KS Daily View 18.01.2023 >> คาดตลาดหุ้นยัง Wait &See การประชุม BOJ วันนี้ และติดตาม Debt Ceiling สหรัฐ ประเมิน SET Index แกว่งตามเดิมคือ 1680-1691 จุด กลยุทธ์ระยะสั้นเลือกหุ้นที่อยู่โซนล่างและมีทิศทางผลประกอบการเติบโต แนะนำ KLINIQ

สรุปตลาดหุ้นเมื่อวาน

ในประเทศ : SET Index ปิด 1681.04 จุด (-0.23%) แกว่งตัวออกข้างสอดคล้องกับในภูมิภาคซึ่งรอการประชุม BOJ และไม่ได้มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อตลาดอย่างมีนัยยะ โดยหุ้นที่ขึ้นหนุนดัชนีหลักๆ คือ BTG +4.6%, PTTGC +2.5%, SCC +1.4% ฯลฯ หุ้นที่กดดัชนีคือ HMPRO -3.3%,AWC -3.2%,MINT-2.96% ฯลฯ

ต่างประเทศ : ตลาดหุ้นสหรัฐพักฐานเนื่องจากเข้าสู่ช่วงการรายงานผลประกอบการงวด 4Q22 โดยรวมดัชนี Dow Jones -1.14%DoD, ดัชนี S&P500 -0.2%, NASDAQ 0.14% โดย Sector ในดัชนี S&P500 ของสหรัฐ กลุ่มที่ Outperform คือ กลุ่ม IT+0.44%, Energy +0.12%, Real Estate และ Consumer Discretionary ทรงๆตัว ส่วนกลุ่มที่ Underperform คือ Materials -1.07%, Communication Services -0.92% ฯลฯ

ประเด็นที่ต้องติดตามและเป็นกระแส :

ระยะสั้น Key Highlight สำคัญที่ต้องติดตามในภาพใหญ่ :

1.) ติดตามวันนี้ผลการประชุม BOJ ช่วง 10 โมง ตลาดคาดจะมีการขยายเพดานหรือยกเลิกนโยบาย Yield Curve Control บนพันธบัตรระยะยาว 10 ปี หากออกมาในโทน Hawkish หรือกลับมาเร่งใช้นโยบายการเงินตึงตัว ประเมินเป็น Sentiment ลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่คาดกระทบ SET Index จำกัดประเมินแนวรับ 1666 /1680

2.) ติดตามวันพรุ่งนี้ประเด็นเพดานหนี้สาธารณสหรัฐ(Debt Ceiling) โดยเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 31.381 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งจะชนเพดานวันที่ 19 ม.ค. 2023 คาดมีความเสี่ยงเกิด Goverment Shutdown ในสหรัฐ หลังจากรัฐบาลสหรัฐไม่ได้ครองเสียงข้างมาก เรามองว่าตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะเห็นการย่อลง แต่มองพักฐานแค่ระยะสั้นหากไม่ได้มีการ Shutdown นาน

3.) ติดตามมุมมองตลาดที่เริ่มมีมุมมองบวกผ่อนคลายความกังวลเรื่อง Global Recession อิงจากคาดการณ์ใน Bloomberg ล่าสุด คาด Probbality Recession ในยุโรปปรับลดลงเหลือ 70% จากเดิม 80% แม้ของไทยโอกาสเพิ่มขึ้นเล็กน้อยอยู่ที่ 15% จาก 12.5%แต่ยังอยู่ในระดับต่ำมาก โดยรวมเรามองบวกต่อหุ้นกลุ่ม Tech กลุ่ม Growth (BE8, BBIK) , กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (HANA)

ภาพย่อย :

1.) ติตตามการรายงานผลประกอบการ 4Q22 ของกลุ่มธนาคาร คาดการณ์ส่วนใหญ่จะประกาศงบช่วงปลายสัปดาห์ เราประเมิน BBL, SCB เด่นสุด เพราะคาดกำไรจะเติบโตได้ทั้ง YOY และ QOQ

2.) ติดตามการประชุม กนง. 25 ม.ค. เราคาดมีการส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ย (ปัจจุบันอยู่ที่ 1.25%) เพื่อลดการเก็งกำไรทิศทางค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วมากกว่า 13% จากปลายเดือน พ.ย. 2565 ที่ราวๆ 38 บาทต่อ USD มองกลุ่มที่จะได้ sentiment บวกจากเรื่องนี้คือกลุ่ม Finance ชื่นชอบ THANI และโรงไฟฟ้า BGRIM, SSP ส่วนกลุ่มที่ได้ sentiment ลบคือ กลุ่มธนาคาร

Theme การลงทุนแนะนำ

1.) กลุ่มการเงิน ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยในต่างประเทศและในประเทศผ่านจุด Peak แนะนำกลุ่ม AMC คือ JMT, CHAYO กลุ่มเช่าซื้อรถบรรทุก THANI

2.) กลุ่ม Tech Consult ได้กระแสบวกตามต่างประเทศ /อัตราดอกเบี้ยผ่าน Peak/ กระแส Virtual Bank แนะนำ BE8, BBIK

3.) กลุ่มทีได้ประโยชน์จากราคาพลังงานปรับลงและเงินบาทแข็งค่าแรง แนะนำ โรงแรมในยุโรป SHR, โรงไฟฟ้า BGRIM SSP กลุ่มวัสดุก่อสร้าง TOA

4.) กลุ่มเสริมความงาม แนะนำ KLINIQ

ประเมินตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังคงคาดแกว่งตัวในกรอบเดิม 1680-1691 จุด หุ้นแนะนำ KLINIQ

Top pick :

KLINIQ (ราคาพื้นฐาน 44.5 บาท) ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมาราว 13%นับตั้งแต่ต้นปี (Ytd) เรามองว่าเป็นจังหวะทยอยสะสม ด้วยภาพของการเติบโตอุตสาหกรรมความสวยงามที่ยังเติบโต เรายังมองบวกต่อทิศทางผลประกอบการในปี 2023 คาดกำไรสุทธิเติบโต 24%YoY อยู่ที่ 240 ล้านบาท เรามองว่า KLINIQ อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะรองรับ Demand ความงามในประเทศไทย และมีโอกาสในการเจาะตลาดต่างประเทศ CLMV ทั้งนี้ KLINIQ มีแบรนด์ ที่แข็งแกร่งและได้เปรียบด้านต้นทุนเพราะมีเครือข่ายสาขา เงินทุนที่ได้รับจาก IPO จะช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทฯ ขยายธุรกิจได้เร็วและง่ายกว่าคู่แข่ง

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Retail Sales สหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -0.8% MoM ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -0.1% MoM และ +6.8% YoY ถ้อยแถลงของ Fed Bostic, Fed Harker, และ Fed Bullard และตัวเลขดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -0.2% MoM
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขการส่งออก และนำเข้าญี่ปุ่นเดือน ธ.ค. คาด +10% YoY และ +24% YoY ตามลำดับ ตัวเลข Building Permits ของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด +3.7% MoM เป็น 1.4mn ยูนิต ตัวเลข Housing Starts สหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -1.9% MoM เป็น 1.4mn ยูนิต ตัวเลข Initial Jobless Claim สหรัฐฯ รายสัปดาห์คาด +212K (เทียบสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 205K) ถ้อยแถลงของ Fed Collins และ Fed Brainard และปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รายสัปดาห์
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นเดือน ธ.ค. คาด +0.2% MoM และ +4% YoY การกำหนดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ของจีน 1 ปี และ 5 ปี คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.65% และ 4.3% ตามลำดับ ตัวเลข Gfk Consumer Confidence index อังกฤษเดือน ม.ค. คาด -40 จุด (ดีขึ้นจาก -42 จุด) ตัวเลข Retail Sales อังกฤษเดือน ธ.ค. คาด +0.4% MoM ตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตเยอรมันเดือน ธ.ค. คาด -1.2% MoM และ +20.8% YoY ถ้อยแถลงของ ECB President Lagarde และ Fed Waller และตัวเลข Existing Home Sales สหรัฐฯ เดือน ธ.ค. คาด -2% MoM เป็น 4mn ยูนิต
- Advertisement -