บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +14.0%

Close Jan 16, 2022 Price (THB) 191.50

12M Target (THB) 218.00

Previous Target (THB) 218.00

What’s new?

  • เราคาดกำไร 3Q66 (สิ้นสุด ธ.ค.55) ฟื้นตัว 9%YoY เติบโตตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ซึ่งสถานการณ์ขาดแคลนชิพคลี่คลาย
  • แนวโน้ม 4Q66 ถึงปี 2567 ทิศทางสดใส คาดยอดผลิตรถอุตสาหกรรมฟื้นตัว 5% ขณะที่ราคาวัตถุดิบเริ่มปรับลดลง
  • มองประเด็น ฮอนด้าประกาศแผนลงทุนผลิต EV ในไทย เป็นบวกต่อ STANLY มากสุด เนื่องจากเป็นลูกค้ารายใหญ่ ซึ่งเตรียม Lampe รองรับแล้ว

Our view

  • เราแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าผลประกอบการเริ่มฟื้นตัวดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ขณะที่ระยะยาวการเข้ามาของ EV เรามองเป็นวัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ ของบริษัท เราประเมินมูลค่าพื้นฐานในปี 2566 ที่ 218 บาท อิง PER เฉลี่ยที่ 11X

THAI STANLEY ELECTRIC กำไรเข้าช่วงฟื้นตัว ฮอนด้าเริ่มรุก EV คาดได้ประโยชน์

คาดกำไร 3Q66 ฟื้นตัว YoY

เราคาดกำไรสุทธิ ใน 3Q66 (สิ้นสุด ธ.ค.65) ที่ 432 ล้านบาท -11%QoQ, +9%YoY ผลประกอบการชะลอตัว QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล ไตรมาสนี้ไม่มีบันทึกเงินปันผลจากบริษัทลูกที่เวียดนาม เทียบ YoY ยังเติบโต โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) รายได้อยู่ที่ 3,644 ล้านบาท +4%YoY เติบโตตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ โดยยอดผลิตรถยนต์ในเดือน ต.ค.-พ.ย 2565 ที่เพิ่มขึ้น 13%YoY ซึ่งปัญหาขาดแคลนชีพบรรเทาความรุนแรงลง และขณะที่ค่ายรถยนต์ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง 2) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ฟื้นตัว 35% YoY เป็น 101 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของธุรกิจบริษัทร่วมที่เวียดนาม

แนวโน้ม 4Q66 – ปี 2567 ทิศทางสดใส

เราคาดใน 4Q66 ผลประกอบการยังฟื้นตัวต่อเนื่อง YoY ตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ซึ่งสถานการณ์ขาดแคลนชิพเริ่มคลี่คลาย ภาพรวมในปี 2566 (สิ้นสุด มี.ค. 2567) เราประมาณการกำไรที่ 1,526 ล้านบาท ทรงตัว YoY โดยคาดรายได้ ที่ 13,998 ล้านบาท +3%YoY อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนวัตถุดิบในช่วงครึ่งปีแรกที่สูง ฉุดให้ประสิทธิภาพในการทำกำไรปรับลดลง ขณะที่แนวโน้มปี 2567 เราคาดกำไรจะฟื้นตัว 9%YoY เป็น 1,657 ล้านบาท ซึ่งสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 5% เป็น 1.94 ล้านคัน ซึ่งทาง STANLY ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่ม สำหรับสินค้าหลอดไฟทั้งไฟหน้า-ไฟท้าย ทั้งรถยนต์นั่งส่วน บุคคล, รถมอเตอร์ไซค์, และรถกระบะ รวมถึงโมเดลใหม่ที่เป็นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ด้านอัตรากำไรดีขึ้น หลังราคาวัตถุดิบหลักหลายตัวปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก

พร้อมรับมือ EV..ฮอนด้าประกาศแผนลงทุนเป็นบวกต่อ STANLY มากสุด

เรามีมุมมองเป็นบวกในระยะยาว ต่อการที่รัฐบาลส่งเสริมตลาด EV ซึ่ง STANLY ที่มีจุดแข็งจากการเป็นผู้ผลิตโคมไฟ และหลอดไฟ สำหรับรถยนต์ รายใหญ่สุดในประเทศ ขณะที่สินค้าหลักที่ผลิตสามารถปรับให้ใช้กับรถกับ EV ได้ โดยเตรียมโรงงาน Lamps สำหรับรองรับการผลิตชิ้นส่วน EV ล่าสุดฮอนด้าประกาศแผนลงทุน EV ในประเทศไทย โดยจะขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานจังหวัดปราจีนบุรีในช่วงปลายปี 2566 นี้ สําหรับโมเดล Honda e:NP1 / e:NS1 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้า 100% เรามองเป็นบวกต่อ STANLY มากสุด ซึ่งฮอนด้าเป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท มีสัดส่วนราว 50% ของรายได้รวม ซึ่งมีโอกาสสูงที่บริษัทจะได้รับออร์เดอร์ EV จากทางฮอนด้า

คงคําแนะนํา “ซื้อ”

เรามองว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 ตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ขณะที่ระยะยาวเรามองการเข้ามาของ EV เรามองเป็นวัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ของบริษัท เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชิ้นส่วนไม่กี่รายที่สินค้าหลักที่ผลิตไม่ถูก disrupt และมีโอกาสได้ออร์เดอร์ใหม่เพิ่มขึ้น ด้านสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash ไม่มีภาระหนี้สิน เราประเมินมูลค่าพื้นฐานในปี 2566 ที่ 218 บาท อิง PER เฉลี่ยที่ 11x

- Advertisement -