บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
TISCO Financial Group (TISCO TB) “ถือ” เพื่อรับเงินปันผลสูง
เน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง “ถือ” เพิ่ม TP เป็น 108 บาท
เราคาดว่าการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มผลตอบแทนสูงจะดีขึ้นในปี 2566 ขณะที่ NIM น่าจะลดลง YoY ตามอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ส่วนต้นทุนสินเชื่อคาดอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอัตราส่วน NPL ที่ต่ำ และ NPL Coverage ที่สูง ประเมินอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ที่ 7.6% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม เนื่องจาก TISCO จะรักษาอัตราการจ่ายเงินปันผลให้อยู่ในระดับสูงเพื่อให้ ROE ดีขึ้น แนะนำ “ถือ” พร้อมเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 108 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 1.96 เท่า ROE 17.3%) หลังจากเพิ่มคาดการณ์กำไรเพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่สูงขึ้น ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ต้นทุนสินเชื่อและต้นทุนทางการเงินสูงเกินคาด หุ้นเด่นคือ KKP และ BBL
กำไร 4Q65 ทรงตัว YoY ตามที่เราคาด
กำไรสุทธิ 4Q65 อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท ทรงตัว YoY และ QoQ ขณะที่กำไรปี 2565 เติบโต 6% YoY จากต้นทุนสินเชื่อที่ลดลง คุณภาพสินทรัพย์ดีกว่าคาด โดยอัตราส่วน NPL คงที่ QoQ ที่ 2.09% ใน 4Q65 สินเชื่อเพิ่มขึ้น 8% YoY และ 3% QoQ นำโดยสินเชื่อ SME และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ส่วน NIM ทรงตัว QoQ ที่ 5.14% ใน 4Q65 รายได้ค่าธรรมเนียมลดลง 20% YoY จากค่าธรรมเนียมการจัดการสินทรัพย์ที่ลดลงในไตรมาส 4/65 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 47.1% ในปี 2565 จาก 44.0% ในปี 2564 ทั้งนี้ TISCO ตั้งสำรอง 379 ล้านบาท หรือคิดเป็นต้นทุนสินเชื่อ 0.7% ในไตรมาส 4/65 การตั้งสำรองในปี 65 ลดลง 65% จากปีก่อน เป็น 723 ล้านบาท หรือคิดเป็นต้นทุนสินเชื่อ 34bp เทียบกับ 96bp ในปี 64
คาดสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงจะหนุนสินเชื่อโต 5-10% ในปี 66
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 2566 ที่ 5-10% และจะเน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง) TISCO ตั้งเป้าเปิดสำนักงานสินเชื่อสมหวังให้ครบ 1,000 สาขา (ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียน) โดยจะเพิ่ม 200 สาขาต่อปีในปี 2566 – 68 ทั้งนี้ ธนาคารได้เปิดสาขาใหม่ 94 แห่ง เป็น 450 แห่งในปี 2565 ซึ่งการเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อ และประกันภัย ผบห. ยังเผยอีกว่าธนาคารไม่สนใจธุรกิจธนาคารเสมือนจริง (การให้กู้ยืมที่ไม่มีหลักประกัน) และจะมุ่งเน้นไปที่สินเชื่อที่มีหลักประกันที่ให้ผลตอบแทนสูงมากกว่า
คาด NIM ลดลง ขณะที่ต้นทุนสินเชื่อยังอยู่ในระดับต่ำ
แม้ในปี 66 ผลตอบแทนสินเชื่อจะสูงขึ้นจากกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูงที่กำลังเติบโต แต่คาดว่า NIM จะลดลง 17bps YoY เนื่องจากต้นทุนทางการเงินจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าผลตอบแทนสินเชื่อ ในแง่บวก เราประเมินต้นทุนสินเชื่อจะยังอยู่ในระดับต่ำที่ 0.30-0.40% ในปี 66-67 เนื่องจากเชื่อว่าการตั้งสำรองหนี้สูญในปัจจุบันมีมากเกินพอ เนื่องจาก TISCO มี NPL Coverage สูงถึง 259% ในปี 65 โดยที่ TISCO คาดว่า NPL Coverage จะค่อยๆ ลดลงเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงระดับปกติ 150-160% เราปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรปี 66-67 ขึ้น 5-8% เพื่อสะท้อนการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่ง