บล.บัวหลวง:

Thai Market Strategy – ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง …ฤดูปันผล

ตั้งแต่ตอนนี้ถึงสิ้นเดือน ก.พ. บริษัทหลักทรัพย์จะรายงานกำไรไตรมาส 4/65 และมีแนวโน้มที่จะประกาศอัตราการจ่ายเงินปันผล ตารางทั้ง 2 ด้านขวามือคือรายชื่อบริษัทที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลมากที่สุด โดยเราคาดจาก 1) เงินปันผลที่เหลือของปี 2565 และ 2) เงินปันผลเต็มปี 2566 โดยรายละเอียดทั้งหมดสำหรับเงินปันผลปี 2565 สามารถดูได้ในรูปท่ี 3 และ 4

17 หุ้นที่ให้ผลตอบแทนอย่างน้อย 4% สําหรับเงินปันผลที่เหลือของปี 2565

17 หุ้นที่เราให้คำแนะนำมีแนวโน้มที่จะจ่ายเงินปันผลที่เหลือ โดยมีอัตราผลตอบแทนอย่างน้อย 4% โดย 5 บริษัทน่าจะมีอัตราผลตอบแทนที่มากกว่า 7% กลุ่มขนส่ง (มี 2 บริษัทที่จะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างน้อย 7%) (ดูในตารางด้านขวามือ) กลุ่มพลังงาน (2 บริษัทที่จะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอย่างน้อย 7%) และธนาคารเล็ก (1 บริษัทที่จะให้ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 7%) เป็นกลุ่มที่น่าสนใจที่สุด สําหรับธีมเงินปันผลหุ้น 5 บริษัทจากกลุ่มอสังหาฯ ก็ติดอันดับเงินปันผลสูงสุดสําหรับปีนี้เช่นกัน หนุนมาจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ของที่อยู่อาศัย

อัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2565 ที่ 48% ตรงกับระดับปกติในอดีต

เราคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลปี 2565 ที่ 48% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับปกติในกรอบ 47-51% ในปีก่อนๆ เหตุผลคือหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจะรายงานกำไรที่ดีขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เราคาดอัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยปี 2566 จะยังคงอยู่ที่ 47% หนุนมาจากการฟื้นตัวของกำไรอย่างต่อเนื่อง หากมองในด้านบอนด์ยีลด์ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ปัจจุบันอยู่ที่ 2.4% (และ 3 ปีอยู่ที่ 1.7%) ซึ่งสําหรับอายุ 10 ปีน่าจะปรับตัว แคบลงในกรอบ 2-2.6% ในปีนี้ บนสมมุติฐานที่อัตราเงินเฟ้อของไทย คลี่คลายและความสัมพันธ์ระหว่างอัตราดอกเบี้ยไทยและอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ

หุ้นปันผลค่อนข้างน่าสนใจในช่วงที่บอนด์ยีลด์อ่อนตัว

อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังคลี่คลาย หนุนให้การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดน่าจะใกล้พีคแล้ว เราคาดดัชนีผู้บริโภคสําหรัฐจะชะลอตัวลงจาก 8% ในปี 2565 มาอยู่ที่ 2.7% ในปี 2566 นอกจากนี้เราคาดอัตราเงินเฟ้อของไทยจะลดลงจาก 6.1% ในปีก่อนมาอยู่ที่ 2.3% ในปี 2566 บอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวลงจะหนุนให้หุ้นปันผลน่าสนใจมากขึ้น COVID-19 ที่เริ่มเบาลงจะช่วยให้เศรษฐกิจมหภาคฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง ซึ่งจะหนุนต่อกำไรในทุกอุตสาหกรรม ความสามารถ ของบางบริษัทในการขึ้นราคา (สินค้าและบริการ) ทำให้หุ้นบางตัวมีความน่าสนใจมากกว่าหุ้นอื่นๆ เนื่องจากสามารถสร้างรายได้ในสภาวะเงินเฟ้อ

SETHD จะปรับตัวได้ดีกว่า SET ในช่วงฤดูปันผล

จากสถิติ SETHD รายงานผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปีที่เป็นบวก 1.7% (ค่ากลางของผลตอบแทน 10 ปีที่ 3.9%) โดยมีโอกาสสูงถึง 90% ในช่วงไตรมาสแรกของปี (ปี 2556-65) ซึ่งส่งผลให้ SETHD มีความน่าสนใจมากกว่า SET ในช่วงการจ่ายเงินปันผล (ไตรมาสแรก) โดยมีโอกาส 50% ที่จะปรับตัวได้ดีกว่า อิงจากสถิติย้อนหลัง

- Advertisement -