loss 17.7 บาท)
  • NEX (เป้า Consensus 23.3 บาท) แนวรับ 17.7 บาท / แนวต้าน 18.3-18.5 บาท (Stop loss 17.6 บาท)
  • BDMS* (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 29.75 บาท / แนวต้าน 31.0-32.0 บาท (Stop loss 29.5 บาท)
  • OR* (เป้าพื้นฐาน 33.5 บาท) แนวรับ 23.6 บาท / แนวต้าน 24.0-24.2 บาท (Stop loss 23.5 บาท)
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 74 บาท) แนวรับ 73.5 บาท / แนวต้าน 75.5-77.0 บาท (Stop loss 73.0 บาท)
  • BJC* (เป้า Consensus 38.7 บาท) แนวรับ 36.25 บาท / แนวต้าน 37.5-40.0 บาท (Stop loss 35.5 บาท)

สรุป Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • BH* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 250 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 4Q65 = 1.29 พันล้านบาท (+111.5% YoY, -13.8% QoQ) ฝ่ายวิจัยฯ ปรับประมาณการฯขึ้น และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” (เดิม “ถือ”) ปรับเป้าพื้นฐานขึ้นเป็น 250 บาท (เดิม 240 บาท)
  • TISCO* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 107.5 บาท รายงานกำไร 4Q65 = 1.8 พันล้านบาท (+2% QoQ, +1% YoY) เป็นไปตามคาด ฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน TISCO จะยังเป็นหุ้นปันผลสูง โดยคาด Dividend yield เฉลี่ยปีละ 7%

 

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -