บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Tisco Financial Group (TISCO.BK/TISCO TB)*

ผลประกอบการ 4Q65 และ ปี 2565: สินเชื่อเร่งตัวขึ้น

Event

กำไรสุทธิของ TISCO ใน 4Q65 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท (+2% QoQ, +1% YoY) เป็นไปตามประมาณการของเรา/Consensus ในขณะที่กำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท (+6.5%)

Impact

สินเชื่อที่เร่งตัวขึ้นช่วยหนุน NII และค่าธรรมเนียมจากสินเชื่อใน 4Q65

ใน 4Q65 ธนาคารเร่งขยายสินเชื่อ +3% QoQ และ +8% YoY โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อ yield สูง (+6% QoQ และเกือบ 20% YoY) และสินเชื่อ SME (ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับดีลเลอร์รถ) ในขณะที่สินเชื่อ H/P เพิ่มขึ้นเพียง 1% QoQ และลดลง 2% YoY ทั้งนี้ การเติบโตของสินเชื่อรายกลุ่มสะท้อนถึงเจตนาของบริษัทที่จะมุ่งขยายสินเชื่อที่มี yield สูงขึ้นเพื่อชดเชยต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ การขยายสินเชื่อเพิ่มขึ้นยังช่วยให้รายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อเพิ่มขึ้นด้วย ธุรกรรมการธนาคารหลักเพิ่มขึ้น 8% QoQ แต่ลดลง 20% YoY โดยค่าธรรมเนียมของ

Yield สินเชื่อเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้นมากกว่า

แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ yield ของสินทรัพย์เพิ่มขึ้นประมาณ 12bps QoQ และ 50bps YoY อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินเร่งตัวขึ้นประมาณ 17bps QoQ และ 30bps YoY ส่งผลให้ NIM ลดลงเล็กน้อย QoQ

NPL ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยที่คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น

ธนาคารตั้งใช้จะนำรายได้ส่วนเกิน และกำไรจาก FVTPL มาเพิ่มส่วนรองรับหนี้เสีย เพื่อขยายสินเชื่อ yield สูงเพิ่มขึ้น และเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจ ทั้งนี้ Credit cost เพิ่มขึ้นเป็น 70bps ใน 4Q65 และ 35bps YoY ทำให้สัดส่วน NPL coverage สูงถึงเกือบ 260%

แนวโน้มยังเป็นบวกในปี 2566

จากแนวโน้มสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้นในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมา ผู้บริหารของ TISCO คาดว่าโมเมนตัมของสินเชื่อจะเร่งตัวขึ้นอยู่ในช่วง 5-10% ในปี 2566 โดยเฉพาะในกลุ่มของสินเชื่อ yield สูงที่คาดว่าจะโตถึง +15% ในขณะเดียวกัน credit cost น่าจะสมดุล และยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งที่ระดับปัจจุบัน เราใช้สมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อที่ปีละ 7% ในช่วงปี 2566/2567, credit cost ที่ปีละ 60bps, NIM ทรงตัวในปี 2566 และ +7bps ในปี 2566, non-NII เพิ่มขึ้น +6%/+3% ตามลำดับ

ปรับประมาณการกำไรปี 2566/2567 เล็กน้อย -3.5%/+1.6% แต่คงราคาเป้าหมายปี 2566F ที่ 107.50 บาท

เราปรับประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนถึงการเติบโตที่ลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงขึ้น เรามองว่า TISCO เป็นหุ้นปันผล โดยใช้สมมติฐานว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 7% เมื่ออิงจาก payout ratio ที่ 80% ในปี 2565 (จาก 84% ในปี 2564) ทั้งนี้ เมื่อใช้ PBV ที่ 1.9x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 107.50 บาท ดังนั้น เราจึงยังคงคำแนะนำถือ TISCO

Risks

ส่วนต่างดอกเบี้ยลด รายได้ค่าธรรมเนียมโตต่ำกว่าคาด, ผลขาดทุน MTM จากการลงทุน

- Advertisement -